ถึง Chevrolet Trax ไม่ได้เป็นรถที่ดังเปรี้ยงจนถึงขั้นพีคสุดมากนัก แต่ก็ถือเป็นรถยนต์ที่ช่วยสร้างผลกำไรได้พอประมาณ
เพราะอย่างน้อย ๆ มันก็มีราคาขายแพงกว่าพวก Chevrolet Sonic ระดับหนึ่ง และก็ยังเป็น 1 ในเอสยูวีขนาดเล็กที่ขายดี
ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

2016_02_11_Chevrolet_Trax_1

ตลอดทั้งปี 2015 Chevrolet Trax ก็ถูกขายไปได้ 63,303 คัน หรือเป็นเบอร์ 2 ในกลุ่มเอสยูวีเล็ก เมื่อบวกรวมยอดขาย
กับอีก 74 ประเทศก็เท่ากับ Chevrolet Trax มียอดขายสะสมตั้งแต่ปี 2012 จนถึงวันนี้รวมแล้วได้ 4 แสนกว่าคัน

ความสำเร็จของ Chevrolet Trax ในสหรัฐอเมริกาคือลูกค้านำรถรุ่นเก่าที่ไม่ใช่ยี่ห้อ Chevrolet มาเทิร์นเป็นรถใหม่
มากกว่าที่จะเป็นลูกค้าเก่าจาก Chevrolet โดยมีลูกค้าผู้หญิงสัดส่วน 60% ให้ความสนใจเป็นเจ้าของ

2016_02_11_Chevrolet_Trax_2

และเพื่อมิให้ Trax ตกขอบตลาดเอสยูวีเล็กที่กำลังมาแรง พวกเขาจึงขอเปิดตัว Chevrolet Trax รุ่นปรับโฉม ที่มาพร้อม
กับใบหน้าซื่อ ๆ ใส ๆ วัยรุ่นน่าจะชอบ และผู้สูงวัยก็น่าจะชอบตาม และลงทุนปรับปรุงดีไซน์ภายในห้องโดยสารใหม่

Chevrolet Trax Minorchange จึงมาพร้อมกับความ “พรีเมี่ยม” (อีกแล้ว) ด้วยหน้าตาที่เพรียวเรียวยาวตามเอกลักษณ์
Chevrolet ยุคใหม่ ส่วนบั้นท้ายก็มีการปรับปรุงไฟท้ายใหม่และกันชนท้ายใหม่

2016_02_11_Chevrolet_Trax_3

ไฮไลต์คือภายในห้องโดยสารที่ลงทุนหล่อกว่าโมลด์ใหม่ที่มีการออกแบบให้ดูคล้ายกับ 2016 Chevrolet Cruze คือเน้น
ความนุ่มนวล, พลิ้วไหวและดูน่าใช้งานง่ายกว่าเดิม งานออกแบบยังคงเน้นแนวทาง Dual-Cockpit ที่ประกอบไปด้วย
หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว MyLink รองรับเครือข่ายมือถือ 4G LTE เน้นการตกแต่งสีห้องโดยสารตัดกันในรุ่นย่อย
Premier

GM เคลมว่าลูกค้าจะสามารถรู้สึกได้จากห้องโดยสารใหม่ที่ยกระดับคุณภาพไปอีกชั้นที่ใส่ใจในรายละเอียดและไร้เขต
ความรู้สึกปิดกั้นทั้งความพรีเมี่ยม, ดูมีราคาและการรวมตัวของเทคโนโลยีทั้งหลาย

2016_02_11_Chevrolet_Trax_4

ฟีเจอร์ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ก็ถือว่ามาเต็มพิกัด ได้แก่ ระบบเตือนการเปลี่ยนเลน, ระบบเตือนวัตถุข้ามผ่านท้ายรถขณะ
ถอยหลัง, ระบบเตือนป้องกันการชนและระบบเตือนจุดบอด

Chevrolet Trax Minorchange เตรียมส่งมอบให้ลูกค้าชาวอเมริกันได้ลิ้มลองภายในปลายปีนี้

ที่มา : Autoblog