โรงงาน BYD ที่ประเทศไทยนับเป็นโรงงาน BYD แห่งแรกนอกประเทศจีน ตั่งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ จังหวัดระยอง โดยโรงงานแห่งนี้จะเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวาเพื่อรองรับตลาดภายในประเทศไทยและส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ใน ASEAN
โรงงานผลิตรถยนต์ BYD แห่งนี้มีพื้นที่กว่า 948,000 ตารางเมตร ใช้เวลาก่อสร้างเพียง 16 เดือนนับจากพิธิเปิดหน้าดิน มาพร้อมแนวคิดการลดใช้พลังงานและคาร์บอนต่ำ ครบครันด้วยเครื่องจักรกลอัตโนมัติ กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และระบบบริหารจัดการโลจิสติกส์ล้ำสมัย ครอบคลุม 4 ขั้นตอนการ ผลิตยานยนต์ ได้แก่ การขึ้นรูป การเชื่อม การทำสี และการประกอบ ทั้งหมดนี้เพื่อการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูงและได้มาตรฐานสำหรับตลาดประเทศไทย
บรรยากาศ ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 พิธีเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ BYD แห่งแรกใรประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าคันที่ 8 ล้านของ BYD ภายในงานมีการจัดนิทรรศการ เส้นทางความสำเร็จของ BYD มาให้เยี่ยมชมกัน
เส้นทางสู่ความสำเร็จของ BYD
- ปี 1995 BYD ก่อตั่งขึ้นที่เมืองเซินเจิ้นโดยเริ่มจากการผลิตแบตเตอรี่แบบชาจ์ไฟได้
- ปี 2003 BYD เข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์อย่างเป็นทางการ
- ปี 2004 รถยนต์ไฟฟ้าแนวคิด ET เปิดตัวที่งานแสดงรถยนต์นานาชาติปักกิ่ง นับเป็นครั้งแรกที่รถยนต์พลังงานใหม่เข้าร่วมในงานแสดงรถยนต์ระดับนานาชาติที่จัดขึ้นในประเทศจีน
- ปี 2008 Warren Buffett จากกลุ่มบริษัท Berkshire Hathaway เข้าซื้อหุ้นของ BYD , เปิดตัวรถยนต์ F3DM เป็นรถ PHEV ที่เริ่มผลิตเป็นรุ่นแรกของโลก ถือเป็นผู้นำที่ทำให้ธุรกิจรถยนต์พลังงานใหม่เกิดขึ้นได้จริง
- ปี 2010 BYD จับมือ Mercedes-Benz ร่วมก่อตั่งแบรนด์รถยนต์หรูพลังานใหม่ “DENZA”
- ปี 2013 BYD เปิดตัวเทคโนโลยี DM 2.0 ที่มีในรถยนต์รุ่น Qin ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นแรกของ “Dynasty Series” ที่ออกสู่ตลาด
- ปี 2015 ประกาศกลยุทธ์รถยนต์พลังงานใหม่ “7+4” ผลักดัน อุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ทั่วโลกให้มีการเร่ง พัฒนามากขึ้น
- ปี 2016 BYD เปิดตัวรถยนต์รุ่น “Dynasty” เป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ยุคใหม่
- ปี 2017 เปิดตัวรถยนต์แนวคิด “Dynasty” โดยใช้ Dragon Face ในการออกแบบ “Dynasty Series” อย่างเป็นทางการ
- ปี 2020 Blade Battery เปิดตัวและเริ่มผลิต นำโลกไปสู่อีกระดับของแบตเตอรี่พลังงานที่มีความปลอดภัยสูง
- ปี 2021 เปิดตัว DM-I ซุปเปอร์ไฮบริด ซึ่งทำให้รถยนต์พลังงานใหม่ทดแทนรถยนต์เชื้อเพลิงแบบดั้งเดิมได้เร็วขึ้น , รถยนต์พลังงานใหม่คันที่ 1 ล้านของ BYD ลงจากสายการผลิต , เปิดตัว BYD Ocean-series อย่างเป็นทางการซึ่งมีคุณสมบัติในด้านพลังงานใหม่โดดเด่นและทันสมัยมากขึ้น
- ปี 2022 ได้กลายเป็นบริษัทผลิตรถยนต์แห่งแรกในโลกที่หยุดการผลิตรถยนต์เชื้อเพลิงในเดือนมีนาคม , เปิดตัวเทคโนโลยี Cell to Body (CTB) โดยรวมเซลล์แบตเตอรี่เข้ากับตัวรถโดยตรง ซึ่งได้สร้างศักยภาพด้านความปลอดภัยและสมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มที่ , BYD ประกาศเข้าสู่ตลาดรถยนต์นั่งในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ , รถยนต์พลังงานใหม่คันที่ 3 ล้านของ BYD ลงจากสายการผลิต
- ปี 2023 เปิดตัว “Yangwang” แบรนด์ระดับไฮเอนด์อย่างเป็นทางการ โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงสุดในการสร้างแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่ระดับไฮเอนด์ , เปิดตัว “Fang Cheng Bao” แบรนด์ที่มีลูกค้าเฉพาะกลุ่มโดยใช้เทคโนโลยีพลังงานใหม่ที่มีความชำนาญพิเศษเพื่อร่วมค้นหาความต้องการในการใช้งานรถยนต์ของลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ,รถยนต์พลังงานใหม่คันที่ 5 ล้านลงจากสายการผลิต เป็นบริษัทรถยนต์แห่งแรกของโลกที่บรรลุเป้าหมายนี้ , ยอดขายต่อปีทะลุ 3.02 ล้านคัน เป็นแชมป์ยอดขายระดับโลก
- ปี 2024 โรงงานที่ประเทศไทยได้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ รถยนต์พลังงานใหม่คันที่ 8 ล้านของ BYD ลงจากสายการผลิตกลายเป็นบริษัทรถยนต์แห่งแรกและแห่งเดียวในโลกที่บรรลุเป้าหมายนี้
ทั้งนี้ได้มีการโชว์สิทธิบัตรด้านนวัตกรรมอีกมากมาย
ด้านรถยนต์ที่ได้นำมาโชว์ภายในงานมีด้วยกัน 4 รุ่น ด้านแพลตฟอร์มรถยนต์มีมาโชว์ด้วยกัน 2 แบบ
นายหวัง ชวนฟู่ ประธานกรรมการและประธานบริษัท BYD Group กล่าวว่า “ BYD ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วหลังจากเข้าสู่ตลาดประเทศไทยได้เพียง 2 ปี โดยประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำด้านยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าติดต่อกันถึง 18 เดือน ในอนาคต BYD วางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% และรถยนต์ Plug-in Hybrid เพิ่มเติมในประเทศไทย เราจะผสานความเป็นเลิศด้านการผลิตในประเทศเข้ากับเทคโนโลยีพลังงานใหม่ขั้นสูงของ BYD เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น”
นายหลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท BYD Auto Industry จำกัด กล่าวว่า “การเปิดโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแห่งใหม่ของ BYD ในประเทศไทย เป็นก้าวสำคัญที่ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัท ที่มีต่อลูกค้าชาวไทย ควบคู่ไปกับการสานต่อเป้าหมายระดับโลก โรงงานแห่งนี้ไม่เพียง จะช่วยให้เราสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ผลิตในไทย แต่ยังตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำแถวหน้าของโลกในอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ ที่สำคัญเราเชื่อมั่นว่าโรงงานแห่งนี้จะสามารถสร้างโอกาสในการทำงานให้แก่ชาวไทยได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาแรงงานที่มีทักษะให้กับวงการยานยนต์ และพลังงานทดแทนได้อีกด้วย นอกจากนี้โรงงาน BYD ประเทศไทยจะช่วยดึงดูดการลงทุนและส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่อประเทศอย่างมหาศาล”
โอกาสนี้ BYD ได้ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า BYD Dolphin ซึ่งเป็นรถยนต์พลังงานใหม่คันที่ 8 ล้าน และได้รับการผลิตที่โรงงานแห่งนี้ให้กับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านนวัตกรรม และการคมนาคมที่ยั่งยืน โดยได้รับเกียรติจากนายหวัง ชวนฟู่ประธานกรรมการและประธานบริษัท BYD Group เป็นประธานในพิธีเปิดโรงงาน พร้อมมอบรถแก่ตัวแทนมูลนิธิ หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์
ในช่วงแรกของโรงงาน BYD แห่งนี้จะผลิต BYD Dolphin พวงมาลัยขวาก่อนเป็นรุ่นแรก ส่วนเป้าหมายการผลิตเดือนแรกอยู่ที่ 800-1,000 คัน และกำลังการผลิตรถยนต์สูงสุดของโรงงานแห่งนี้อยู่ที่ 1 คันในเวลา 2 นาที หรือสูงสุดจำนวน 150,000 คันต่อปี หากสังเกตุดูภายในโรงงานแห่งนี้จะมีหัวจ่ายน้ำมันตั่งอยู่ นั่นแปลว่าจะไม่ได้มีการผลิตเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวแน่นอน
ภายในโรงงานมีพื้นที่สำหรับฝึกอบรมทักษะพื้นฐานให้กับพนักงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน สำหรับสัดส่วนแรงงานที่ใช้ภายในโรงงานผลิตรถยนต์แห่งนี้ในเบื้องต้นมีจำนวน 2,000 คน เป็นคนไทย 1,600 คน คนจีน 400 คน และส่วนของโรงงานผลิตเตอรี่มีจำนวน 1,000 คน (ยังไม่มีตัวเลขชัดเจนระหว่างคนไทย และคนจีน) แรงงานคนคิดเป็น 50% และใช้เครื่องจักรคิดเป็น 50% ของการทำงานทั้งหมด เมื่อโรงงานดำเนินงานอย่างเต็มรูปแบบ คาดว่าจะสร้างงานได้กว่า 10,000 ตำแหน่ง