BMW Thailand เปิดตัว BMW 7-Series โฉมใหม่ เป็นเจเนอเรชั่นที่ 6 ของตระกูลนี้ รหัสตัวถัง G12 และถือเป็น
ที่สุดของ 7-Series เท่าที่เราเคยผลิตมา และเป็นมาตรฐานใหม่ของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีใน Segment นี้
ที่มาพร้อมสมรรถนะและประสิทธิภาพใหม่แห่งการขับขี่

P90178449_highRes_the-new-bmw-7-series Wallpaper_1920x1200_07_7series_sedan

นับเป็นครั้งแรกที่คอนเซ็ปต์ Carbon Core นำมาใช้ใน BMW 7-Series โฉมใหม่ โดยเราได้นำหลักการของคาร์บอน
ไฟเบอร์ที่ใช้ในบีเอ็มดับเบิลยู i8 มาใช้กับ BMW 7-Series โฉมใหม่นี้ การผสมผสานที่ก้าวล้ำของการใช้วัสดุต่างๆ
ทำให้ยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ทรงพลังสูงสุดและน้ำหนักเบาที่สุด แต่ยังคงความเป็นรถซีดานที่หรูหราและทรงประสิทธิ
ภาพที่สุดด้วยเช่นกัน สร้างสรรค์ความเป็นยานยนต์ระดับ “ First Class” สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง จะได้รับความรู้สึกพิเศษ
จากการต้อนรับในแบบ Exclusive อีกด้วย

P90178482_highRes_the-new-bmw-7-series P90178483_highRes_the-new-bmw-7-series

รถยนต์รุ่นแฟลกชิปที่มาพร้อมสมรรถนะล้ำหน้าและรูปลักษณ์ดึงดูดสะกดทุกสายตา

BMW 740Li (G12) เป็นรุ่นฐานล้อยาว Long Wheel Based มีขนาดความยาวของตัวรถ 5,238 มิลลิเมตร
กว้าง 1,902 มิลลิเมตร สูง 1,485 มิลลิเมตร และเป็นรุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของ BMW เท่าที่เคยผลิตมา
และยังเป็นรถยนต์รุ่นแรกของบีเอ็มดับเบิลยูที่ใช้ฟีเจอร์ Air Flap Control ซึ่งจะทำงานเมื่อระบบต้องการ
ระบายความร้อนโดยนอกจากจะพัฒนาสมรรถนะด้านแอโรไดนามิกส์ให้กับรถแล้ว ยังเพิ่มความสะดุดตา
ให้กับส่วนหน้าของรถด้วยจำนวนซี่ของไตคู่บีเอ็มดับเบิลยูที่เพิ่มขึ้น ไฟหน้ายังได้รับการออกแบบขยายไปจนถึง
ขอบไต ในขณะที่ไฟทรงกลมคู่อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลถูกจัดวางอย่างพอดี ช่วยทั้งการใช้งานและ
ดึงดูดสายตา นอกจากนี้ ยังเป็น LED โดยมีให้เลือกแบบ Laser Light ด้วยเช่นกัน โดยไฟหน้าแบบ Laser Light
สามารถสังเกตได้จากแถบสีฟ้าตรงกลางของดวงไฟ

Carbon Core_01 Carbon Core_00

BMW EfficientLightweight : โครงสร้างแบบ Carbon Core
ช่วยลดน้ำหนักรวมของรถได้มากถึง 130 กิโลกรัม

เทคโนโลยี BMW EfficientLightweight ช่วยลดน้ำหนักรวมของ BMW 7-Series โฉมใหม่นี้ได้สูงสุดถึง 130 กิโลกรัม
เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ด้วยโครงสร้างตัวถังที่ผลิตด้วย Carbon Core ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ใน BMW i8
ทำให้ BMW 7-Series เป็นรถยนต์รุ่นแรกในเซ็กเมนต์นี้ที่ใช้โครงสร้างผลิตจากพลาสติกเสริมเส้นใยคาร์บอน (CFRP)
ผสมผสานกับโครงสร้างเหล็กและอะลูมิเนียม ช่วยเสริมความแข็งแกร่งและความมั่นคงของห้องโดยสาร ในขณะเดียวกัน
ก็ช่วยลดน้ำหนักของตัวรถได้อย่างมาก

 Craftmanship_02

สมรรถนะและความสะดวกสบายของการขับขี่ที่ได้รับการออกแบบเพื่อการใช้งาน
ในทุกสภาพด้วยมาตรฐานสูงสุด

โดยในรุ่นมาตรฐานได้รวมช่วงล่างแบบถุงลม สำหรับเพลาขับทั้งหน้าและหลังและระบบควบคุมความนุ่มนวล
ของโช้คอัพเอาไว้ด้วย นวัตกรรมใหม่ล่าสุดนี้มอบอิสระแห่งการขับขี่ให้แก่ผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกใช้งาน
โหมดที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานใน Sport Mode หรือ Eco Pro Mode เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่
หรือเลือกใช้ ADAPTIVE mode ซึ่งสามารถเรียกใช้งานได้ผ่านสวิทซ์ควบคุมแบบใหม่ การตั้งค่าเหล่านี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบ
ในการขับขี่และประเภทของเส้นทาง

Touch control display_00 Touch control display_03

การสั่งการด้วยระบบสัมผัสและการเคลื่อนไหวมือ (Gesture Control)

ใน All new BMW 740Li ใช้หน้าจอควบคุม iDrive ในระบบสัมผัสเป็นครั้งแรก ซึ่งนอกจากจะสามารถควบคุมระบบต่างๆ
ในแบบเดิมแล้ว ระบบสัมผัสแบบใหม่นี้ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถเลือกสั่งการและควบคุมจากการ
สัมผัสหน้าจอได้เช่นกัน

อีกหนึ่งฟังก์ชั่นใหม่ของการใช้งานร่วมกับระบบ iDrive คือ การสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ
หรือ BMW Gesture Control ซึ่งถูกนำมาใช้งานเป็นครั้งแรก เซ็นเซอร์ 3 มิติจะจับการเคลื่อนไหวของการสั่งงานระบบ
ควบคุมความบันเทิงและการสื่อสาร ซึ่งใช้งานได้อย่างง่าย เช่น การปรับระดับเสียง การรับหรือปฏิเสธสายเรียกเข้าโทรศัพท์

BMW Touch Command_08 Rear-seat entertainment_04

BMW Touch Command : เชื่อมต่อรถกับโลกภายนอกได้อย่างสมบูรณ์

นวัตกรรมของระบบควบคุมแบบมัลติฟังก์ชั่นซึ่งใช้ใน BMW 740Li โฉมใหม่นั้น มาในรูปแบบของ BMW Touch Command
หรือควบคุมสั่งการด้วยระบบสัมผัสผ่านหน้าจอแท็บเล็ตพกพาขนาด 7 นิ้ว สามารถใช้งานได้จากทั้งภายในและนอกตัวรถ
ซึ่งสามารถปรับและควบคุมระบบต่างๆ ของรถ ไม่ว่าจะเป็นการปรับที่นั่ง แสงไฟภายในตัวรถ การปรับอุณหภูมิ รวมถึง
ระบบความบันเทิงต่างๆ ระบบนำทาง และระบบการสื่อสาร และยังสามารถเล่นไฟล์เพลงและวิดีโอ รวมถึงใช้เป็น
เกมส์คอนโซลได้อีกด้วย

 Sky Lounge_01 Welcome light carpet_00

เหนือระดับแห่งการโดยสารด้วย Ambient Light หลังคากระจกแบบ Sky Lounge Panorama
และไฟ Welcome Light Carpet

BMW 740Li โฉมใหม่ที่ได้รับการออกแบบแสงไฟอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะไฟ Welcome Light Carpet ที่ให้ความรู้สึก
Exclusive ด้วยเส้นนำสายตารอบตัวรถประหนึ่งการปูพรมต้อนรับ อีกหนึ่งฟีเจอร์พิเศษที่มาพร้อมกันคือ
ไฟ Ambient Light ที่ช่วยสร้างบรรยากาศความหรูหราให้กับห้องโดยสาร

และยังมาพร้อมกับหลังคากระจกแบบ Sky Lounge Panorama ช่วยสร้างบรรยากาศเสมือนท้องฟ้าที่ประดับประดา
ไปด้วยดวงดาวหลากสี เป็นอีกหนึ่งความพิเศษเหนือระดับรถยนต์ซีดานหรูในเซ็กเมนต์เดียวกัน

BMW Laser Light : ความแตกต่างที่เหนือกว่าในเซ็กเมนต์รถซีดานหรู

อีกฟีเจอร์ใหม่ที่แตกต่างจากรถยนต์ซีดานในเซ็กเมนต์เดียวกันคือ BMW Laserlight ซึ่งคล้ายกับที่ใช้ใน BMW i8
ด้วยเทคโนโลยี BMW Selective Beam ช่วยลดความพร่ามัวและเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก
เพิ่มเติมจากไฟ LED ในรุ่นมาตรฐาน ไฟหน้าแบบเลเซอร์นี้มีแสงสีขาวและให้ความสว่างได้ในระยะ 600 เมตร สำหรับไฟสูง
ซึ่งเป็นระยะที่ไกลกว่าความสว่างจากไฟหน้าแบบ LED ถึง 2 เท่าและให้ความเข้มของแสงมากกว่าไฟหน้าแบบ LED ถึง 4 เท่า

BMW Laserlight_06 BMW Laserlight_07

ช่วงล่างแบบถุงลมและระบบควบคุมความนุ่มของโช้คอัพที่มาในรุ่นมาตรฐาน

ด้วยช่วงล่างระบบถุงลม สำหรับเพลาขับทั้งหน้าและหลัง และระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า BMW 740Li โฉมใหม่
ช่วงล่างแบบถุงลมซึ่งทำงานด้วยการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่อัดลมเข้าไปเก็บในถังลม ทำให้สามารถรักษาระดับของรถไว้ได้
แม้ในเวลาที่เครื่องยนต์หยุดทำงาน ระดับความสูงของรถจะถูกปรับให้คงที่อยู่เสมอไม่ว่าจะมีน้ำหนักบรรทุกเท่าไหร่ก็ตาม
และเนื่องจากในแต่ละล้อ มีตัวจ่ายลมที่ทำงานอย่างเป็นอิสระ จึงสามารถปรับระดับของรถให้เสถียรได้ แม้ว่าน้ำหนัก
ในการบรรทุกของล้อแต่ละข้างจะไม่เท่ากันก็ตาม

นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถปรับการควบคุมระดับนี้ได้ด้วยตนเองทั้งในระหว่างการขับขี่บนท้องถนน หรือแม้แต่การขับ
ในพื้นที่ต่างระดับ เช่น ในอาคารจอดรถที่มีความลาดชัน การปรับระดับจะกลับสู่ค่ามาตรฐานโดยอัตโนมัติที่ความเร็ว
35 กิโลเมตร/ชั่วโมง และเมื่ออยู่ในโหมด SPORT และใช้ความเร็วสูงในการขับขี่ ระบบจะปรับระดับความสูงของตัวรถ
ลงมา 10 มิลลิเมตรโดยอัตโนมัติ

Multifunctional instrument display_02 Multifunctional instrument display_00 Multifunctional instrument display_01

เครื่องยนต์เบนซินแบบ 6 สูบแถวเรียง รุ่นใหม่ Twin Power Turbo

BMW 740Li โฉมใหม่นี้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียงรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์รุ่นล่าสุดของบีเอ็มดับเบิลยู
ด้วยปริมาตรกระบอกสูบขนาด 3.0 ลิตร ซึ่งใช้เทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด
326 แรงม้า(PS) ที่ 5,500 – 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,380-5,000 รอบ/นาที
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายใน 5.6 วินาที  อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 14.3 กิโลเมตร/ลิตร
และมีอัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 166 กรัม/กิโลเมตร

BMW Display Key_01

BMW 7-Series 740Li Pure Excellence จะมีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบหลักๆ คือ

รุ่น Standard Package และ รุ่น Additional Package โดยในรุ่นแพ็คเก็จพิเศษ
จะเพิ่มฟังก์ชั่นดังต่อไปนี้

– ไฟหน้า BMW Laser Light
– เบาะนั่งหนังแท้ Nappa
– ภายในตกแต่งแบบ Pure Excellence
– หลังคาภายในตกแต่งหนัง Alcantara

สีตัวถังภายนอกมีให้เลือกด้วยกัน 6 สี

– สีดำ Black Sapphire
– สีทอง Cashmere Silver
– สีเงิน Glacier Silver
– สีขาว Mineral White
– สีน้ำตาล Jabota
– สีเทา Magellan Grey

โทนสีภายในห้องโดยสาร สำหรับรุ่น Standard มีให้เลือก 2 สี คือ Mocha และ Cognac
ส่วนรุ่น Additional Package มีให้เลือก 4 สี คือ Mocha, Cognac, Canberra Beige และ Zagora Beige

 

P90178460_highRes_the-new-bmw-7-series

 

ส่วนด้านราคาจำหน่าย อยู่ระหว่าง 7 ล้าน ถึง 7.5 ล้านบาท สำหรับรุ่น 740Li แบบนำเข้า CBU
BMW Thailand จะประกาศ 
ราคาอย่างเป็นทางการอีกครั้งในงาน Motor Expo 2015
ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม ที่ Challenger Hall เมืองทองธานี