ในยุคที่เครื่องยนต์สันดาปภายในถูกลดบทบาทลง และแทนที่ด้วยขุมพลังพลังงานไฟฟ้าหลากหลายรูปแบบ เพื่อมุ่งไปที่การลดมลภาวะทางอากาศ ตามที่ค่ายรถยนต์ต่างออกมาประกาศกันอย่างไม่ขาดสายในช่วงไม่กี่ปีมานี้ สำหรับเครื่องยนต์ขนาด 4-6 สูบอาจจะไม่เห็นผลกระทบเท่าไร แต่เมื่อพูดถึงเครื่องยนต์ V12 หลายคนคงสงสัยว่า จะยังมีค่ายไหนผลิตออกมาขายอยู่อีกหรือไม่
วันที่ 18 มกราคม 2022 BMW ได้ประกาศว่าจะยุติการทำตลาดของเครื่องยนต์ V12 ในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ โดยรุ่นสุดท้ายที่จะมาปิดฉากตำนาน ก็คือ M760I xDrive ที่ผลิตมาจำนวนจำกัดเพียง 12 คัน สำหรับตลาด US โดยเฉพาะ ขึ้นชื่อว่าเป็นรุ่นพิเศษส่งท้ายจำนวนจำกัด ย่อมมีรายละเอียดที่ทำให้เจ้า M760I xDrive นี้ มีความแตกต่างจากรุ่นปกติทั่วไปพอสมควร ได้แก่ การอัดแน่นอุปกรณ์และออฟชั่นมาแบบเต็มพิกัด ทั้งภายนอก ภายใน และยังสามารถเลือกอุปกรณ์ตกแต่งตามชอบได้ด้วย BMW Individual
(BMW 750iL E32)
BMW ได้นำขุมพลัง V12 มาใช้ในรถยนต์เวอร์ชั่นผลิตขายจริงตั้งแต่ปี 1987 ในโมเดล 750iL E32 โดยเป็นเครื่องยนต์รหัส M70 เบนซิน V12 SOHC 24 วาล์วขนาด 5.0 ลิตร (4,988 ซีซี) กระบอกสูบ x ช่วงชัก 84 x 75 มิลลิเมตร จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ ให้กำลังสูงสุด 299 แรงม้า (PS) ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 4,100 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ จาก ZFสำหรับไฮไลท์ของเครื่องยนต์ตัวนี้ คือการนำระบบคันเร่งไฟฟ้ามาใช้ ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากในยุคนั้น
(BMW 760Li xDrive)
ในขณะที่ขุมกำลัง V12 ตัวสุดท้ายของ BMW ที่วางอยู่ใน M760I xDrive จะเป็นเครื่องยนต์ BMW M TwinPowerTurbo รหัส N74 เบนซิน V12 DOHC 48 วาล์วขนาด 6.6 ลิตร (6,592 ซีซี) กระบอกสูบ x ช่วงชัก 89 x 88.3 มิลลิเมตร จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ตรงสู่ห้องเผาไหม้ แบบ Direct Injection พร้อมระบบอัดอากาศ แบบ Twin-Turbocharger พ่วง Intercooler พร้อมระบบ Double VANOS และ Valvetronic ให้กำลังสูงสุด 609 แรงม้า (PS) ที่ 5,500-6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ที่ 1,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ จาก ZF ทำอัตราเร่ง 0-60 ไมล์/ชม. ภายในเวลา 3.6 วินาที
(BMW 760Li xDrive)
รายการอุปกรณ์พิเศษเฉพาะรุ่น
- ล้ออัลลอย M Double-Spoke wheels ลาย 760M ขนาด 20 นิ้ว มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Window Grey หรือ Jet Black พร้อมยางสมรรถนะสูงแบบ run-flat
- เพลทบอกความเป็นรุ่นพิเศษ “THE FINAL V12” และ “1 OF 12” ติดตั้งบริเวณคอนโซลกลาง
- เพลทบอกความเป็นรุ่นพิเศษ “THE FINAL V12” ติดตั้งบริเวณสคัพเพลทที่ประตูทั้ง 4 บาน
- เพลทบอกความเป็นรุ่นพิเศษ “THE FINAL V12” ติดตั้งบนฝาครอบเครื่องยนต์
- เพลท “V12” ติดตั้งแทน “M760i” ที่บริเวณฝากระโปรงท้าย
- ถ้วยบ่งบอกความพิเศษเฉพาะรุ่น ที่จะระบุ สีภายนอก เบาะนั่ง และเลขตัวถัง ภายหลังที่ได้รับส่งมอบรถ
(BMW 760Li xDrive)
รายการอุปกรณ์มาตรฐาน
- สีภายนอกที่สามารถเลือกได้จาก BMW Individual
- เบาะหนังที่สามารถเลือกได้จาก BMW Individual Full Merino
- ทริมตกแต่งแบบ BMW Individual Piano Black
- คาลิปเปอร์เบรก M Sport สีดำหรือสีฟ้า
- ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Driving Assistance Professional Package
- เบาะที่นั่งด้านหลังแบบ Luxury
- หลังคากระจกพาโนรามิคที่สามารถเปลี่ยนสีได้ด้วยหลอด LED
- ระบบจอดรถอัตโนมัติด้วยรีโมท
- ชุดคิ้วกระจกประตู กระจังหน้าไตคู่ แบบสีดำ
- ระบบเครื่องเสียงจาก Bowers & Wilkins Diamond Surround Sound
- ไฟหน้า Adaptive LED Lights พร้อม Laserlight
สำหรับ BMW M760I xDrive Final V12 จะมีราคาจำหน่ายไม่รวมค่าขนส่งที่ 200,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 6,644,800 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย) โดยทาง BMW จะส่งรายละเอียดเพื่อเชิญลูกค้าคนสำคัญ ผู้ที่ครอบครอง BMW 7 series V12 ให้จับจองเป็นเจ้าของได้ และพร้อมส่งมอบในเดือนกรกฎาคมนี้
ที่มา: BMW