ถึงแม้รถยนต์ระบบขับขี่อัตโนมัติยังเป็นระบบที่ห่างไกลจากมือคนไทยอีกหลาย ๆ ปี
แต่เชื่อว่าทุกคนที่ยังมีชีวิตนับต่อจากนี้ไปอีก 20 ปีต้องได้สัมผัสมันแน่นอนเพราะ
ระบบดังกล่าวมันคืออนาคตใหม่แห่งโลกยานยนต์เพื่อการพัฒนาและการปรับปรุง
คุณภาพชีวิตของมนุษย์ให้ดีขึ้นอย่างมาก
นักวิเคราะห์ยานยนต์จากสำนักวิจัย IHS Automotive ได้เปิดเผยผลสำรวจเบื้องต้น
ก็พบว่าพวกเขาคาดการณ์ยอดขายรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติสูงถึง 21 ล้านคันภายในปี
2035 หรือนับต่อจากนี้ไปประมาณ 19-20 ปีข้างหน้า
ในรายงานกล่าวว่าสหรัฐอเมริกาจะมีบทบาทเป็นประเทศนำอุตสาหกรรมรถยนต์
ขับขี่อัตโนมัติด้วยยอดขายรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติหลายพันคันภายในปี 2020 ขณะที่
ญี่ปุ่นก็เร่งทุ่มงบพัฒนายานยนต์ขับขี่อัตโนมัติและจะมีบทบาทในการนำรถประเภท
นี้มาใช้งานมหกรรมกีฬา Olympic 2020
ตลาดรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติที่ยิ่งใหญ่เพียงหนึ่งเดียว อาจจะเป็นประเทศจีนด้วยจำนวน
ยอดขายรถยนต์และความต้องการเทคโนโลยีดังกล่าวก็น่าจะทำให้รถขับขี่อัตโนมัติ
ในจีนพุ่งทะยาน 4.5 ล้านคันภายในปี 2035
ยอดขายรถยนต์พรีเมี่ยมในตลาดฝั่งยุโรปตะวันตกจะเป็นผู้นำรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ
ด้วยยอดขายรวมกันถึง 3 ล้านคันในปี 2035 ส่วนรถพรีเมี่ยมที่ทำตลาดในยุโรปตะวัน
ออกจะมียอดขายรถขับขี่อัตโนมัติสูงถึง 1.2 ล้านคันภายในปี 2035 และอีก 1 ล้านคัน
จะมาจากตลาดตะวันออกกลางและแอฟริกาใต้
Egil Juliussen ผู้อำนวยการสำนักวิจัย IHS Automotive กล่าวว่ายอดขายรถยนต์
ขับขี่อัตโนมัติทั่วโลกจะมียอดถึง 6 แสนคันภายในปี 2025 และจากการคาดการณ์
ระหว่างปี 2025 จนถึงปี 2035 จะมีอัตราเติบโตถึง 43%
ปัจจัยส่งเสริมที่มีผลดีต่อการขยายตัวของรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติคือ ระบบคมนาคม
แบบแชร์ริ่งและการลงทุนพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติจากผู้ผลิต, ซัพพลายเออร์และ
บริษัทเทคโนโลยี
IHS ยังชี้แนะอีกว่าระบบขับขี่อัตโนมัติจะต้องตอบข้อสงสัยทั้ง 3 ข้อให้ได้ก่อน อาทิ
การตอบโจทย์ด้านกฎหมายในแต่ละประเทศทั่วโลก, ความน่าเชื่อถือในด้านความ
ปลอดภัยแห่งโลกไซเบอร์และความเสถียรของซอฟท์แวร์
Jeremy Carlson นักวิเคราะห์หลักแห่งสำนัก IHS Automotive กล่าวว่าระบบ
ขนส่งแห่งอนาคตจะเป็นการเชื่อมต่อและควบรวมในหลาย ๆ โหมดเข้าไว้ด้วยกัน
ทั้งเทคโนโลยีและระบบขับขี่อัตโนมัติอันเป็นระบบศูนย์กลางที่มีบทบาทสำคัญ
IHS หวังเอาไว้ว่ารถยนต์รุ่นใหม่จะถูกสร้างรถยนต์ระบบขับขี่ปกติ แต่ถูกเสริมด้วย
ระบบขับขี่อัตโนมัติเพิ่มเติม ลูกค้าก็จะมีทางเลือกทั้งการเดินทางแบบส่วนตัวจนถึง
ระบบขนส่งสาธารณะ และมีแนวโน้มรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่และรถที่ใช้
พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นทางเลือกใหม่ด้วยเช่นกัน
ที่มา : Autocar