Volkswagen Group ได้ตั้งเป้าหมายให้บริษัทจะต้องเป็น 1 ในด้านการพัฒนาและการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV ของโลกโดยที่ไม่มีบริษัทรถยนต์รายใดกล้าเทียบเคียงได้ นั่นก็ทำให้บริษัทรถยนต์ในเครือก็จะต้องปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การพัฒนารถยนต์ใหม่ทั้งหมดเพื่อสอดรับกับยุทธศาสตร์ของบริษัทแม่
Audi แบรนด์รถยนต์หรูในเครือ Volkswagen Group ที่มีความสำคัญต่อกลุ่มบริษัทในด้านผลกำไร ก็มียุทธศาสตร์ที่พร้อมรับมือกับสถานการณ์ตลาดรถยนต์ทั่วโลกที่เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน
(Audi Elaine Concept รถยนต์ต้นแบบไฟฟ้า EV ในอนาคต)
Peter Mertens ผู้บริหาร Audi คนใหม่ผู้ซึ่งย้ายมาจาก Volvo Cars ในช่วงต้นปีที่ผ่าน ได้เผยยุทธศาสตร์ใหม่เพื่อการผลักดันรถยนต์ไฟฟ้า EV และเร่งการสร้างสังคมยานยนต์ไฟฟ้าแก่สำนักข่าว Automotive News Europe
Mertens กล่าวว่านอกเหนือจากการเตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า EV 3 รุ่นในเวลาไม่นาน Audi ก็เร่งปรับกลยุทธ์การขายรถยนต์ที่เร้าใจกว่าแผนการของบริษัทแม่พอสมควร นั่นคือ Audi จะต้องขายรถยนต์ Plug-in Hybrid และ EV ให้ได้ถึง 3 ต่อ 1 ภายในปี 2025
ขณะนี้ Audi กำลังพัฒนาพื้นตัวถังสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า EV ใหม่ล่าสุดภายใต้ชื่อ ‘Premium Platform ‘Electric’ (PPE) ร่วมกับ Porsche ที่มีวิธีการพัฒนาโดยการแตกตัวทีมวิศวกรเพื่อแยกกันพัฒนาชุดอุปกรณ์ Module และระบบอย่างอิสระ โดยรถยนต์ไฟฟ้า EV ของ Audi 2 ใน 3 รุ่นที่มีขนาดตัวถังระดับเดียวกับ Audi A4 และ A6 จะถูกสร้างขึ้นบนพื้นตัวถัง PPE
(Audi e-tron Quattro Concept)
ในอนาคต Audi มุ่งมั่นที่จะลดจำนวนเครื่องยนต์ลงถึง 40% และนั่นอาจส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์แบบ V10 และ W12 ค่อนข้างแน่นอน ส่วนเครื่องยนต์ V8 นั้นทางบริษัทยังจำเป็นต้องเก็บเอาไว้อยู่ เนื่องจากมีการสำรวจความต้องการลูกค้าพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ยังต้องการเครื่องยนต์ชนิดนี้อยู่อีกมาก
ปัจจุบัน Audi ได้แนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ Level 3 ใน All NEW Audi A8 กันไปแล้ว แต่หาก Audi จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ Level 4 ก็คงต้องใช้เวลาในการพัฒนาอีกประมาณ 5 ปี เพื่อให้ระบบสามารถทำงานอย่างปลอดภัยบนท้องถนนจริง ๆ
ที่มา : Automotive News