ในงาน Frankfurt Auto Show ที่กำลังดำเนินไปอยู่นั้น ไมได้มี SUV ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนๆ
เพียงคันเดียวอย่าง Tesla Model X มาร่วมแสดงแต่ยังมี concept car อีกคันหนึ่งจากค่าย Audi ที่มีชื่อว่า
E-Tron Quattro Concept ซึ่ง Audi ตั้งใจว่ารถพลังงานไฟฟ้าคันนี้จะออกมาท้าชนกับ Tesla
ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ

ขนาดของตัวถังนั้นมีขนาดอยู่ตรงกลางระหว่าง Q5 และ Q7 งานออกแบบภายนอกนั้นจัดได้ว่าเป็นการเปลี่ยน
design language เลยทีเดียวเนื่องจากรถคันนี้มาพร้อมกับกระจังหน้าทรงใหม่พร้อมกับไฟท้ายที่ดูแปลกตา
กว่าพี่น้องร่วมค่ายที่ขายอยู่ในปัจจุบันมาก นอกจากนี้ฝากระโปรงยังมีแผงระบายความร้อน พร้อมกับติดตั้ง
aero parts ที่สามารถปรับเปิดปิดไฟฟ้าได้เพื่อการรีดลมที่ดีกว่า ค่า cd ของรถไฟฟ้าคันนี้จึงอยู่ที่ 0.25
ซึ่งนับว่าดีที่สุดในประเภทรถ SUV

ภายในมากับเบาะ 4 ที่นั่งพร้อมกับงานออกแบบโล่งสบายตา เนื่องจากแผงคอนโซลกลางไม่มีปุ่มควบคุม
อะไรมาให้ทั้งสิ้น นอกจากจอระบบสัมผัสสองจอที่ติดตั้งมาให้แทน นอกจากนี้ยังมีระบบ infotainment
ใส่มาให้และคาดว่าน่าจะมีระบบ driver assist ต่างๆติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานอีกด้วย

ระบบส่งกำลังนั้นได้รับการพัฒนามาจากระบบที่ติดตั้งใน R8 E-Tron ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ประกอบ
ไปด้วยมอเตอร์ 3 ตัวโดยที่ 2 ตัวนั้นติดตั้งที่เพลาขับล้อหลังและอีก 1 ตัวที่เพลาขับล้อหน้า ซึ่งให้กำลังสูงสุด
503 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดสูงสุด 81.57 กก-ม. (800 นิวตันเมตร) โดยที่มากับระบบเกียร์ที่มี 2 mode คือ
drive และ sport อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมงใช้เวลา 4.6 วินาทีพร้อมกับความเร็วสูงสุดที่ถูกจำกัด
ไว้ที่ 210 กิโลเมตร/ ชั่วโมง

Battery lithium-ion ที่ติดตั้งมาใต้ตัวรถนั้นมีขนาด 95 กิโลวัตต์/ ชั่วโมงซึ่งทาง Audi แจ้งไว้ว่ากำลังไฟ
จาก battery ลูกนี้สามารถทำให้เจ้า E-Tron เดินทางได้เป็นระยะทางสูงสุดถึง 500 กิโลเมตรและใช้เวลาเพียง
50 นาทีในการ charge เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบ wireless charging พร้อมกับ solar cell บนหลังคา
มาให้เป็นมาตรฐานเพื่อช่วยเพิ่มกระแสการอัดไฟเข้า battery อีกด้วย

Audi E-Tron Quattro จะออกจำหน่ายในช่วงปี 2018 และใช้ชื่อ Q6 ในคันขายจริงเนื่องจากขนาดของมันนั้น
ไปอุดช่องว่างระหว่าง Q5 และ Q7 พอดีอย่างที่แจ้งไว้ นอกจากนี้ Audi ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ว่า
จะเสนอรุ่น Plug In Hybrid และ รถพลังงาน Hydrogen ตามมาเสริมทัพด้วยหรือไม่ ซึ่งข้อมูลเพิ่มเติมนั้น
คงต้องรอจนกว่า Audi ออกมาให้รายละเอียดในภายหลัง

ที่มา : motortrend, gtspirit, motorauthority