หลังขั้นตอนสุดท้ายของการพัฒนาเสร็จสิ้น และออกวิ่งทดสอบมาสักระยะหนึ่งแล้ว ล่าสุด Ford ก็ได้ฤกษ์อันดีในการเผยโฉม All NEW Ford Everest เวอร์ชั่นผลิตขายจริงออกสู่สายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกในโลกในรูปแบบ Global Luanch Media on Internet Platform ชูจุดเด่นด้านงานออกแบบภายนอกที่มีความทะมัดทะแมงขึ้น และอุปกรณ์ Option อัดแน่นมากกว่าเดิม สำหรับประเทศไทย คาดว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2022 นี้ !
All NEW Ford Everest เวอร์ชั่นตลาดโลก จะมาพร้อมรุ่นย่อยทั้งหมด 3 รุ่น อันได้แก่
- SPORT
- TITANIUM
- PLATINUM (NEW)
ภายนอก
- ชุดไฟหน้า Matrix LED ทรง C-Shaped
- ระบบไฟฟ้าปรับองศาตามการเลี้ยว
- ชุดไฟท้าย LED
- ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว (สำหรับรุ่น Titanium)
- วัสดุป้องกันช่วงล่าง
- ตะขอคู่หน้า และช่องต่อพ่วงอุปกรณ์ออฟโรด Upfitter Switch
ภายในห้องโดยสาร
- เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบปรับอุณหภูมิและระบายอากาศ
- เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ 60:40 ปรับเลื่อนขึ้นหน้า-ถอยหลังได้
- เบาะนั่งแถวที่ 3 แบบ 50:50
- ระบบ Remote Start Engine
- คันเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter
- เบรกมือไฟฟ้า
- ชุดมาตรวัด Full-Digital ขนาด 8 นิ้ว และ 12.4 นิ้ว
- หน้าจอกลาง ขนาด 10.1 นิ้ว และ 12 นิ้ว
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- ระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร SYNC® 4A รองรับการสั่งงานด้วยเสียง
- หลังคากระจก Panoramic Glass Roof
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
เบื้องต้นขุมพลังของ All NEW Ford Everest ตลาดโลก จะมีให้เลือก 4 แบบ ได้แก่
- ดีเซล V6 3.0 Turbo
- ดีเซล 2.0 Turbo
- ดีเซล 2.0 Bi-Turbo
- เบนซิน 2.3 EcoBoost (เปิดตัวปี 2023)
ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้ง เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ Select Shift 10 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ปรับด้วยไฟฟ้า (Electronic Shift-On-The-Fly) พร้อมเกียร์ทรานสเฟอร์แบบ 2 จังหวะ (On-Demand Two-Speed Electromechanical transfer case – EMTC)
ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่
- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop and Go (Adaptive Cruise Control with Stop & Go)
- ระบบควบคุมรถให้อยู่กลางช่องทาง (Lane Centering)
- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัจฉริยะ (Intelligent Adaptive Cruise Control)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางผสานระบบตรวจจับขอบถนน (Lane-keeping System with Road-edge Detection)
- ระบบช่วยหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ (Evasive Steer Assist)
- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง (Reverse Brake Assist)
- ระบบตรวจจับรถในจุดบอดครอบคลุมส่วนต่อพ่วง (Blind Spot Information System with Trailer coverage)
- ระบบป้องกันการชนเพื่อป้องกันการชนบริเวณทางแยก (Pre-collision Assist with Intersection Functionality)
- ถุงลมนิรภัย 9 ตำแหน่ง
ข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมของ All NEW Ford Everest สามารถติดตามได้ทาง www.headlightmag.com