Toyota ยังคงยืนกรานแนวความคิดการพัฒนารถยนต์สำหรับคนรุ่นใหม่ในสหรัฐอเมริกาอยู่เช่นเคย ในอดีต Toyota อาจเคยสร้างแบรนด์ Scion เพื่อเจาะตลาดคนวัยมันส์ แต่ท้ายที่สุด Scion ก็ถูกยุบทิ้งแล้วรวมเข้ากับ Toyota อยู่ดี แต่ข้อดีคือแบรนด์ Toyota ในวันนี้ก็ไม่ได้เป็นแบรนด์ที่น่าเบื่ออีกต่อไป เพราะทุกวันนี้ Toyota ก็กล้าส่งรถยนต์สำหรับคนรุ่นใหม่มาทำตลาดเรื่อยมา อาทิ C-HR, 86 และ รวมถึง Corolla iM
Toyota Corolla iM มันก็คือ Toyota Auris ในตลาดโลก (ในตลาดออสเตรเลียเรียก Corolla Hatchback) โดยเริ่มเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2014 ภายใต้ชื่อ Scion iM ก่อนในช่วงแรก ถึงแม้ว่ามันมาช้ากว่าตลาดโลกถึง 2 ปี แต่ก็เป็นจังหวะที่ดี เพราะตลาด C-Segment Hatchback กำลังจะกลายเป็นตลาดใหม่ที่คนรุ่นใหม่เริ่มมองหากัน
และนี่ก็คือ All NEW Toyota Corolla Hatchback ที่มาแทนที่ Corolla iM ถือเป็นการเปิดตัวตามติดตลาดโลกที่รวดเร็วมากที่สุด เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้ Toyota Corolla Hatchback ก็ไปอวดโฉมในงาน Geneva Motorshow 2018 ภายใต้ชื่อ All NEW Toyota Auris
All NEW Toyota Corolla Hatchback ยังคงถูกสร้างขึ้นบนชุดโครงสร้างพื้นตัวถังแบบใหม่ล่าสุด TNGA-C Platform ร่วมกับ Toyota C-HR ดีไซน์ภายนอกโดยรวมไม่แตกต่างจาก Auris เวอร์ชันยุโรป แต่ถ้าหากสังเกตให้ดีจะพบว่ามีจุดแตกต่างหลายจุด อาทิ ไฟหน้า DRL LED ทรง L-Shape แบบ 3 ชั้น, เปลี่ยนสีกระจังหน้า Keen Look ใหม่, กันชนหน้าที่มีตะแกรงช่องดักลมใหม่พร้อมกรุขอบโครเมี่ยมรอบขอบช่องดักลม
การออกแบบด้านหน้ายังยึดแนวคิดกระจังหน้า Keen Look ที่ดูเด็ดเดี่ยวมากขึ้นและการดีไซน์ช่องดักลมกันชนหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมู Under Priority Catamaran ที่ช่วยขับความสปอร์ตออกมาอย่างถึงที่สุด ส่วนดีไซน์ด้านท้ายจะใช้เทคนิคการออกแบบขึ้นรูปที่ดูแปลกตา พวกเขาเริ่มนำวัตถุดิบ TSOP (Toyota Super Olefin Polymer) และ ABS (Acrylonitrile Butadiene Styrene) มาช่วยในการขึ้นรูปกันชนใหม่
ภายในห้องโดยสารจะเป็นการ “ยกเครื่องใหม่” มีความเรียบง่าย, อบอุ่น, น่าเชิญชวน, ให้ความรู้สึกดี ด้วยแนวคิด Sensuous Minimalism เปิดกว้างแห่งมุมมองของห้องโดยสารที่รู้สึกโปร่งสบายและนวลตา นั่นเป็นเพราะ Toyota ได้ลดความบางของชิ้นส่วนแผงแดชบอร์ดครึ่งบนลง 22 มิลลิเมตร แต่ขยายขนาดคอนโซลกลางอีก 43 มิลลิเมตร เพื่อความสะดวกสบาย และติดตั้งกล่องคอนโซลกลางที่รองรับการชาร์จแบตเตอรี่ไร้สาย Qi สำหรับสมาร์ทโฟนขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว
All NEW Toyota Corolla Hatchback เลือกวัสดุตกแต่งภายในที่หลากหลายขึ้น อาทิ วัสดุ High-gloss, วัสดุสีเงินผสมกับสี Piano Black, และก็เดินขอบด้ายด้วยสีที่ตัดกับส่วนอื่น ๆ ช่วยสร้างความรู้สึกพรีเมี่ยม และความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญคือ การลดจำนวนปุ่มลง จนเหลือเพียงแค่ ระบบควบคุมเครื่องปรับอากาศและหน้าจอสัมผัสที่มีปุ่มล้อมรอบ แทน
ตำแหน่งเบาะนั่งหน้าถูกวางตำแหน่งให้มีจุดรองรับสะโพกที่เตี้ยลง พร้อมทั้งปรับปรุงพนักพิงร่างกาย เพื่อให้รองรับสรีระได้อย่างเป็นธรรมชาติ และถือเป็นตำแหน่งในอุดมคติที่สามารถเข้าถึงการใช้งานได้อย่างสะดวก อาทิ การเอื้อมนิ้วไปปรับฟังก์ชันบนพวงมาลัย, การวางเท้าบนแป้นเหยียบและการเอื้อมแขนไปยังคันเกียร์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงเบาะนั่งหลังที่เพิ่มความสะดวกสบายและลดความเมื่อยล้า พร้อมทั้งเพิ่มช่องว่างขวดน้ำ 24 ออนซ์และช่องใส่เอกสาร A4 บนประตูหน้า และช่องวางขวดน้ำ 16 ออนซ์บนประตูหลัง
หนึ่งในจุดเด่นของ All NEW Toyota Corolla Hatchback ที่จะต้องโดนใจคนรุ่นใหม่แน่นอนก็คือ การมอบความสะดวกสบายภายใต้การขับขี่ที่ควบคุมดั่งใจได้แบบสปอร์ต เนื่องจากพื้นตัวถัง TNGA-C Platform ได้ผสมผสานกรรมวิธีการยึดโครงสร้าง, การเชื่อมจุดและเสริมแนวค้ำยันให้กับโครงสร้างตัวถัง ไล่จากด้านบนลงด้านล่าง ไล่จากด้านข้างสู่อีกข้างหนึ่ง
มีการใช้วัสดุอลูมิเนียม, โลหะที่ทนต่อการบิดตัวสูงและสูงเป็นพิเศษ เพื่อให้โครงสร้างตัวถังมีน้ำหนักเบา จนเพิ่มความทนทานต่อการบิดตัว 60% เมื่อเทียบกับ Corolla iM ส่งผลดีต่อการขับขี่และช่วยทำให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีขึ้น
ระบบช่วงล่างเปลี่ยนใหม่หมด ด้านหน้าแบบ แมคเฟอสันสตรัท ที่เปลี่ยนมุมเรขาคณิตใหม่ และปรับอัตราการหมุนของขดลวดสปริง ลดแรงต้านทานในชิ้นส่วนที่มีการเสียดสี ที่ช่วยให้การขับขี่มีคุณภาพสูง, ขับขี่สบายและการบังคับควบคุมมีความเสถียร
ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Multi-Link พร้อมเหล็กกันโคลง รับรู้การตอบสนองที่เฉียบคมผ่านช็อคอับและสปริงปรับปรุงใหม่ พร้อมทั้งปรับปรุงเรขาคณิตใหม่ แขนด้านล่างถูกเปลี่ยนตำแหน่งมีการปรับปรุงมุม toe-in เพื่อหวังผลด้านการขับขี่ความเร็วสูง ตำแหน่งของช็อคอับถูกเคลื่อนไปด้านหน้าเพื่อขยายเนื้อที่ห้องสัมภาระและเพื่อลดคลื่นความถี่ตามยาวย่านต่ำ
ผลของการปรับปรุงช่วงล่างด้านหน้า-หลัง สามารถลดแรงเสียดทานลง 40% ลดจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง 20%
ยังไม่หมด All NEW Toyota Corolla Hatchback ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ Dynamic Force ขนาด 2.0 ลิตร รหัส M20A-FKS Direct Injection ทำงานควบคู่กับ Dual VVT-i (Variable Valve Timing-intelligence), with VVT-iE (Variable Valve Timing-intelligence) ที่ควบคุมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า มีค่าประสิทธิภาพเชิงความร้อน (Thermal Efficiency) สูงระดับชั้นนำของโลกที่ 40% เนื่องจากมีการสูญเสียพลังงานต่ำ ทั้งยังมีทางเดินไอเสีย และระบบหล่อเย็นที่มีประสิทธิภาพ
เครื่องยนต์ M20A-FKS มีน้ำหนักเบากว่าเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรดั้งเดิม และเครื่องตัวนี้ก็ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ All NEW Toyota Corolla มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำที่สุด และมีการทำงานที่เงียบสงบขึ้น, ลดการสั่นสะเทือนและความกระด้าง (NVH) จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะและเกียร์อัตโนมัติ Dynamic-Shift CVT (K120) ล็อกอัตราทด 10 จังหวะ พร้อมโหมดสปอร์ต
อุปกรณ์มาตรฐานรุ่น SE
- แอร์อัตโนมัติแบบ Single-Zone
- หัวเกียร์หุ้มหนัง
- แป้น Paddle Shift หลังพวงมาลัย
- เบรกมือไฟฟ้า
- ระบบปลดล็อกประตูคู่หน้าและฝากระโปรงท้ายอัจฉริยะ 3-Door Smart Key
- กระจกไฟฟ้า One Touch ขึ้นสุด-ลงสุด
- ช่องเชื่อมต่อ USB บริเวณแผงแดชบอร์ด 2 จุด
- ชุดเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส Entune 3.0 ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple Caplay/Amazon Alexa
- ลำโพง 6 จุด
อุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น XSE
- แอร์อัตโนมัติแบบ Dual Zone
- เบาะนั่งหุ้มหนัง
- เบาะคู่หน้าปรับอุ่นได้
- เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- เดินด้ายบริเวณแผงข้างประตู
- พวงมาลัย Multi Function
- หน้าจอ MID แสดงผลสี TFT ขนาด 7 นิ้ว
- ระบบนำทาง
- ชุดเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส Entune Plus 3.0 ขนาด 8 นิ้ว รองรับการรับคลื่นวิทยุคุณภาพระดับ HD และ SiriusXM
- ลำโพง JBL 800 วัตต์ 8 จุด Clari-Fi
ระบบช่วยเหลือความปลอดภัยแก่ผู้ขับขี่ Toyota Safety Sense 2.0
- ระบบเตือนผู้ขับขี่และช่วยเบรกอัตโนมัติก่อนที่จะเกิดการชน Pre-Collision System (PCS) with Pedestrian Detection (PD) แต่เพิ่มความสามารถในการตรวจจับคนเดินทางเท้า ทั้งในตอนกลางวันและตอนกลางคืนได้ และยังรวมถึงความสามารถใจการตรวจจับผู้ปั่นจักรยานในตอนกลางวันได้ โดยระบบนี้ยังคงทำงานภายใต้ความเร็วระหว่าง 10-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน ในย่านความเร็วระหว่าง 0-177 กิโลเมตร/ชั่วโมง Dynamic Radar Cruise Control - ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงพวงมาลัยอัตโนมัติ Lane Departure Warning With Steering Assist
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam Control
- ระบบช่วยควบคุมรถ หากขับขี่บนถนนที่ไร้เส้นแบ่งเลน Lane Tracing Assist (LTA)
ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน
- ถุงลมนิรภัย 7 จุด
- ระบบควบคุมการทรงตัว Enhanced Vehicle Stability Control
- ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิคส์
- ระบบเบรก ABS
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind Spot Monitoring
All NEW Toyota Corolla Hatchback เตรียมอวดโฉมที่งาน New York Autoshow 2018 นี้ โปรดจับตาไว้ให้ดี งานวิศวกรรมและรายละเอียดการตกแต่งภายในห้องโดยสารอาจจะปรากฏลงใน All NEW Toyota Corolla (Altis) Sedan ที่จะเปิดตัวในบ้านเราปี 2019
ที่มา : Toyota