ความสำเร็จของ Renault Clio รุ่นปัจจุบัน คือสิ่งที่ทำให้ Renault ภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก นั่นเป็นเพราะ Clio มันสามารถขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ B-Segment แทนที่ Ford Fiesta ได้สำเร็จ ที่สำคัญยอดขาย Renault Clio ก็เติบโตสวนทางกับคู่แข่ง Sub Compact รายอื่นที่มียอดขายหดตัวลงเนื่องจากโดนกระแส SUV เล็กมาแย่งไป

นั่นจึงทำให้ Renault จำเป็นต้องพัฒนา All NEW Clio โฉมที่ 5 ให้ออกมาดีขึ้นกว่าเดิม โดยที่ยังคงรักษาความสำเร็จดั้งเดิมของรุ่นปัจจุบันเอาไว้ได้

(All NEW Renault Clio R.S. Line, รุ่นมาตรฐาน, Intiale Paris)

Renault ถือฤกษ์เผยภาพ All NEW Clio ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2019 ก่อนที่จะโชว์รถคันจริงที่งาน Geneva MotorShow 2019 นั่นเท่ากับเป็นการประกาศยึดครองความเป็นเจ้าตลาดรถ B-Segment ในยุโรปอย่างสมบูรณ์แบบจริง ๆ

All NEW Renault Clio ถูกสร้างขึ้นบนพื้นตัวถัง CMF-B เป็นครั้งแรกของกลุ่มพันธมิตร Renault Nissan Mitsubishi (ส่วน Nissan Kicks เวอร์ชันตลาดโลกและ Micra รุ่นปัจจุบันถูกสร้างขึ้นบนพื้นตัวถัง V-Platform เวอร์ชันปรับปรุงใหม่) ที่มีการปรับปรุงตัวรถให้ดูดีขึ้นตลอดทั้งคัน และยังติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ที่ล้ำสมัยอีกด้วย

(All NEW Renault Clio รุ่นมาตรฐาน)

ถึงแม้ Renault จะบอกว่า All NEW Clio ถูกสร้างขึ้นบนพื้นตัวถัง CMF-B ใหม่ล่าสุด แต่สัดส่วนตัวรถโดยรวมกลับดูไม่แตกต่างจากรุ่นเดิมมากนัก แต่สิ่งที่ต่างกันเห็นชัดคือ การออกแบบภายนอกที่ดูมีมิติและดูหรูหราขึ้น ด้วยดีไซน์ด้านหน้าที่ถอดแบบมาจาก Renault Megane แต่มีการปรับสัดส่วนของไฟหน้า, ขนาดกระจังหน้าให้เหมาะสมกับรถขนาดเล็กที่ต้องมีบุคลิกแห่งความสดใสสอดแทรกเข้ามา

การเปิดตัว All NEW Renault Clio ครั้งนี้ไม่ธรรมดา เพราะเปิดตัวถึง 3 ตัวถังด้วยกัน ได้แก่ Clio รุ่นปกติ, Clio R.S. Line มาแทนที่ Clio GT-Line และ Clio Intiale Paris เวอร์ชันตกแต่งหรูที่สุดของ Clio

มิติภายนอก

  • ยาว x กว้าง x สูง : 4,048 x 1,798 x 1,440 มิลลิเมตร
    ตัวรถสั้นลง 14 มิลลิเมตร และเตี้ยลง 30 มิลลิเมตร

(All NEW Renault Clio รุ่นมาตรฐาน)

สิ่งที่แตกต่างจาก Renault Clio รุ่นก่อนนั่นก็คือ ดีไซน์ไฟหน้า Daytime Running Light ทรง C-Shape ที่พิเศษกว่ารุ่นพี่คือ มีการเพิ่มรายละเอียดของไฟที่ดูแปลกตาขึ้น ส่วนกระจังหน้าจะมีการเพิ่มเส้นโครเมี่ยมพาดผ่านจากไฟหน้า ต่อเนื่องจรดไฟหน้าอีกข้างหนึ่ง ซึ่งเทคนิคการออกแบบนี้ไม่ใช่ของใหม่มากนัก เพราะรถยุคปี 2014 ก็เคยทำกันมาก่อนแล้ว แต่มันอาจจะแปลกตาสำหรับแบรนด์ Renault และมีการปรับช่องดักลมกันชนหน้าให้ดูมีมิติกว่า Megane ทำให้ตัวรถดูสปอร์ตและอ่อนเยาว์ขึ้น

มีสิ่งหนึ่งที่ Renault ใจป้ำให้ก็คือ Clio ทุกรุ่นจะได้ไฟหน้า LED ตั้งแต่รุ่นล่างสุด ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

เส้นสายด้านข้างรถอาจไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก แต่โชคดีที่เส้นสายเดิม ๆ ของ Clio ที่ดูคลีน ๆ ยังเข้ายุคกับสมัยนี้ได้ Renault จึงปรับเส้นสายบางเส้น ให้ดูเรียบง่าย ดูเป็นเส้นตรง เพื่อสะท้อนความเป็นรถที่มีบุคลิกผู้ใหญ่มากขึ้น อาทิ การดัดเส้นมัดกล้าม Belt Line เหนือซุ้มล้อให้ลดความฉวัดเฉวียนลง, เพิ่มเส้นมัดกล้ามเหนือซุ้มล้อหลังให้ดูเข้มแข็งมากขึ้น และปรับเส้นสายชายล่างบานประตูให้ดูเป็นเส้นตรงมุมเฉียงมากขึ้น เป็นต้น

(All NEW Renault Clio R.S.Line)

ถึงแม้สัดส่วนตัวรถจะไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก แต่ Renault ก็ลงทุนปรับปรุงโครงสร้างตัวถังให้เตี้ยลงจาก โดยเฉพาะการลดความสูงของเสา A ที่ทำให้ต้องออกแบบกรอบกระจกประตูคู่หน้าให้แคบลง แต่ก็ชดเชยมาด้วยบุคลิกที่ดูเติบโตขึ้น ส่วนการออกแบบกรอบกระจกประตูคู่หลังยังคล้ายกับรุ่นเดิม แต่เปลี่ยนรายละเอียดมือจับประตูใหม่ ที่ซ่อนไว้ในมุมด้านหลัง (รุ่นเดิมจะเผยมือเปิดประตูในกรอบกระจกประตูหลัง)

การออกแบบบั้นท้ายยังคงเอกลักษณ์ของ Renault Clio รุ่นเดิมเอาไว้คือ การออกแบบฝากระโปรงท้ายที่ดูคล้ายหลังเต่า แต่มีวิวัฒนาการการดีไซน์ใหม่ที่ดูทันสมัยขึ้น ด้วยไฟท้ายขนาดใหญ่ขึ้น และปรับสัดส่วนฝากระโปรงให้มีพื้นที่หน้าตัดที่แคบลง ทำให้ดูหรูหราไม่แตกต่างจากรถพรีเมี่ยมมากนัก

ภายในห้องโดยสารคือการแก้ไขจุดอ่อนที่สำคัญที่สุดของ All NEW Renault Clio เพราะ Clio รุ่นเดิมเป็นรถที่ขึ้นชื่อว่ามีการออกแบบภายนอกที่สวยงามลงตัวที่สุด แต่สำหรับดีไซน์ภายในห้องโดยสารนั้นกลับตรงกันข้าม คือ มันทั้งดูราคาถูก และดูใช้งานยาก ดังนั้น Renault จึงพยายามตีโจทย์ดีไซน์ภายในห้องโดยสารใหม่หมด เพื่อให้ทัดเทียมกับดีไซน์ข้างนอกได้

ดีไซน์ภายในห้องโดยสารได้แรงบันดาลใจจาก Renault Megane คือ ติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด Tablet อันเป็นจุดขายสำคัญที่ฉีกไปจาก B-Segment ที่จำหน่ายทั่วโลก และมาพร้อมกับปุ่มฟังก์ชันสำคัญในรถ และแอร์ดิจิตอลดีไซน์สวยงาม อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมกับสรีระมากที่สุด

การออกแบบส่วนอื่น ๆ ของห้องโดยสารก็ดูมีมิติมาก อาทิ การออกแบบช่องแอร์กลางที่กลืนไปกับแผงแดชบอร์ด (ที่ว่ากันตามตรงว่าน่าจะได้แรงบันดาลใจจากรถยนต์ Volkswagen ยุคใหม่หลายรุ่น), การออกแบบปุ่มกดดูใช้งานง่าย วางในตำแหน่งที่ดี เป็นต้น

Renault ยังเคลมอีกด้วยว่า All NEW Clio มีการใช้วัสดุภายในห้องโดยสารคุณภาพสูงระดับเดียวกับรถระดับบน ยอมลงทุนนำวัสดุบุนิ่มมาบุบนแดชบอร์ด. แผงข้างประตูและคอนโซลกลาง นอกจากนี้ยังติดตั้งมาตรวัดดิจิตอลมีให้เลือก 7 นิ้ว และ 10 นิ้ว (รุ่น 10 นิ้วจะรวมหน้าจอนำทาง) และจอสัมผัส Smart Cockpit อยู่ในตำแหน่งพอดีกับสายตาผู้ขับขี่ อีกทั้งยังติดตั้งเบรกมือไฟฟ้ามาให้เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังติดตั้งชุดเครื่องเสียง BOSE ที่ถูกออกแบบมาไม่ให้กินพื้นที่ห้องสัมภาระท้าย จนทำให้มีความจุถึง 391 ลิตร เพิ่มขึ้น 26 ลิตร

รายละเอียดทั้งหมดน่าจะเผยกันที่งาน Geneva Motorshow 2019

ที่มา : Motor1