วันที่ 13 มกราคม 2022 Toyota เปิดตัวมินิแวนแฝดคนละฝา All New Toyota Noah และ All New Toyota Voxy เจเนอเรชั่นที่ 4 อย่างเป็นทางการ บนพื้นฐาน TNGA (GA-C) แพลตฟอร์ม ภายใต้แนวคิดการออกแบบที่เน้นความสะดวกสบายมอบความสุขให้กับทุกคนในครอบครัว โดนธีมดีไซน์ของ Noah จะมาในแนวคิด “เรียบหรูโมเดิร์นแต่เตะตา” ส่วน Voxy จะไปทาง ”โดดเด่นและแตกต่าง” สำหรับ Noah จะมีเกรด S-Z S-G ที่ได้รับการออกแบบด้านหน้าเพิ่มเติมด้วยชุดตกแต่งโครเมี่ยมและด้านหลังให้มีความโฉบเฉี่ยวและสปอร์ตยิ่งขึ้น
Minivan ดูโอ้รุ่นใหม่นี้ มีขนาดตัวถังที่กว้างและใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นเดิม ด้วยการออกแบบเสา C ให้มีความตั้งชันกว่าเดิม และมีระห่างเพิ่มขึ้นเป็น 1,295 มม. (เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน 75 มม.) ห้องโดยสารมีความสูงเพิ่มขึ้นเป็น 1,405 มม. พร้อมกล่องเก็บของที่พื้นตัวถังด้านท้ายรถขนาด 104 ลิตร ในขณะที่ตัวถังมีความยาว 4,695 มม. กว้าง 1,730 มม. สูง 1,895–1,925 มม. ระยะฐานล้อ 2,850 มม. ระยะต่ำสุดถึงพื้น ground clearance 140-125 มม. รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.5 เมตร
การจัดเบาะนั่งภายในมีให้เลือกทั้งแบบ 7 และ 8 ที่นั่ง โดยแบบ 7 ที่นั่ง จะติดตั้งเบาะแถวกลางเป็นแบบ captain seat เสริมด้วยออฟชั่นที่รองต้นขา (ottoman) และโต๊ะวางของพร้อมที่วางแก้วน้ำแบบพับเก็บได้ติดตั้งด้านข้าง เพิ่มความพิเศษด้วยออฟชั่นจุดชาร์จไฟแบบ USB Type-C จำนวน 2 ช่องและตะขอเกี่ยว จำนวน 2 อัน สำหรับเบาะแถว 3 เป็นแบบประหยัดพื้นที่ ติดตั้งกลไกการพับแบบ one touch เป็นเบาะที่พับยกขึ้นด้านข้างตัวรถที่ไม่ต้องใช้สายเกี่ยวอีกต่อไป ทำให้เบาะแถวกลางสามารถเลื่อนสไลด์หน้า-หลังเป็นระยะมากถึง 745 มม. ในขณะที่รุ่น 8 ที่นั่ง จะมาพร้อมเบาะแถวกลางแบบยาวที่สามารถยกขึ้นพับเก็บได้ในสัดส่วน 60/40 และยังสามารถเลื่อนสไลด์หน้า-หลังเป็นระยะมากถึง 705 มม. ได้ มาพร้อมคันโยกแบบ one-motion ที่มุมบนของตัวเบาะแถว 2 เพื่อความสะดวกในการขึ้น-ลงเบาะแถว 3
ไฮไลท์สำคัญสำหรับความสะดวกและความปลอดภัยของการก้าวขึ้นห้องโดยสารอยู่ที่ ออฟชั่นเสริมบันไดที่ยื่นออกมาโดยอัตโนมัติขณะที่ประตูสไลด์ไฟฟ้ากำลังเลื่อนเปิด ติดตั้งเฉพาะฝั่งผู้โดยสารด้านหน้า โดยกลไกนี้ทาง Toyota ออกแบบร่วมกับการทำงานของประตูสไลด์โดยไม่ต้องใช้มอเตอร์ ซึ่งระยะความสูงจากบันไดนี้ถึงพื้นจะอยู่ที่ 200 มม. เพื่อให้เด็กและผู้สูงอายุก้าวขึ้นได้อย่างปลอดภัย
(Interior : Toyota Noah)
นอกจากนี้ ยังเพิ่มความสะดวกยิ่งขึ้นด้วยการออกแบบให้มีมือจับตรงเสา B ทั้ง 2 ข้างมีขนาดยาวเป็นพิเศษถึง 460 มม. เพื่อให้ผู้โดยสารทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถขึ้น-ลงได้อย่างสะดวก และยังแบ่งเป็น 2 โซน ด้านบนออกแบบมาสำหรับผู้ใหญ่ และด้านล่างที่มีความหนาเหมาะสมสำหรับเด็ก พร้อมทั้งอ็อพชั่นประตูสไลด์ไฟฟ้าคู่แบบ Hands-free ที่ใช้ kick sensor บริเวณใต้ประตูในการเปิด-ปิด ฝาท้ายเปิด-ปิดแบบธรรมดาบานใหญ่ที่ติดตั้งสายเคเบิ้ลในการจำกัดระยะการเปิดด้วยการ push-stop ถือเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่อำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้งานในยามที่มีพื้นที่หลังรถจำกัด ในขณะที่ออฟชั่นฝาท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติที่ติดตั้งปุ่มเปิด-ปิด บริเวณด้านข้างตัวรถทั้ง 2 ข้าง เพิ่มจากบริเวณฝาท้าย สามารถป้องกันการเปิดกระแทกลำตัวและจำกัดระยะความสูงของประตูเพื่อไม่ให้กระแทกสิ่งกีดขวางได้ในเวลาเดียวกัน
(Interior : Toyota Voxy)
สำหรับขุมพลังจะมีทางเลือกให้ 2 แบบ ได้แก่ เบนซิน 1.8 ลิตร Hybrid และเบนซิน 2.0 ลิตร
เบนซิน 1.8 ลิตร Hybrid
เครื่องยนต์รหัส 2ZR-FXE เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร (1,797 ซีซี) กระบอกสูบ x ช่วงชัก 80.5 x 88.3 มิลลิเมตร จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ EFI ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า (PS) ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิด 185 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนขนาด 4.08 Ah ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 23.4 กม./ล. ตามมาตรฐาน WLTC ยังมีออฟชั่นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ E-FOUR ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 41 แรงม้า แรงบิด 84 นิวตันเมตร ในการขับเคลื่อนล้อคู่หลัง เพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนนยามหิมะตกหรือขับขี่บนทางลาดชัน
เบนซิน 2.0 ลิตร
เครื่องยนต์รหัส M20A-FKS เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร (1,986 ซีซี) กระบอกสูบ x ช่วงชัก 80.5 x 97.6 มิลลิเมตร จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ตรงสู่ห้องเผาไหม้ แบบ Direct Injection D-4S ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า (PS) ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร ที่ 4,900 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ แบบ Direct Shift-CVT ที่มาพร้อมโหมดการเปลี่ยนเกียร์ Sport Sequential Shiftmatic ทำให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เองถึง 10 จังหวะ ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 15.1 กม./ล. ตามมาตรฐาน WLTC
ช่วงล่างและระบบกันสะเทือนถูกออกแบบเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวถัง ด้านหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัตและด้านหลัง เป็นแบบคานแข็ง ที่ปรับเซตโดยเน้นการขับขี่ที่นุ่มนวลพร้อมกับการยึดเกาะถนนที่ดี มาพร้อมล้อเหล็กพร้อมฝาครอบ ขนาด 16″x7″ J พร้อมยางขนาด 205/60 R16 (สำหรับ Noah เกรด X) อัลลอยขนาด 16″x7″ J พร้อมยางขนาด 205/60 R16 และ 17″x7″ J พร้อมยางขนาด 205/55 R17 (เฉพาะรุ่น Noah และ Voxy เกรด S-Z ขับเคลื่อน 2 ล้อ)
ระบบความปลอดภัยอัดแน่นเต็มพิกัด อาทิเช่น ระบบ Toyota Safety Sense ที่เพิ่มการตรวจจับมอเตอร์ไซค์ คนเดินเท้า และจักรยาน ในจุดตัดและมุมบอดต่างๆ ทั้งยังมาพร้อมกับระบบ Proactive Driving Assist เป็นครั้งแรก ที่จะลดความเร็วและช่วยหักหลบ หากตัวรถเข้าใกล้ คนเดินเท้า จักรยาน และรถยนต์ที่จอดอยู่ ซึ่งระบบจะเข้ามาช่วยเหลือผู้ขับในขณะที่มีสิ่งกีดขวางเคลื่อนที่หรือเลี้ยวโค้งเข้าใกล้ เพื่อลดการเหยียบคันเร่งและเบรคเกินความจำเป็นในยามคับขัน
อีกหนึ่งความปลอดภัยที่ถูกออกแบบมาสำหรับรถประเภทมินิแวนที่ติดตั้งประตูสไลด์ไฟฟ้า คือ ระบบ Safe Exit Assist (With Door Open Control) ที่จะคำนวณโอกาสการเกิดการปะทะกับยานพาหนะ (รวมไปถึงจักรยาน) ที่เคลื่อนที่มาทางด้านหลังขณะที่ผู้โดยสารกำลังจะลงจากรถ โดยระบบจะแจ้งเตือนจากภายในห้องโดยสารและจะหยุดการเปิดประตู หากตรวจจับว่าผู้โดยสารพยายามจะเปิดประตูในขณะนั้น
สำหรับระบบช่วยเหลือ Toyota Teammate ที่มาพร้อมระบบ Advanced Drive (support during traffic congestion) เป็นครั้งแรกของ Toyota ที่จะช่วยคนขับตัดสินใจเพื่อลดความเหนื่อยล้าจากการขับขี่ ในขณะที่มีการเปิดระบบ Radar Cruise Control และ Lane Tracing Assist สำหรับการขับขี่บนถนนที่มีแต่รถยนต์เป็นผู้ร่วมทางในช่วงความเร็ว 0-40 กม./ชม. และระบบ Advanced Park (with remote function) ที่สามารถนำรถจอดเข้าซองและยังสามารถนำรถเคลื่อนที่ออกจากช่องจอดได้เอง
เป็นครั้งแรกของ Toyota ที่รุ่นขุมพลัง Hybrid เพิ่มความสามารถในการควบคุมการจอดรถได้ด้วยสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่นของ Toyota เมื่อคุณพกกุญแจรถไว้ใกล้ตัว เพื่อการเพิ่มความสะดวกในการขึ้น-ลง เมื่อต้องจอดรถในพื้นที่จำกัด
Noah จะมีให้เลือกทั้งหมด 29 รุ่น ทั้งขุมพลังเบนซินและไฮบริด แบ่งเป็นเกรดย่อย X G Z S-G และ S-Z โดยจะมีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ โดยเกรด Z S-Z และขุมพลังไฮบริดแบบ E-FOUR จะมีให้เลือกแต่แบบ 7 ที่นั่งเท่านั้น ในขณะที่ Voxy จะมีให้เลือกทั้งหมดแค่ 11 รุ่น ทั้งขุมพลังเบนซินและไฮบริด แบ่งเป็นเกรดย่อย S-G และ S-Z โดยเกรด S-Z และขุมพลังไฮบริดแบบ E-FOUR จะมีให้เลือกแต่แบบ 7 ที่นั่งเท่านั้น สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี สำหรับ Noah เกรด S-G และ S-Z และ Voxy สำหรับ Noah เกรดอื่นๆ จะเลือกได้แค่ 5 สี โดยมีสีใหม่ 2 สี ได้แก่ สีดำ Glitter Black Glass Flake และ สีเทา Massive Gray สำหรับสีภายในจะเป็นสีดำทุกรุ่น โดยจะมีการตกแต่งวัสดุสีเงินและวัสดุบุนุ่ม ตามแต่ละเกรดย่อย
ราคาขายของ Noah และ Vozy เริ่มที่ 2,670,000 เยน ถึง 3,960,000 เยน โดย Toyota ตั้งเป้ายอดขายของรุ่น Noah ไว้ที่ 8,100 คันต่อเดือน และ Voxy ที่ 5,400 คันต่อเดือน
ที่มา: Toyota