จากเดิมที่เป็นเพียงแค่รถยนต์เสริมตลาดให้มีความหลากหลายเพิ่มขึ้น แต่มาวันนี้ Mercedes-Benz A-Class ก็เริ่มกลายเป็นรถยนต์ระดับ Entry Level ที่มีบทบาทในการขยายฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่และช่วยเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น จนทางบริษัทต้องตั้งระดับความสำคัญในการพัฒนา A-Class โฉมใหม่ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
Jochen Eck ผู้ควบคุมการทดสอบรถยนต์ขนาด Compact ของ Mercedes-Benz เปิดเผยว่า All NEW A-Class จะมีระบบช่วงล่างให้เลือก 2 แบบ ระบบกันสะเทือนหน้าจะยังคงใช้แบบแมคเฟอสันสตรัท แต่สำหรับระบบกันสะเทือนหลังจะแบบออกเป็น 2 เวอร์ชัน ได้แก่ ช่วงล่างแบบทอร์ชันบีมแบบพัฒนาใหม่ สำหรับรุ่นพื้นฐาน และช่วงล่าง Multi-Link แบบปรับปรุงใหม่สำหรับรุ่นที่สมรรถนะสูง
Mercedes-Benz A-Class มีความจริงจังในการพัฒนาประสิทธิภาพการขับขี่ตั้งแต่รุ่นปัจจุบันแล้ว จากการทดสอบก็พบว่าการเพิ่มความแข็งแกร่งต่อการบิดตัวของโครงสร้างตัวถัง มันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มาก
ผลพลอยได้ของการเพิ่มความแข็งแกร่งของโครงสร้างตัวถังจะช่วยปรับปรุงเสียงรบกวน, สั่นสะเทือนและความกระด้างขณะขับขี่ด้วย และยิ่งบุวัสดุซับเสียงในโครงสร้างตัวถังก็ยิ่งช่วยยกระดับการเก็บเสียงให้ยอดเยี่ยมมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ A-Class รุ่นปัจจุบันที่มีการเก็บเสียงแค่พอไปวัดไปวาได้เท่านั้น
พวงมาลัยแบบกลไกไฟฟ้าจะมีให้เลือกทั้งแบบอัตราทดตายตัวหรืออัตราทดแปรผันขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย เพียงแต่ทีมวิศวกรได้เปลี่ยนตำแหน่งของแร๊คให้ขยับถอยหลังมากยิ่งขึ้น โดยรวมก็น่าจะทำให้ผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่จะต้องชอบ A-Class โฉมใหม่มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Eck ยังยืนยันว่า All NEW Mercedes-Benz A-Class ได้มีการปรับปรุงทัศนวิสัยใหม่ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาจากรุ่นปัจจุบัน โดยออกแบบให้เสาหลังคาบางลง และขยายขนาดกระจกด้านหลังให้ใหญ่ขึ้นเพื่อมองเห็นด้านหลังให้ชัดขึ้น
ถึงแม้รูปลักษณ์ตัวรถ All NEW Mercedes-Benz A-Class จะดูคล้ายเดิม แต่มีการขยายระยะความยาวของฐานล้ออีก 30 มิลลิเมตร พร้อมกันนี้ยังพบฟังก์ชันหน้าจอแสดงผลและหน้าจอสัมผัสขนาด 10.3 นิ้ววางขนานกัน ซึ่งก็จะให้มุมมองห้องโดยสารดูกว้างขวางมากยิ่งขึ้น
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ก็มีการปรับปรุงหรืออัพเดทให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อาทิ ระบบเตือนมุมอับสายตา Exit Assist, ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะทำงานพร้อมกลัง 360 องศา
All NEW Mercedes-Benz A-Class พบกันแน่ที่งาน Geneva Motorshow 2018 นี้
ที่มา : Autocar