Mazda CX-3 ในปัจจุบัน คือ B-SUV ที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นตัวถังเดียวกับ Mazda 2 รุ่นปัจจุบัน (Mazda DJ Platform ซึ่งเป็นการต่อยอดจาก DE Platform จาก Mazda 2 รุ่นที่แล้ว) เมื่อดูจากงานวิศวกรรมพื้นฐานของรถ ก็จัดว่ามันเหมาะสมสำหรับการแข่งขันในปัจจุบัน ทั้งขนาดตัวรถและต้นทุน แต่ในโลกของความเป็นจริง ลูกค้าหลายประเทศทั่วโลกกลับมองว่า ถึงแม้มิติตัวถังภายนอกของ Mazda CX-3 ดูไม่ได้ด้อยกว่าคู่แข่งมากนัก แต่เมื่อได้สัมผัสกับภายในห้องโดยสารกันจริงจัง กลับพบว่าตัวรถมันมีขนาดห้องโดยสารที่เล็กเกินไป เพราะลูกค้าหลายคนเริ่มคาดหวังกับความอเนกประสงค์ของตัวรถ SUV มากกว่าดีไซน์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยว
ดังนั้น Mazda จึงเปลี่ยนกลยุทธ์ในการพัฒนา All NEW CX-3 ใหม่ทั้งหมด จากเดิมที่จะต้องใช้พื้นตัวถังร่วมกับ Mazda 2 ซึ่งเป็นรถยนต์ขนาด B-Segment ก็เปลี่ยนมาใช้พื้นตัวถังร่วมกับ All NEW Mazda 3 ที่เป็นรถขนาดใหญ่กว่าแทน โดยกลยุทธ์นี้ไม่ใช่กลยุทธ์ใหม่อะไรนัก เพราะ Toyota C-HR ก็ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐาน TNGA-C สำหรับรถขนาด Compact และ Hyundai Kona ก็เป็นการนำ i30 มาหดฐานล้อให้สั้นลง
แม้ตัวรถ All NEW Mazda CX-3 จะใหญ่โตขึ้นในทุกมิติ แต่ Mazda ก็ยังคงยึดมั่นแนวคิดการออกแบบที่ดูสปอร์ตและโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว เหมือนกับรุ่นปัจจุบัน
พื้นตัวถังที่ All NEW Mazda CX-3 จะใช้มีชื่อว่า SkyActiv II ที่มีความเปลี่ยนแปลงด้านงานวิศวกรรมหลายประการ อาทิ การเปลี่ยนมาใช้ช่วงล่างหลังแบบทอร์ชันบีม แทนที่แบบอิสระ, ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้ทนต่อแรงบิดตัวสูง และไฮไลต์สำคัญคือมีการยกระดับคุณภาพของการเก็บเสียงรบกวน, การสั่นสะเทือนและความกระด้างของตัวรถเป็นอย่างมาก
Kiyoshi Fujiwara ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาและวิจัย Mazda Corporation เปิดเผยว่า ช่วงล่างหลังแบบ ทอร์ชัน บีม ที่ถูกพัฒนาใหม่จะดีกว่าแบบ มัลติลิงค์ ในด้านการเก็บเสียงรบกวนจากพื้นถนนซึ่งเป็นจุดด้อยสำคัญที่ลูกค้าพยายามร้องเรียนกันอย่างมาก
แน่นอนว่า All NEW Mazda CX-3 นั้นจะต้องติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน SkyActiv-X ที่มีหลักการทำงาน SPCCI คาดว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ที่ให้พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร
นอกจากนี้ All NEW Mazda CX-3 ยังมีการออกแบบเบาะนั่งใหม่ทั้งหมดเพื่อเพิ่มความสบาย, ออกแบบแผงแดชบอร์ดใหม่ตามหลักสรีระศาสตร์ และภายในห้องโดยสารที่เก็บเสียง รวมไปถึงมีการขยายเนื้อที่ห้องสัมภาระท้ายให้ใหญ่โตกว่า CX-3 ปัจจุบันที่มีขนาดแค่เพียง 264 ลิตร
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Mazda จำเป็นต้องปฏิวัติการพัฒนา CX-3 ใหม่ ก็เพราะว่ายอดขายรถยนต์ประเภท Small SUV ในสหรัฐอเมริกายังมีโอกาสเติบโตไปได้อีก เมื่อสังเกตจากยอดขาย Honda HR-V 94,034 คัน ในปี 2017 และ Subaru XV Crosstrek 110.138 คันในปี 2017 ขณะที่ Mazda CX-3 มียอดขายเพียง 16.355 คัน
All NEW Mazda CX-3 พร้อมเผยโฉมในปี 2020
ที่มา : GoAuto