Honda ได้รับบทเรียนในการพัฒนารถยนต์ Hybrid มาอย่างยาวนานถึง 10 กว่าปี แต่กว่าที่ Honda จะเริ่มลืมตาอ้าปากได้กับรถยนต์ Hybrid เวลาก็ล่วงเข้ามาถึงปี 2012 เป็นต้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ Honda กล้าพลิกกลยุทธ์การพัฒนา Hybrid ให้มีนวัตกรรมเหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน อาทิ Honda Accord Sport Hybrid i-MMD ที่มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว, Acura NSX มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัวและ Honda Fit/Jazz Sport Hybrid i-DCD ที่มีระบบเกียร์ Dual Clutch เน้นสมรรถนะสูงสุดเป็นหลัก
และในเร็ว ๆ นี้ Honda ก็จะเตรียมปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้แก่ Insight : Standalone Hybrid ที่อยู่ยั้งยืนยงมานานกว่า 18 ปี
All NEW Honda Insight จะอัพเกรดตัวเองไปสู่รถยนต์ระดับ C-Segment Hybrid Sedan เป็นครั้งแรก (ในอดีต Insight ถูกวางตำแหน่ง B-Segment) โดยวางภาพลักษณ์ตัวเองให้กลายเป็นรถยนต์ Premium Compact Sedan ที่เหนือชั้นกว่า Civic อีกระดับ ด้วยตัวเองอัตราสิ้นเปลืองที่สู้กับคนอื่นได้พร้อมกับเทคโนโลยีที่ดีที่สุดหลายประการ
จุดเด่นของ All NEW Honda Insight คือการนำเทคโนโลยีล้ำสมัย ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นรถยนต์ Hybrid ที่ดีที่สุดในคลาสมาบรรจุใส่ในตัวถังรถที่ดูปราดเปรียว น่าดึงดูดใจหลากเพศ หลายวัย มาพร้อมกับฟังก์ชันอันพรีเมี่ยมและพื้นที่ห้องโดยสารอันกว้างขวาง
ด้านหน้ามาพร้อมกับกระจังหน้า ‘Flying Wing’ คล้ายกระจังหน้า Civic ผสมเข้ากับ Accord โฉมใหม่ แต่ขยับตำแหน่งใกล้กับขอบฝากระโปรงหน้า และเว้นพื้นที่ช่องดักลมขนาดใหญ่เพื่อสร้างจุดเด่นให้สะดุดตา แต่ทั้งนี้มันก็ยังมีช่องดักลมขอบกันชนหน้า
ถึงแม้ตัวรถจะถูกสร้างร่วมกับ Honda Civic แต่ก็มีดีไซน์หลายจุดที่ถูกเปลี่ยนแปลงใหม่หมด อาทิ การออกแบบด้านหน้าใหม่หมดจด, ลดความสูงของขอบสันฝากระโปรงหน้า, ออกแบบขอบซุ้มล้อหน้าให้ดูขนานไปกับพื้นมากขึ้น, เส้นสายด้านข้างดูเรียบร้อย เน้นความโค้งเว้าของพื้นผิว มากกว่าจะเล่นเส้นสายแบบแรง ๆ ลงทุนแม้กระทั่งเปลี่ยนมือจับประตูภายนอก
มุมมองบั้นท้ายตัวรถให้นิยามของคำว่า Premium ได้เป็นอย่างดีเพราะดีไซน์ไม่เหมือนกับ Civic รุ่นปัจจุบันเลย ติดตั้งไฟท้าย LED, ฝากระโปรงท้ายที่ถูกออกแบบให้มีสปอยเลอร์ท้ายในตัว, กันชนท้ายใหม่
ภายในห้องโดยสารกว้างขวางที่สุดในบรรดา C-Segment Hybrid ทั้งหลาย มาพร้อมด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว, มาตรวัดจอสีดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว, เบาะนั่งหุ้มหนัง, ติดตั้ง Wi-Fi รองรับ Over in The Air ที่สามารถอัพเกรดฟังก์ชันในรถได้เหนือชั้นกว่าใคร ๆ
ขุมพลัง Hybrid จับคู่เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร Atkinson Cycle และ มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พ่วงกับแบตเตอรี่ Li-ion ที่ซ่อนอยู่ใต้เบาะหลัง ทำให้สามารถพับเบาะหลัง 60 : 40 ได้ มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 50 MPG (ประมาณ 21.25 km/l)
สำหรับรุ่นย่อย EX จะติดตั้งกล้องมองภาพขณะถอยจอด ปรับมุมมอง 3 ระดับ / Honda LaneWatch ส่วนรุ่นย่อยอื่น จะติดตั้งระบบช่วยเหลือและความปลอดภัยผู้ขับขี่ Honda Sensing ได้แก่
- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ CMBS
- ระบบแจ้งเตือน เมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ LDW
- ระบบช่วยเหลือ เมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ RDM
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน ACC – Adaptive Cruise Control จะมาพร้อมกับ
- ระบบหน่วงความเร็ว (Low-Speed Follow )
- ระบบจดจำป้ายจราจร
All NEW Honda Insight จะเตรียมขึ้นสายการผลิตที่โรงงานเขตอินเดียนน่า สหรัฐอเมริกา พร้อมส่งมอบในช่วงปลายปี 2018 แต่สำหรับตลาดอื่นในโลกต้องลุ้นกันว่าจะได้สัมผัส C-Segment Hybrid Sedan ที่ดีที่สุดในคลาสหรือไม่ ?
ที่มา : Motor1