ช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าเบื่อของการออกแบบรถยนต์จากค่ายรถหรูที่ย้อนกลับมา Cliché รูปแบบออกแบบเดิม ๆ
หาความแตกต่างในแต่ละรุ่นแต่ละคันได้ยาก แต่ผู้เขียนก็เชื่อว่าระยะเวลาแห่งความน่าเบื่อเช่นนี้น่าจะเป็นช่วงระยะเวลา
สั้น ๆ มากกว่าเพราะค่าย Audi กำลังจะเปลี่ยนทิศทางการออกแบบในรถยนต์รุ่นต่อไป แต่บังเอิญว่ามันไม่ได้เห็นใน All
New Audi A4 นี่สิ
โอเค ถึงจะมีบางคนบอกว่า Audi A4 เจเนเรชั่นมันยังดูน่าเบื่อและไม่น่าค้นหาเพราะมันคล้ายของเดิมเสียเหลือเกิน แต่ถ้า
ได้ลองเปิดใจดูก็พบว่า Audi ตั้งใจปรับปรุงงานวิศวกรรมอย่างหนักมาก แบบนี้สินะเรียกว่า ดูของก็ต้องดูให้ถึงเนื้อในจริง
ๆ
ดีไซน์ภายนอกของ All New Audi A4 นั้นแทบไม่แตกต่างจากรุ่นเดิมมากนัก มองเผิน ๆ สัดส่วนโครงสร้างตัวถังและเส้น
สายด้านข้างแทบไม่มีความเปลี่ยนแปลงจากรุ่นเดิมเลย ถ้าถอดอคติออกไปให้หมดก็พบว่ามันก็ยังมีความเปลี่ยนแปลงอยู่
บ้างในบางจุด
สัดส่วนโครงสร้างตัวถังบริเวณห้องเครื่องยนต์มีการเพิ่มมิติความยาวให้รู้สึกว่าตัวรถดูปราดเปรียวพุ่งทะยานมากขึ้น ปัจจัย
หนึ่งที่ทำให้ All New Audi A4 ดูมีพัฒนาการมากที่สุดเห็นจะเป็นดีไซน์ใบหน้าที่มีความคมชัดในเส้นสายมากขึ้น ด้วยไฟ
หน้าทรงใหม่, กระจังหน้า Single Frame ทรงรังผึ้งที่เน้นความเหลี่ยมสันและมีขนาดใหญ่โตขึ้น, กันชนหน้าใหม่ที่ดูมีมิติ
ขึ้นเล็กน้อย
ใครที่คาดหวังว่า All New Audi A4 ใหม่จะขึ้นลวดลายเส้นสายตัวถังที่ดูวิจิตรพิสดารเห็นทีต้องบอกว่า “ผิดหวัง” เพราะ
เส้น Belt Line ยังมีหน้าตาเหมือนกับรุ่นเดิมเป๊ะเพียงแต่ปรับรายละเอียดเส้นนี้ให้มีความเฉียบคมขึ้น สำหรับลายเส้นชาย
ล่างบานประตูก็ปั๊มขึ้นรูปให้มีความคมสันมากขึ้น ไม่มีความพลิ้วไสวตามกระแสนิยม
สำหรับดีไซน์ครึ่งคันหลังตัวถังซีดานก็มีการปรับปรุงเสา C ให้มีความรู้สึกเอนลาดมากกว่าเดิมพร้อมทั้งออกแบบบั้นท้าย
ใหม่เน้นเส้นสายเฉียบตรงและดูเพรียวกว้างด้วยไฟท้ายทรงใหม่พร้อมสปอยเลอร์ท้ายในตัว สำหรับตัวถังแวกอนก็มีการ
ปรับปรุงกรอบบานกระจกห้องสัมภาระที่ดูเปราดเปรียวขึ้นและเปลี่ยนแผงฝากระโปรงท้าย, ไฟท้ายใหม่และกันชนท้าย
ใหม่ที่ดูมิติขึ้น
มิติตัวถัง All New Audi A4 ‘B9’ ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นเดิม ‘B8’ ทุกสัดส่วน ความยาวตัวถัง 4.73 เมตร กว้าง 1.84 เมตร สูง
1.43 เมตร มีการยืดระยะฐานล้ออีก 12 มิลลิเมตรเป็น 2.82 เมตร นอกจากนี้ยังมีการใส่ใจรายละเอียดทุกตัวถังจนได้ค่า
สัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียงแค่ 0.23 สำหรับตัวถังซีดานและ 0.26 สำหรับตัวถังแวกอน
All New Audi A4 มีน้ำหนักตัวถังเบาลงกว่ารุ่นเดิมถึง 120 กิโลกรัม จนทำให้รุ่นล่างสุดมีน้ำหนักเหลือเพียงแค่ 1,320
กิโลกรัมเท่านั้น
Audi A4 Avant มีพื้นที่ห้องสัมภาระท้าย 505 ลิตร กว้างขึ้นจากรุ่นเดิม 15 ลิตร แต่ถ้าพับเบาะหลังให้ราบเรียบลงไปก็จะ
มีความจุมากถึง 1,510 ลิตร
ไม่น่าเชื่อว่ารูปร่างหน้าจะคล้ายของเดิมขนาดนี้แต่ Audi ก็พยายามออกแบบภายในห้องโดยสารให้กว้างขวางกว่ารุ่นเดิม
ด้วยการขยายระยะพื้นที่วางขาอีก 23 มิลลิเมตร ผู้ขับขี่และผู้โดยสารต่างก็พากัน enjoy กับเบาะนั่งดีไซน์ใหม่, เพิ่ม
บรรยากาศผ่อนคลายด้วยไฟสร้างบรรยากาศ LED มีไม่ต่ำกว่า 30 สี!!
Audi ถือเป็นค่ายรถรายแรกที่ใช้หน้าจอสี TFT แทนมาตรวัดอนาล๊อกทั่วไป และเดาไม่ผิดเลยว่า Audi A4 โฉมใหม่
จะต้องติดตั้งหน้าจอมาตรวัดสีเหมือนกับ Audi TT และ Q7 เต็มตาเต็มอารมณ์ด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 8.3 นิ้ว MMI
รองรับ Android Auto, Carplay และสร้างความบันเทิงให้แก่ผู้โดยสารตอนหลังด้วยหน้าจอสัมผัส 10.1 นิ้ว เสียงก็
อลังการด้วยชุดเครื่องเสียง Bang & Olufsen
All New Audi A4 จัดเต็มด้วยทางเลือกเครื่องยนต์ที่หลากหลาย ได้แก่ เบนซิน 1.4 ลิตร TFSI 150 แรงม้า แรงบิด 250
นิวตันเมตร, เบนซิน 2.0 ลิตร TFSI 190 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร/ 252 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร, ดีเซล 2.0
ลิตร TDI 150 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร/190 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร, ดีเซล 3.0 ลิตร TDI 218 แรงม้า
แรงบิด 400 นิวตันเมตร/ 272 แรงม้า แรงบิด 272 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตันเมตร
นอกจากนี้ Audi ยังเสนอทางเลือกใหม่ให้แก่ A4 Avant ด้วยรุ่นเครื่องยนต์ที่รองรับก๊าซธรรมชาติ ‘G-Tron’ เครื่องยนต์
เบนซิน 2.0 ลิตร TFSI 170 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร บรรจุถังก๊าซ CNG 19 กิโลกรัม แรงดัน 200 บาร์ มีระยะทาง
วิ่งสูงสุด 500 กิโลเมตรหากวิ่งด้วยก๊าซล้วน ๆ
All New Audi A4 เตรียมเปิดตัวขายอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้ สำหรับบ้านเราคงมาแน่ คาดว่าน่าจะได้เจอกัน
ภายในปีหน้า
ที่มา : Worldcarfans