ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือน มกราคม 2023 ที่งาน Consumer Electronics Show 2023 (CES 2023) บริษัทร่วมทุนของ 2 ยักษ์ใหญ่แห่งแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง Sony Honda Mobility (SHM) ได้เผยโฉมต้นแบบรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ AFEELA ถือเป็นก้าวแรกของความร่วมมือระหว่าง Honda และ Sony ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์และเทคโนโลยีของโลก ล่าสุด รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นดังกล่าว ได้ผ่านขั้นตอนพัฒนาขั้นสุดท้ายกระทั่งคลอดออกมาเป็นเวอร์ชั่นผลิตขายจริงในชื่อ AFEE มีการเผยข้อมูลตัวรถทั้งหมด พร้อมเปิดรับคำสั่งจองเป็นที่เรียบร้อย ณ งาน CES 2025
AFEELA 1 เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ Honda และ Sony เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่ผนวกความถนัดของแต่ละฝ่ายเข้าด้วยกัน โดยฝั่ง Honda จะเป็นผู้ดูแลเรื่องการพัฒนาด้านยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็น การผลิตและประกอบตัวถัง งานวิศวกรรมต่างๆ รวมถึงการบริการหลังการขาย ขณะที่ Sony จะรับผิดชอบด้านระบบการเชื่อมต่อและสื่อสาร ระบบความบันเทิง ตลอดจนระบบความปลอดภัยของตัวรถ
ด้วยความเป็นรถที่มี DNA บริษัทสาย Tech ทำให้ AFEELA 1 นั้น แตกต่างจากรถยนต์ Honda รุ่นปกติทั่วไป ตัวรถมาพร้อมนานาเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์รอบคัน 40 ตำแหน่ง (กล้อง, LiDAR, เรดาร์, เซ็นเซอร์อัลตราโซนิค) ทำหน้าตรวจจับวัตถุสำหรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ AFEELA Intelligent Drive (Level 2+) บานประตูแบบเปิด – ปิดด้วยระบบไฟฟ้า สปอยเลอร์หลังแบบ Active ยกตัว – พับเก็บอัตโนมัติ ตลอดจนกระจังหน้าแบบ Media Bar ทำหน้าที่แสดงข้อมูลและสถานะตัวรถ ตามแนวคิดของแบรนด์ที่ต้องการสร้างสิ่งที่เป็นตัวกลางระหว่าง ผู้คน และ ยานยนต์
AFEELA 1 จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดกลาง พิกัด D-Segment มีมิติตัวถังภายนอก ดังนี้
- ความยาว 4,915 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,900 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,460.5 มิลลิเมตร
- ความยาวฐานล้อ 3,000 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดใต้ท้องรถ Ground Clearance 137 มิลลิเมตร (Max Load)
ตัวรถมาในสไตล์ Fastback มีการออกแบบบานกระจกบังลมหลังเป็นชิ้นเดียวกันกับบานฝาท้าย เมื่อเปิดฝาท้ายขึ้นจะพบกันพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง ความจุ 765 ลิตร สามารถแยกพับพนักพิงเบาะนั่งด้านหลังได้ในสัดส่วน 60:40 ช่วยเพิ่มความอเนกประสงค์ในการใช้งาน
ภายในห้องโดยสารออกแบบและตกแต่งมาในแนวเรียบง่าย ภายใต้คอนเซปต์ My Room, My Style มีการติดตั้งหน้าจอต่างๆ เต็มพื้นที่แผงบอร์ดด้านหน้า สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผล ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ตลอดจนเสียงสังเคราะห์ของมอเตอร์ไฟฟ้าตามใจผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร พร้อมติดตั้งระบบเครื่องเสียง 360 Spatial Sound ที่ถูกพัฒนาโดย Sony เพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่และโดยสาร
โทนสีภายในห้องโดยสาร รุ่น Origin จะเป็นสีดำล้วน ขณะที่รุ่น Signature สามารถเลือกโทนสีขาวและเทา เพื่อสร้างความรู้สึกโปร่งโล่งได้ อีกทั้งยังมีหน้าจอแสดงผล ขนาด 12.9 นิ้ว 2 ตำแหน่ง ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 รุ่น จะมาพร้อมหลังคากระจก Panoramic Glass Roof แบบเต็มบาน รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ อาทิ ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง และช่องชาร์จไฟสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง 4 รูปแบบ
ขุมพลังขับเคลื่อนของ AFEELA 1 ทั้ง 2 รุ่นย่อย เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พละกำลังรวมสูงสุด 360 กิโลวัตต์ หรือ 490 แรงม้า (PS) พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-Ion ความจุ 91 kWh รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 11 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 150 kW สำหรับรุ่นที่จำหน่ายในสหรัฐฯ จะใช้หัวชาร์จ NACS Superchager แบบเดียวกับ Tesla (ปัจจุบันมีโครงข่ายสถานีชาร์จกว่า 20,000 แห่ง ในสหรัฐฯ) เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ตัวรถสามารถแล่นได้ไกลสูงสุด 300 ไมล์ หรือราวๆ 482 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน EPA (U.S. Environmental Protection Agency)
รูปแบบระบบกันสะเทือน ด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ Double Wishbone ด้านหลังเป็นแบบอิสระ Multi Link ชิ้นส่วนปีกนกบนทำจากวัสดุอะลูมิเนียมนำ้หนักเบา และใช้ระบบถุงลม Air Suspension เป็นตัวรองรับแรงกระแทก ตลอดจนการปรับสมดุลรถขณะแล่นผ่านสภาพถนนในแต่ละรูปแบบ หรือแม้กระทั่งในขณะเร่งและเบรก
ล้อของ Origin จะมีขนาด 19 นิ้ว รัดด้วยยาง 225/55R19 ที่ด้านหน้า และ 245/50R19 ที่ด้านหลัง ขณะที่รุ่น Signature จะถูกอัพเกรดไปใช้ล้อขนาด 21 นิ้ว พร้ิมยาง 245/40R21 และ 275/35R21 ทั้ง 2 รุ่น ผ่านการทดสอบบนพื้นผิวรูปแบบต่างๆ ทั้งในสภาพถนนจริง และสถานีต่างๆ ในสนามทดสอบ Tochigi Proving Ground ของทาง Honda
AFEELA 1 จะประเดิมเปิดให้ชาวแคลิฟอร์เนียสั่งจองก่อนจะขยายวงกว้างออกไปสำหรับรัฐอื่นๆ ในสหรัฐอเมริกา สนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 89,900 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับรุ่น Origin และ 102,900 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับรุ่น Signature (คิดเป็นเงินไทยราวๆ 3,100,000 – 3,500,000 บาท)
ที่มา : AFEELA