แค่ขึ้นต้นหัวข้อก็รับประกันความสยองขวัญได้ในระดับหนึ่งเลยว่า Volvo คงจะทุ่มเทความรู้และความสามารถในการ
พัฒนา All New Volvo XC90 อย่างหมดหน้าตักเสมือนเป็นการเดิมพันครั้งสำคัญว่าแบรนด์ Volvo จะคงอยู่รอด
ปลอดภัยในระยะยาวได้แค่ไหน?

2014 08 20 Volvo

All New Volvo XC90 คือความหวังครั้งสำคัญของ Volvo ที่จะช่วยผลักดันยอดขายโดยรวมให้ลดระยะช่องว่างกับผู้นำ
ตลาดอย่าง Mercedes-Benz, BMW และ Audi และถือสำคัญ Volvo XC90 โฉมใหม่ถือเป็นรถยนต์คันแรกที่ถูก
พัฒนาขึ้นอยู่ในยุค Zhejiang Geely Holding Group Co. ครอบครอง และยังเป็นการเปิดตัวแพลทฟอร์มใหม่ล่าสุดที่
พัฒนาขึ้นด้วยตนเองโดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับ Ford Motor อีกต่อไป

Hakan Samuelsson ซีอีโอแห่ง Volvo ได้พูดประโยคหนึ่งอย่างน่ากลัวว่า Volvo จะไม่มีโอกาสครั้งที่ 2 เมื่อรอบ
สัมภาษณ์กับสื่อในสำนักงานใหญ่ที่โกเตนเบอร์ก สวีเดนซึ่งพอจะบอกเป็นนัย ๆ ว่า Volvo ได้ทุ่มทุนพัฒนางานวิศวกรรม
แบบใหม่ล่าสุดด้วยตนเองมากถึง 11,000 ล้านดอลลาร์ทั้งพื้นช่วงล่างและระบบส่งกำลังทั้งหมด (ผู้เขียนพอจะเข้าใจว่าหาก
รถยนต์รุ่นใหม่ของ Volvo ไม่ประสบความสำเร็จดังเป้าหมาย ก็น่าจะเกิดปัญหาสภาวะการเงินค่อนข้างแน่นอน)

Li Shufu ผู้ดำรงตำแหน่งประธานสูงสุดทั้ง Volvo และ Geely กล่าวว่า พวกเขาก็คาดหวังกับรถยนต์รุ่นนี้ และมันเป็น
การกลับมาค้นหาความมั่นใจที่เป็น Volvo ด้วยตนเองอีกครั้ง และเป็นการกลับมาเป็น Volvo อีกครั้งเหมือนในยุค 50s
และ 60s และจะทำให้ Volvo ควรมีส่วนแบ่งการตลาด(เท่าที่ควรจะเป็น)อีกครั้งหนึ่ง

หากย้อนกลับไปยุค 50s ก็พบว่า Volvo ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่วงการรถยนต์ด้วยการคิดค้นเข็มขัดนิรภัย 3
จุดได้ภายในปี 1959 จนเป็นคุณูปการแก่อุตสาหกรรมรถยนต์จนถึงทุกวันนี้ เฉกเช่นเดียวกับ Volvo XC90 โฉมใหม่ที่
นำเสนอระบบความปลอดภัยล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันการชนใหม่, มีการนำกระจกคริสตัลจาก Orrefors มา
ตกแต่งบริเวณเรือนเกียร์และระบบหน้าจอสัมผัสที่รองรับทั้ง iOS จาก Apple และ Android จาก Google

Andreas Bauer ผู้ช่วยผู้จัดการในดีลเลอร์ Autohaus am Goetheplatz แห่งประเทศเยอรมนีได้แสดงความคิดว่า สิ่ง
สำคัญที่สุดก็คือดีไซน์ที่ดึงดูดใจลูกค้า คนทั่วไปไม่ได้ซื้อรถเพราะออพชั่นความปลอดภัย ถ้าพวกเขายังไม่รู้สึกว่ารถมันน่า
หลงใหลพอ

สิ่งที่ Volvo คิดและตั้งใจทำจะประสบความสำเร็จหรือแค่เสมอตัวหรือจะล้มเหลวหรือไม่ ก็ต้องติดตามกันต่อไป

ที่มา : Autonews