Volkswagen Scirocco สปอร์ตคูเป้ที่สร้างชื่อให้แก่ค่าย Volkswagen ก็ได้เวลาปรับปรุงโฉมต้อนรับปี 2014 ด้วย
รูปลักษณ์ที่สดใหม่ขึ้นหลังจากที่ทำตลาดมานานแล้ว 6 ปี ถึงจะดูนานแต่ตัวรถก็ยังสวยสดเหมือนฉีดฟอร์มาลีน แต่ครั้นจะ
ไปคาดวังให้มันเปลี่ยนแปลงระดับพลิกโฉมหน้าไปเลยนั้นคงเป็นไปไม่ได้แน่นอน อย่างน้อย ๆ มันก็มีความเปลี่ยนแปลงที่
พอสังเกตกันได้บ้าง
Volkswagen Scirocco รุ่นปกติจะมีการเปลี่ยนแปลงกระจังหน้า, โคมไฟหน้า bi-xenon และที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนมาก
ที่สุดก็คือชุดกันชนหน้าที่เล่นลวดลายช่องดักลมทันสมัย ใครที่คิดว่าปรับด้านหน้าแล้วเล่นง่ายไม่ยอมปรับบั้นท้ายแล้วล่ะก็
เห็นทีจะคิดเพราะ Volkswagen ได้ลงทุนขึ้นรูปฝากระโปรงท้ายใหม่ให้มีขอบสันตูดเป็ดพร้อมกับเปลี่ยนกันชนท้ายใหม่
และเปลี่ยนรายละเอียดโคมไฟท้าย LED ก็ทำให้บั้นท้าย Scirocco ใหม่ดูเฉียบคมกว่าเดิมเอามาก ๆ
สำหรับ Volkswagen Scirocco R จะมีความแตกต่างจากรุ่นปกติธรรมดาเหมือนกับรุ่นที่ผ่านมา และมีการเปลี่ยนแปลง
รายละเอียดโคมไฟหน้า, กระจังหน้าและกันชนหน้าใหม่
ภายในห้องโดยสารก็มีการเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับรถยนต์ Volkswagen ยุคปัจจุบันด้วยการกลับมาเปลี่ยนช่องแอร์ทรง
เรียบง่ายอีกครั้ง, เปลี่ยนสวิตช์แอร์อัตโนมัติ, เปลี่ยนพวงมาลัยทรงสปอร์ตทันสมัยขึ้น พิเศษสุดได้ติดตั้งมาตรวัดความดัน
น้ำมัน, นาฬิกาสไตล์ chronometer และมาตรวัดความดันเทอร์โบ นอกจากนี้ยังติดฟีเจอร์สำคัญหลายอย่าง อาทิ ระบบ
เครื่องเสียง Dynaudio Excite, ระบบช่วยจอดและฝาปิดช่องเก็บของบริเวณเบรกมือ
Volkswagen Scirocco มีเครื่องยนต์ให้เลือก 3 บล็อก ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.4 ลิตร TSI ที่ถูกปรับปรุงให้แรง
กว่าเดิม 4 แรงม้า เป็น 125 แรงม้า (HP) และเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร TSI รุ่นปรับปรุงใหม่ที่มีกำลังให้เลือก 3 แบบ ได้แก่
180 แรงม้า (แรงกว่าเดิม 20 แรงม้า), 220 แรงม้า (แรงกว่ารุ่นเดิม 10 แรงม้า) และ 280 แรงม้า (แรงกว่ารุ่นเดิม 15
แรงม้า) และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 150 แรงม้า (แรงกว่ารุ่นเดิม 10 แรงม้า) และ 180 แรงม้า (แรงกว่าเดิม 7 แรงม้า)
ทุกเครื่องยนต์ติดตั้งระบบ Start and Stop และแบตเตอรี่สำหรับเก็บประจุจากพลังงานจลน์ เฉพาะรุ่นเครื่องเบนซิน 2.0
ลิตร 280 แรงม้าจะมีเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะและเกียร์ DSG ให้เลือก
Volkswagen Scirocco Minorchange จะเตรียมทำตลาดในยุโรปตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป จากนั้นไม่นานก็จะ
ส่งทำตลาดในประเทศเกาหลีใต้, ออสเตรเลีย, รัสเซีย, อาร์เจนตินาและจีน
สำหรับไทยก็ต้องรอการนำเข้าจากผู้แทนจำหน่ายกันต่อไป
ที่มา : Worldcarfans