Volkswagen Passat เจเนเรชั่นปัจจุบันนับเป็นเจเนเรชั่นที่ 6 เปิดตัวตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา รูปโฉมโนมพรรณก็ถือว่ามีความสวยงามสง่างามเหมือนรถระดับ D-Segment ในตลาดยุโรปทั่ว ๆ ไป เพียงแต่เรายังไม่ใจว่า Passat เจเนเรชั่นนี้จะเป็นรถที่ยังดูสวยไร้กาลเวลาหรือ TimeLess Design เหมือนกับเจเนเรชั่นที่แล้วได้หรือไม่ ที่แน่ ๆ โฉมหน้าของรถตัวนี้คงจะเก่าไปแล้วสำหรับรถยนต์ที่มีอายุการตลาด 5 ปี Volkswagen เห็นทีจะต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว

รถที่มีอายุการตลาด 5 ปีสำหรับยุคปัจจุบันก็ถือเป็นรถยนต์ที่มีอายุการตลาดครบรอบอายุพอดี แต่สำหรับค่ายรถยุโรปมักจะมีอายุการตลาดรถยนต์ยาวนานกว่ารถญี่ปุ่นสัก 1-2 ปีเป็นส่วนใหญ่จึงไม่แปลกใจนักที่เรายังเห็น Volkswagen เลือกยืดอายุตลาด Passat เจเนเรชั่นนี้เพิ่มอีกสักหน่อย ถ้าในเมื่อตัวรถยังมีจุดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งตลาดอยู่ดี

ความพยายามของ Volkswagen ในครั้งนี้มิใช่การปรับโฉมหน้าเพียงแค่ยืดอายุตัวถังนี้ให้ยืนยาวในตลาดมากที่สุด Volkswagen จึงใช้มุขแต่งตั้งให้ Passat Big Minorchange ครั้งนี้กลายเป็น Passat เจเนเรชั่นที่ 7 แบบเดียวที่ Volkswagen จัดการ Big Minorchange ให้กับ Golf เจเนเรชั่นที่ 5 แล้วแต่งตั้งให้มันเป็นเจเนเรชั่นที่ 6 กันไปเลย

จากการสืบทราบข้อมูลวงการรถยนต์ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา Volkswagen เคยเปิดเผยว่าตนเองประสบกับภาวะต้นทุนการพัฒนาและผลิตสูงจนไม่อาจจะแข่งขันกับคู่แข่งต่างชาติที่มีต้นทุนต่ำกว่าได้ Volkswagen จึงต้องเร่งหากรรมวิธีลดต้นทุนขนานใหญ่แต่กว่าจะเป็นผลสำเร็จในระยะยาวได้ก็คงต้องรอคอยกันนาน Volkswagen จึงนำพื้นฐานของรถยนต์รุ่นปัจจุบันมาเพิ่มคุณค่างานด้านวิศวกรรมและคอยหาทางลดต้นทุนการผลิตเท่าที่จะกระทำได้ จึงไม่แปลกใจว่า Volkswagen Golf เจเนเรชั่นปัจจุบันจึงเป็นตัวคั่นเพื่อรอโฉมใหม่ที่จะเปิดตัวภายในปี 2012 แทน
ดังนั้นหาก Volkswagen จะต้องใช้มุขนี้ร่วมกับ Passat เจเนเรชั่นปัจจุบันก็อย่าแปลกใจกันไป 
ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ Volkswagen Passat โฉมใหม่ก็คือการปรับลุคใหม่ตามแนวทาง Volkswagen DNA ไล่ตั้งแต่ด้านหน้าที่ลอกแบบมาจาก Phaeton ซีดานรุ่นใหญ่ที่เพิ่งปรับโฉมไม่นานนัก  ดูเรียบร้อยสงบเสงี่ยมเข้าไปใหญ่ แต่แอบความสปอร์ตอยู่ในที ยิ่งเมื่อประกบกับกันชนหน้าใหม่ทรงสปอร์ตก็ทำให้ดูไม่น่าเบื่อเท่าไรนัก

รายละเอียดตัวถังต่าง ๆ ไม่แตกต่างจาก Passat ตัวที่แล้วแม้แต่น้อย เราก็ต้องตอกย้ำว่านี่คือ Big Minorchange นะครับมิใช่ Full Modelchange ของแท้จริง ๆ หันไปมองบั้นท้ายก็พบว่าได้เปลี่ยนชุดไฟท้ายทรงใหม่ทรงเรียบง่ายพร้อมฝากระโปรงไร้ลูกเล่นอันใดเลย ผิดกับ Passat รุ่นที่แล้วพอสมควร
ภายในห้องโดยสารแทบจะไม่มีการเปลี่ยนหน้าตาชุดชิ้นส่วนคอนโซลหน้าใด ๆ มันก็ยังใช้ชุดคอนโซลเหมือนกับ Passat รุ่นที่แล้วเพียงแค่เปลี่ยนรายละเอียดให้เหมือนกับ Passat CC แค่นั้นเอง ยกเว้นดีไซน์แผงข้างประตูออกแบบใหม่ทั้งหมดเน้นสรีระและความเรียบง่ายมากขึ้น

เครื่องยนต์ Volkswagen Passat โฉมใหม่มีให้เลือกมากถึง 10 บล๊อกไล่ตั้งแต่เครื่องยนต์ 105 แรงม้า (PS) จนไปถึง 300 แรงม้า (PS) เครื่องยนต์จุดขายเด่นที่ Volkswagen แนะนำมีอยู่ 2 บล๊อกได้แก่เครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร TDI 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 25.25 กิโลกรัมเมตร ปรับปรุงให้ประหยัดน้ำมันได้ถึง 4.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 เพียง 109 กรัมต่อกิโลเมตร ติดตั้งระบบ Start-Stop ให้เรียบร้อยแล้ว
อีกเครื่องยนต์เด่นก็คือเครื่องยนต์เบนซิน 1.4 ลิตร TSI 122 แรงม้า ประหยัดน้ำมัน 5.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย 138 กรัมต่อกิโลเมตร

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ร่วมเดินทางก็คือระบบช่วยปรับลำแสงไฟอัตโนมัติ โดยเฉพาะเมื่อคุณใช้ไฟสูงขณะมีรถยนต์อีกเลนส่วนผ่าน ระบบจะพยายามปรับทิศทางและลดกำลังไฟลงเพื่อป้องกันแสงเข้าตาผู้ขับขี่รถเลนตรงข้าม
นอกจากนี้ยังมีระบบ XDS Diffrential Lock แบบเดียวกับ Golf GTI เพื่อช่วยให้รถเข้าโค้งอย่างมั่นใจมากขึ้น 
กำหนดวางจำหน่าย Volkswa Passat โฉมใหม่คือช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ครับ