เพียงได้แค่ฟังชื่อรถต้นแบบแท๊กซี่ต้นแบบคันนี้ก็ได้กลิ่นความเป็นอิตาเลียนอย่างสูงมาก แค่ชื่อก็ไม่ธรรมดาแล้วตัวรถแท๊กซี่คันนี้ก็ยิ่งไม่ธรรมดากันเข้าไปใหญ่ ยิ่งเราอ่านรายละเอียดรถคันนี้เราก็ยิ่งรู้ว่าทำไมต้องตั้งชื่อนี้เพราะรถคันนี้เป็นรถแท๊กซี่ที่มีคุณสมบัติเด่นวิ่งคล่องแคล่วในเมืองแบบปลอดมลพิษ ไม่ว่าคุณจะวิ่งในเมืองมิลาน,ปารีส แม้กระทั่งโตเกียวรถคันนี้จะตอบสนองเถ้าแก่หัวทันสมัยและรักษ์สิ่งแวดล้อมได้

 
 
 

Volkswagen มีความคิดบรรเจิศมากมายสารพัดเพื่อผลักดันผลิตภัณฑ์เปี่ยมไปด้วยนวตกรรมใหม่ ๆ เข้าสู่ยุครถไฟฟ้าอย่างเต็มภาคภูมิ มันจะน่าอยู่แค่ไหนหากรถไฟฟ้าที่จำหน่ายในท้องตลาดไม่ได้มีแค่เพียงรถยนต์นั่งส่วนบุคคล แต่ Volkswagen คิดการณ์ไกลด้วยการซุ่มพัฒนารถไฟฟ้าสำหรับระบบขนส่งมวลชนขนาดย่อยอย่างแท๊กซี่ที่พวกเราคุ้นเคยกันดี

รถต้นแบบแท๊กซี่รถไฟฟ้าคันนี้ถูกสร้างบนพื้นฐาน Volkswagen Space Up! รถ MPV ที่จะพัฒนาต่อไปเป็นยานยนต์เชื้อเพลิงหลากแบบ 1 ในนั้นคือมุ่งเป้าไปที่การพัฒนาเป็นรถไฟฟ้าและพร้อมที่จะจำหน่ายจริงภายในปี 2013 อีกด้วย

รถแท๊กซี่ของฝรั่งกับของบ้านเรามีบางสิ่งที่เหมือนกันครับ สังเกตดี  ๆ ว่าการสาดสีตัวถัง Volkswagen Milano Taxi Concept ใช้สีทูโทนเขียวและดำ คิดเล่น ๆ ว่าหากนำรถต้นแบบคันนี้แล่นในบ้านเรา คงมีคนเผลอโบกหลายคันแน่นอน

 
 

Mr. Walter de Silva เปิดเผยว่าเขาห่วงใยการเข้าออกของผู้โดยสารในเมืองหลวงเป็นอันมากหากจะติดตั้งประตูทั้ง 4 บานเกรงว่าหากผู้โดยสารไปเปิดประตูฝั่งที่มีรถแล่น (ไม่ใช่ฝั่งทางเท้า) จนเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนได้ วิธีแก้ปัญหาจึงติดตั้งประตูเข้าห้องโดยสารตอนหลังแบบหมุน และเป็นประตูสไลด์ได้ในตัวหากต้องการทางเข้าห้องโดยสารที่ใหญ่เอามาก ๆ

มิติตัวรถกะทัดรัดในรูปแบบซับคอมแพคท์ MPV ด้วยความยาว 3.73 เมตร ความกว้าง 1.66 เมตร และสูงชะลูด 1.6 เมตร ดีไซน์ทั้งคันได้แรงบันดาลใจจาก Volkswagen Samba Bus ในยุค 1950 ที่โปร่งโล่งเป็นพิเศษด้วยช่องกระจกเล็ก ๆ บริเวณโครงคานหลังรอบคัน มีประโยชน์ช่วยให้ห้องโดยสารโปร่งโล่งและให้แสงส่องกระทบห้องโดยสารดูสวยงาม

จุดเด่นของรถต้นแบบแท๊กซี่คันนี้เห็นทีจะหนีไม่พ้นภายในห้องโดยสารที่จัดสรรเนื้อที่แปลกประหลาดกว่าแท๊กซี่คันอื่น ๆ แทนที่จะมีเนื้อที่ห้องโดยสาร 5 คนกับห้องสัมภาระด้านท้าย แต่ Volkswagen Milano Concept กลับคิดต่างออกไปด้วยการจัดสัดส่วนเนื้อที่ไม่เหมือนใคร อาทิ ห้องสัมภาระถูกย้ายจากด้านท้ายมาอยู่ข้าง ๆ ผู้ขับขี่แทนที่เบาะนั่งด้านหน้า แม้จะสูญเสียเนื้อที่ผู้โดยสารไป 1 คนแต่ก็ได้ความสะดวกและความปลอดภัยในการขนย้ายสิ่งของไปแทนเพราะไม่ต้องอ้อมไปด้านหลัง

และยืดเบาะผู้โดยสารตอนหลังเล็กน้อยทำให้มีเนื้อที่วางขาผู้โดยสารตอนหลังตำแหน่งหลังเบาะผู้ขับขี่มหาศาลถึง 120 มิลลิเมตรเทียบชั้นกับรถซีดานหรูขนาดยักษ์กันเลย  ส่วนผู้โดยสารตอนหลังตำแหน่งที่วางห้องสัมภาระด้านหน้า ขอบอกว่าเลยว่าสบายสุดชีวิต คุณสามารถยืดขาได้ไม่จำกัดเลยครับ นั่นเป็นเพราะอานิสงค์การตัดเบาะหน้าทิ้งไปนั่นเอง

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารสำหรับผู้โดยสารตอนหลังคือจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วที่สามารถดูข้อมูลอัตราค่าโดยสาร อนุญาตให้ผู้โดยสารสามารถจ่ายค่าโดยสารด้วยเครื่องรูดบัตรเครดิต Visa/Mastercard ที่ติดตั้งด้านข้างหน้าจอในตัวทันสมัยดีแท้

ยังไม่หมดครับผู้โดยสารสามารถค้นหาต่าง ๆ 3 ภาษา ภาษาอังกฤษ ภาษาอิตาเลียน และภาษาเยอรมัน อาทิ ข้อมูลสถานที่หรือจุดที่น่าสนใจ,แสดงแผนที่ในเมืองระบบสามารถคำนวนระยะเวลาและระยะทางวิ่งจากต้นทางถึงปลายทางได้,ดูอุณหภูมิอากาศและดูวัน เวลาปัจจุบันได้ นอกจากนี้ผู้โดยสารยังสามารถปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศตอนหลังได้ด้วย

ผู้ขับขี่แท๊กซี่ก็มีระบบอำนวยความสะดวกไม่แพ้กัน Volkswagen ติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วเยื้องตรงกลางแผงคอนโซลหน้า ทำหน้าที่ได้สารพัดนอกเหนือจากจะเก็บเงินค่าแท๊กซี่แล้วมันยังเป็นหน้าจอระบบนำทางได้,หน้าจอควบคุมเครื่องปรับอากาศตอนหน้าและตอนหลังได้,สั่งการให้เปิดประตูผู้โดยสารได้,ดูสถานะไฟฟ้าในแบตเตอรี่,เปิดวิทยุและโทรศัพท์ได้,ดูปฏิทิน อุณหภูมิอากาศออนไลน์ได้

แต่ที่ชอบใจที่สุดเห็นทีคงไม่พ้นแท่นยึดเครื่องบูชายึดเหนี่ยทางจิตใจบริเวณด้านหน้าเรือนกระจกบังลมหน้าซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าทีมออกแบบใส่ใจกับผู้ขับขี่ที่ขึ้นชื่อว่านักขับแท๊กซึ่อย่างมาก นึกเล่น ๆ เหมือนกันว่ามาบ้านเราบริเวณตรงนั้นคงไม่พอเพียงแน่นอนเลยล่ะ

ระบบขับเคลื่อนของมันเหมือนจะเป็นจุดเด่นที่สุดในรถคันนี้ถูกกลบรัศมีโดยเหล่านวตกรรมในห้องโดยสารเกือบหมด อีกทั้งข้อมูลระบบขับเคลื่อนก็สามารถไปค้นดูได้จาก Volkswagen Space Up! ได้ด้วย แต่เกรงว่าผู้ชมจะเมื่อยนิ้ว ปวดหัวไปเสียก่อนเราจึงเอาสเปคมาฝากแล้วกันครับ

Volkswagen Milano Taxi Concept เป็นรถใช้พลังงานไฟฟ้าด้วยกำลังขับมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 85 กิโลวัตต์หรือ 116 แรงม้า (PS) อัตราเร่งสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออน 45 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สามารถวิ่งระยะทางสูงสุด 300 กิโลเมตร สามารถเติมประจุไฟฟ้าให้เกือบเต็มก็ใช้เวลาชาร์จเพียง 1 ชั่วโมง

Volkswagen Milano Taxi Concept อวดโฉมแล้วในงาน Hanover Trade Show 2010 งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมประจำเยอรมนีครับ