Toyota ขึ้นชื่อว่าเป็นบริษัทผู้นำผลิตรถยนต์รักษ์สิ่งแวดล้อมมือวางอันดับ 1 ของโลก ที่ผมต้องเรียกมือวางอันดับ 1 ก็เพราะ Toyota คิดนวัตกรรม Hybrid ที่ดีที่สุดในปี 1997 ออกมาตลอดจนพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองให้ดีขึ้นสม่ำเสมอจนยากที่จะมีคู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อในตลาด Hybrid ถ้าเรียกว่าผูกขาดตลาดไปเลยน่าจะเข้าข่ายนี้

 
 

แต่ Toyota ก็มิอาจวางใจได้ว่าตลาดรถ Hybrid ที่ตนเองเป็นผู้นำเทคโนโลยีระดับโลกจะสามารถต่อยอดไปได้ไกลถึงยุคหน้าได้ ในเมื่อจุดสูงสุดของเทรนด์การอนุรักษ์พลังงานในโลกยานยนต์คือการไม่บริโภคน้ำมันเลย และ Toyota เชื่อว่าจุดสูงสุดกลับไม่ใช่รถไฟฟ้าโดยตรงเพียงอย่างเดียว รถที่มีต้นกำเนิดจากน้ำและแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าต่างหากน่าจะตอบโจทย์ของรถยุคหน้าได้ดี

Toyota คิดการณ์ไกลว่าถ้าไม่เล่นตลาดรถไฟฟ้าที่ดูเหมือนจะปล่อยให้ GM,Ford และ Nissan แข่งขันกันเป็นผู้นำไปก่อน ถ้า Toyota หันมาเล่นตลาด Fuel Cell ในอนาคตก็ไม่เลวทีเดียว เพราะตลาดรถไฟฟ้าการแข่งขันสูงมาก

Toyota Motor ประเทศญี่ปุ่นเริ่มเผยแผนการผลิตรถ Fuel Cell ที่ใช้แปรธาตุ Hydrogen เป็นพลังงานไฟฟ้าในมาดรถซีดานขนาดเล็กภายในปี 2015 ด้วยราคา 50,000 ดอลลาร์ แพงกว่า Camry ในสหรัฐอเมริการาว 3 เท่าตัว โปรดอย่าเพิ่งยี้ถ้าเป็นราคานี้ถือว่าเป็นรถ Fuel Cell ที่มีราคาถูกที่สุดในโลกแล้วครับ เพราะต้นทุนรถ Fuel Cell ที่แพงมโหฬารจะทำให้ค่ายรถต้องตั้งราคาถึง 1 ล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นราคาที่ไม่มีใครซื้อแน่นอน

เหตุที่ Toyota พัฒนารถยนต์ Fuel Cell แทนที่จะหันไปพัฒนารถไฟฟ้า 100% ก็เพราะ Toyota มั่นใจว่ามีความคุ้มค่ามากกว่ารถไฟฟ้าทั้งด้านสมรรถนะที่เหนือกว่า,  การใช้งานที่เข้ากับชีวิตประจำวันมากกว่าหากติดตั้งสถานีประจุ Hydrogen ได้ครอบคลุม เพียงแค่เข้าไปเติม Hydrogen ไม่กี่นาที และเชื่อว่าจะสามารพัฒนาชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Fuel Cell ให้มีต้นทุนต่ำลงได้เทียบเท่ากับรถสันดาปภายใน

เคล็ดลับ Toyota ที่ทำให้สามารถตั้งราคารถ Fuel Cell ได้ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งคือการลดใช้ทองคำขาว (Platinum) อันเป็นธาตุที่แพงเอามาก ๆ เหลือแค่เพียง 1 ใน 3 ของวงจรเท่านั้น, การใช้แผงวงจรที่บางกว่าเดิม และผลิตถังบรรจุเชื้อเพลิง Hydrogen ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์อันเป็นวัสดุที่จะแพร่หลายในการผลิตรถยนต์แน่นอน

ในเมื่อ Toyota โหมออกแรงด้วยแบบนี้อนาคตรถ Fuel Cell น่าจะมีบทบาทสำคัญในตลาดแน่ ๆ ครับ