มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงสถิติการ
จำหน่ายรถยนต์ประจำปี 2554 มีปริมาณการขาย 794,081 คัน ลดลง 0.8% คาดตลาดรถยนต์ไทยปี 2555
ขาย 1,100,000 คัน เพิ่มขึ้น 38.5% และตั้งเป้าหมายการขายรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น 450,000 คัน เพิ่มขึ้น
55.1% ครองส่วนแบ่งตลาด สูงถึง 40.9%
มร.ทานาดะ กล่าวว่า “ปีที่ผ่านมา นับว่าเป็นปีแห่งการฟันฝ่าอุปสรรคจากภัยธรรมชาติ นับตั้งแต่เหตุการณ์
สึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น และเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตรถยนต์ใน
ประเทศ แต่อย่างไรก็ตามด้วยความต้องการของตลาดที่มีอย่างสูงและต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายรถยนต์รวม
ในประเทศปี 2554 ยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ด้วยยอดขายที่ประมาณ 794,081 คัน ลดลง
0.8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
สถิติการขายรถยนต์ ในปี 2554
ยอดขายปี 2554 เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับปี 2553
ปริมาณการขายรวม 794,081 คัน* – 0.8%
รถยนต์นั่ง 360,444 คัน + 4.0%
รถเพื่อการพาณิชย์ 433,637 คัน – 4.4%
รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 365,636 คัน – 5.7%
รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 327,463 คัน – 5.7%
หมายเหตุ *ไม่รวมยอดจำหน่ายของ Mercedes-Benz, BMW, MINI, VOLVO ในเดือนพ.ย.-ธ.ค. 2554
(ซึ่งไม่มีการส่งยอดขายมารวมด้วยแล้วนับจากนี้เป็นต้นไป – J!MMY)
โดยโตโยต้ามียอดขาย 290,061 คัน ลดลง 11.0% แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 138,104 คัน ลดลง 2.6% รถเพื่อ
การพาณิชย์ 151,957 คัน ลดลง 17.5% และรถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ
ยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 134,970 คัน ลดลง 18.1%
สถิติการขายรถยนต์ของโตโยต้า ในปี 2554
ปริมาณการขายโตโยต้า 290,061 คัน ลดลง 11.0% ส่วนแบ่งตลาด 36.5%
รถยนต์นั่ง 138,104 คัน ลดลง 2.6% ส่วนแบ่งตลาด 38.3%
รถเพื่อการพาณิชย์ 151,957 คัน ลดลง 17.5% ส่วนแบ่งตลาด 35.0%
รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 134,970 คัน ลดลง 18.1% ส่วนแบ่งตลาด 36.9%
รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 121,887 คัน ลดลง 15.5% ส่วนแบ่งตลาด 37.2%
ด้านการส่งออกในปีที่ผ่านมา โตโยต้าได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน 250,823 คัน ลดลง 25%
คิดเป็นมูลค่า 107,483 ล้านบาท ตลอดจนการส่งออกชิ้นส่วน มูลค่า 54,233 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่า
การส่งออกที่นำรายได้กลับสู่ประเทศไทยเป็นเงินทั้งสิ้น 161,716 ล้านบาท สำหรับยอดขายภายใน
ประเทศและการส่งออกที่ลดลงนั้น เป็นผลมาจากการขาดแคลนชิ้นส่วนในการประกอบรถยนต์”
สำหรับแนวโน้มของตลาดรถยนต์ของปี 2555 มร.ทานาดะ กล่าวว่า “สำหรับในปี 2555 ตลาดรถยนต์
ในเมืองไทยยังคงมีความต้องการอยู่อย่างมาก และมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้น ทั้งจากการทำการตลาด
อย่างต่อเนื่องจากค่ายรถยนต์ต่างๆ ด้วยการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ ตลอดจนนโยบายสนับสนุนจาก
ภาครัฐ ทำให้เราคาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์ในเมืองไทย จะมียอดขายเพิ่มสูงขึ้นถึง 1.1 ล้าน คัน ซึ่ง
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ประเทศไทยจะมียอดขายรถยนต์เกิน 1 ล้านคันต่อปี
ประมาณการยอดขายรถยนต์ ในปี 2555
ปริมาณการขายรวม 1,100,000 คัน เพิ่มขึ้น 38.5%
รถยนต์นั่ง 570,000 คัน เพิ่มขึ้น 58.1%
รถเพื่อการพาณิชย์ 530,000 คัน เพิ่มขึ้น 22.2%
รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 469,600 คัน เพิ่มขึ้น 28.4%
รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 422,600 คัน เพิ่มขึ้น 29.1%
สำหรับโตโยต้า ในปีนี้ เราตั้งเป้าหมายการขายที่ 450,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 214,000 คัน และ
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 236,000 คัน โดยรถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง
ของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 214,100 คัน
ประมาณการขายรถยนต์ของโตโยต้า ในปี 2555
ปริมาณการขายรวม 450,000 คัน เพิ่มขึ้น 55.1% ส่วนแบ่งตลาด 40.9%
รถยนต์นั่ง 214,000 คัน เพิ่มขึ้น 55.0% ส่วนแบ่งตลาด 37.5%
รถเพื่อการพาณิชย์ 236,000 คัน เพิ่มขึ้น 55.3% ส่วนแบ่งตลาด 44.5%
รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 214,100 คัน เพิ่มขึ้น 58.6% ส่วนแบ่งตลาด 45.6%
รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 185,100 คัน เพิ่มขึ้น 51.9% ส่วนแบ่งตลาด 43.8%
สำหรับเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าในปีนี้อยู่ที่ 375,000 คัน เพิ่มขึ้น 50%
เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่า 157,000 ล้านบาท และชิ้นส่วนมูลค่า 64,700 ล้านบาท รวม
มูลค่าการส่งออกทั้งสิ้นประมาณ 221,700 ล้านบาท”
มร.ทานาดะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ในปีที่ผ่านมา คุณอากิโอะ โตโยดะ
ท่านประธานบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ได้เดินทางมาประเทศไทย
และได้กล่าวไว้ว่า เราจะไม่ทิ้งประเทศไทย เราจะอยู่เคียงคู่กับชุมชน พร้อมที่จะร่วมทุกข์
ร่วมสุขและฟันผ่าไปด้วยกัน ทั้งยังมุ่งขยายกิจการของโตโยต้าในประเทศไทยต่อไป ด้วย
ความเชื่อมั่นในด้านความพร้อมและฝีมือของคนไทย
ดังนั้นผมขอยืนยันเจตนารมณ์ดังกล่าว โดยขอแจ้งให้ท่านทราบว่าโตโยต้าจะก่อตั้งโรงงานผลิต
แห่งใหม่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ ในชื่อ “โรงงานผลิตรถยนต์เกตุเวย์ 2”
พร้อมกับการเริ่มเปิดสายการผลิตอีกครั้งของโรงงาน TAW ที่เคยผลิตรถฟอร์จูนเนอร์ โดยทั้งสอง
โรงงานมีกำลังการผลิตรวมกันอยู่ที่ 88,000 คัน คิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 8,200 ล้านบาท
นอกจากนี้โรงงาน STM โรงงานผลิตเครื่องยนต์ของโตโยต้าได้ทำการขยายกำลังการผลิตเช่นกัน
“นอกจากนี้ในเดือนตุลาคมปีนี้ โตโยต้าจะครบรอบ 50 ปีสำหรับการดำเนินงานในประเทศไทย
เราขอแสดงความขอบคุณคนไทย ที่สนับสนุน โตโยต้าเป็นอย่างดีผ่านโครงการต่างๆ ทั้งในด้าน
ความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการนำนวัตกรรมใหม่ๆสู่สังคมไทย
เช่น โครงการ Smiling Road, Road Safety Road Show, Eco network, ระบบ G-book นวัตกรรม
อันทันสมัยระดับโลกที่ใช้เทคโนโลยี เทเลเมทิกส์ในการสื่อสารและรับส่งข้อมูลต่างๆ การเชื่อมต่อ
อินเตอร์เน็ต การค้นหาสถานที่ต่างๆ หรือสภาพการจราจร โสามารถควบคุมได้อย่างสะดวกสบาย
ผ่านสมาร์ทโฟน และ Eco โชว์รูม ที่นำเทคโนโลยีอันทันสมัยมาใช้กับโชว์รูมโตโยต้า เพื่อลดการ
ใช้พลังงานให้กับโลกของเราอีกด้วย”
—————————————–///————————————