บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์เดือนมีนาคม 2553  
มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 63,067 คัน เพิ่มขึ้น 52.6%  ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 23,122 คัน
เพิ่มขึ้น 42.8%  รถเพื่อการพาณิชย์   39,945 คัน เพิ่มขึ้น 58.9%   รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน
ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 34,938 คัน เพิ่มขึ้น 61.7%     

โตโยต้า ประเมินว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมีเหตุผลสำคัญ  3 ข้อ

1.) ตลาดรถยนต์เดือนมีนาคม มีปริมาณการขาย 63,067 คัน เพิ่มขึ้น 52.6%  เติบโตต่อเนื่อง
เป็นเดือนที่เจ็ด เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 23,122 คัน
เติบโต 42.8% รถเพื่อการพาณิชย์ 39,945 คัน เติบโต 58.9% ซึ่งมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง
เป็นเดือนที่หกและสูงสุดในรอบ 89 เดือน รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนท์นี้ 34,938 คัน
เติบโต 61.7% ทั้งนี้เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ดีขึ้น ประกอบกับการแนะนำ
รถยนต์นั่งรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดหลายรุ่นทั้งรถยนต์ประหยัดพลังงาน รถยนต์ขนาดเล็กและ
ขนาดกลาง ตลอดจนอัตราดอกเบี้ยที่ยังทรงตัว ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจซื้อ
ของผู้บริโภค

2.) ตลาดรถยนต์ไตรมาสแรก มีปริมาณการขาย 166,802 คัน เพิ่มขึ้น 54.8% เมื่อเทียบกับ
ช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่
ไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 50.7% ตลาด
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 57.6% แสดงถึงการฟื้นตัวของภาวะ
เศรษฐกิจในประเทศ ดังจะเห็นได้จากการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมและบริการปรับตัวดีขึ้น
ราคาสินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้นตามทิศทางราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก การส่งออกดีขึ้น
และราคาน้ำมันที่ทรงตัว ส่งผลให้การบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้นเช่นกัน

3.) ตลาดรถยนต์ในเดือน เมษายน คาดว่ายังคงเติบโต เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ความนิยม
ในรถยนต์รุ่นใหม่ ตลอดจนยอดจองรถยนต์ในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ที่ผ่านมาที่สูงถึง 27,878 คัน
และราคาน้ำมันที่ไม่ผันผวนมากนัก ยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดรถยนต์

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนมีนาคม  2553
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 63,067 คัน เพิ่มขึ้น 52.6%                               
อันดับที่ 1 โตโยต้า     28,019 คัน        เพิ่มขึ้น    67.2%    ส่วนแบ่งตลาด 44.4%    
อันดับที่ 2 อีซูซุ         13,139 คัน        เพิ่มขึ้น    50.0%    ส่วนแบ่งตลาด 20.8%    
อันดับที่ 3 ฮอนด้า        6,338 คัน         ลดลง    12.5%    ส่วนแบ่งตลาด 10.0%    

2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 23,122 คัน เพิ่มขึ้น 42.8%                                 
อันดับที่ 1 โตโยต้า     10,427 คัน        เพิ่มขึ้น    50.0%    ส่วนแบ่งตลาด 45.1%        
อันดับที่ 2 ฮอนด้า        5,933 คัน         ลดลง    12.2%    ส่วนแบ่งตลาด 25.7%
อันดับที่ 3 มาสด้า        2,120 คัน        เพิ่มขึ้น   590.6%   ส่วนแบ่งตลาด  9.2%  

3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน*  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV)
ปริมาณการขาย  34,938 คัน เพิ่มขึ้น 61.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า     15,960 คัน        เพิ่มขึ้น  79.7%     ส่วนแบ่งตลาด 45.7%  
อันดับที่ 2 อีซูซุ         12,289 คัน        เพิ่มขึ้น  49.7%     ส่วนแบ่งตลาด 35.2%  
อันดับที่ 3 นิสสัน         2,384 คัน        เพิ่มขึ้น   44.9%    ส่วนแบ่งตลาด  6.8%   
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 4,148 คัน
โตโยต้า 2,424 คัน- มิตซูบิชิ 957 คัน – อีซูซุ 677 คัน – ฟอร์ด 90 คัน    

3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน*  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV)
ปริมาณการขาย  34,938 คัน เพิ่มขึ้น 61.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า     15,960 คัน        เพิ่มขึ้น  79.7%     ส่วนแบ่งตลาด 45.7%  
อันดับที่ 2 อีซูซุ         12,289 คัน        เพิ่มขึ้น  49.7%     ส่วนแบ่งตลาด 35.2%  
อันดับที่ 3 นิสสัน         2,384 คัน        เพิ่มขึ้น   44.9%    ส่วนแบ่งตลาด  6.8%   
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 4,148 คัน
โตโยต้า 2,424 คัน- มิตซูบิชิ 957 คัน – อีซูซุ 677 คัน – ฟอร์ด 90 คัน    

4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย  30,790 คัน เพิ่มขึ้น 58.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า    13,536 คัน        เพิ่มขึ้น  77.4%      ส่วนแบ่งตลาด 44.0%   
อันดับที่ 2 อีซูซุ        11,612 คัน        เพิ่มขึ้น  49.6%      ส่วนแบ่งตลาด 37.7%   
อันดับที่ 3 นิสสัน        2,384 คัน        เพิ่มขึ้น  44.9%       ส่วนแบ่งตลาด   7.7%  

5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 39,945 คัน เพิ่มขึ้น 58.9%                     
อันดับที่ 1 โตโยต้า   17,592 คัน        เพิ่มขึ้น  79.3%     ส่วนแบ่งตลาด 44.0%    
อันดับที่ 2 อีซูซุ       13,139 คัน        เพิ่มขึ้น  50.0%     ส่วนแบ่งตลาด 32.9%    
อันดับที่ 3 นิสสัน       2,449 คัน        เพิ่มขึ้น  47.7%     ส่วนแบ่งตลาด   6.1%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – มีนาคม 2553
1) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 166,802 คัน เพิ่มขึ้น 54.8%                               
อันดับที่ 1 โตโยต้า      69,801 คัน    เพิ่มขึ้น   57.1%    ส่วนแบ่งตลาด 41.8%   
อันดับที่ 2 อีซูซุ          35,349 คัน    เพิ่มขึ้น   50.1%    ส่วนแบ่งตลาด 21.2%   
อันดับที่ 3 ฮอนด้า       21,893 คัน    เพิ่มขึ้น   19.2%    ส่วนแบ่งตลาด 13.1%   

 2) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 66,247 คัน เพิ่มขึ้น 50.7%                                 
อันดับที่ 1 โตโยต้า     28,495 คัน        เพิ่มขึ้น    38.5%       ส่วนแบ่งตลาด 43.0%  
อันดับที่ 2 ฮอนด้า      20,318 คัน        เพิ่มขึ้น    17.8%       ส่วนแบ่งตลาด 30.7%  
อันดับที่ 3 มาสด้า        5,633 คัน        เพิ่มขึ้น   521.7%      ส่วนแบ่งตลาด   8.5% 

3) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV)
ปริมาณการขาย  87,062 คัน เพิ่มขึ้น  58.0%
อันดับที่ 1 โตโยต้า        37,291 คัน        เพิ่มขึ้น   73.5%     ส่วนแบ่งตลาด 42.8%   
อันดับที่ 2 อีซูซุ            33,037 คัน        เพิ่มขึ้น   49.5%     ส่วนแบ่งตลาด 37.9%  
อันดับที่ 3 นิสสัน            5,839 คัน         เพิ่มขึ้น   42.1%     ส่วนแบ่งตลาด  6.7%   
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 9,278คัน
โตโยต้า 4,997 คัน – มิตซูบิชิ 2,478 คัน – อีซูซุ 1,583 คัน – ฟอร์ด 220 คัน

4) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 77,784 คัน เพิ่มขึ้น 56.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า     32,294 คัน           เพิ่มขึ้น    76.1%      ส่วนแบ่งตลาด 41.5%   
อันดับที่ 2 อีซูซุ         31,454 คัน           เพิ่มขึ้น    49.7%      ส่วนแบ่งตลาด 40.4%  
อันดับที่ 3 นิสสัน          5,839 คัน          เพิ่มขึ้น    42.1%      ส่วนแบ่งตลาด  7.5%   

5) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 100,555 คัน เพิ่มขึ้น 57.6%                     
อันดับที่ 1 โตโยต้า     41,306 คัน        เพิ่มขึ้น   73.1%      ส่วนแบ่งตลาด 41.1%   
อันดับที่ 2 อีซูซุ         35,349 คัน        เพิ่มขึ้น   50.1%      ส่วนแบ่งตลาด 35.2%   
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ       5,965 คัน        เพิ่มขึ้น   42.1%      ส่วนแบ่งตลาด   5.9%