เป็นหนึ่งในประเด็นร้อนในช่วงที่ผ่านมา เมื่อสหพันธ์ยุโรป หรือ European Union ได้สั่งแบนการใช้สารหล่อเย็น
ประเภท R134a ในรถยนต์ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2013 ด้วยเหตุผลด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งหลังจาก Mercedes-Benz
ยืนยันจะใช้สาร R134a ในรถยนต์ของตน ล่าสุด Toyota ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น ก็เป็นรถยนต์อีกหนึ่งค่ายที่ขอ
กลับมาใช้สารประเภท R134a ด้วยเช่นกัน

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา European Union หรือ EU ได้สั่งแบนสารหล่อเย็นประเภท R134a ด้วยเหตุผลที่สารจำพวกนี้
ก่อมลภาวะให้กับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในด้านของสภาพอากาศ ซึ่ง EU หวังว่าการแบนดังกล่าวจะช่วยทำให้
ทวีปยุโรปมีอากาศที่บริสุทธิ์ได้มากขึ้นในระยะยาว ทั้งนี้ EU ได้แนะนำให้เหล่าบริษัทรถยนต์หันไปใช้สารหล่อเย็น
ประเภท R1234yf แทน

แต่สาร R1234yf กลับมีข้อเสียที่เสี่ยงยิ่งกว่า นั่นคือการที่สารนี้ไวต่อการเกิดเปลวไฟ จนสามารถเป็นสาเหตุของ
ไฟไหม้ได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ทำให้ Daimler AG ต้นสังกัดของ Mercedes-Benz ตัดสินใจที่จะใช้สารประเภท
R134a ต่อไป เพื่อลดอัตราเสี่ยงที่ผู้ใช้รถยนต์ของตนจะเกิดเพลิงไหม้ระหว่างการใช้งาน

โดยตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา Toyota ได้หันไปใช้สารหล่อเย็น R1234yf อยู่พักหนึ่ง กับรถยนต์หลายๆรุ่น
ที่ตนทำตลาดในยุโรป เช่น Prius Plus, GT86 และ Lexus GS แต่ล่าสุดได้มีการตัดสินใจใหม่ให้กลับมาใช้
R134a ในรถยนต์ทั้ง 3 รุ่นเรียบร้อยแล้ว ส่วน Mercedes-Benz นั้นยังคงใช้สารชนิดเดิมจนทำให้ทางการ
ฝรั่งเศสออกมาประกาศแบนการจำหน่าย A-Class, B-Class และ CLA-Class ในประเทศของตน

ด้าน Daimler AG อ้างว่า รถยนต์ของตนนั้นผ่านการอนุญาตจากทางการของประเทศเยอรมนีให้ทำตลาดได้
ดังนั้นก็จะสามารถจำหน่ายในประเทศอื่นๆที่เป็นสมาชิกในสหพันธ์ยุโรปด้วยเช่นกัน ในขณะที่ประเทศฝรั่งเศส
ได้อ้างว่าการแบนในประเทศฝรั่งเศสจะเป็นผลได้แน่นอน เนื่องจากผิดกฏร่วมของสหพันธ์ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับ
สภาพแวดล้อมและสุขภาพของสาธารณชน ซึ่งในเร็วๆนี้จะมีบทสรุปว่าสุดท้ายแล้ว Mercedes-Benz ทั้ง 3 รุ่น
จะถูกตัดสินให้ยุติการจำหน่ายในฝรั่งเศสหรือไม่

นับว่าเป็นเรื่องที่น่าจับตามองกันต่อไปครับ ว่าสุดท้ายแล้วสารหล่อเย็นแบบไหนที่จะมาเป็นมาตรฐานให้กับรถยนต์
ในยุโรปกันแน่

ที่มา : 4 Wheels News