เมื่อ Suzuki เริ่มรู้ตัวแล้วว่ายิ่งนานวันก็ยิ่งโดน Daihatsu และ Honda เบียดรัศมีความยิ่งใหญ่ในกลุ่มตลาดเคคาร์ขนาด
เครื่องยนต์ไม่เกิน 660 ซีซี เข้าไปทุกวัน Suzuki จึงจำเป็นต้องหาตลาดใหม่เพื่อมาเสริมทัพและเพื่อต้านคู่แข่งมิให้เหิม
เกริมไปมากกว่านี้ (แต่ถ้าจะขอหยุดยั้งคู่แข่ง ขอบอกไว้เลยยากมากเพราะคู่แข่งก็ครองใจประชาชนไปเรียบร้อยแล้ว) และ
เมื่อดูความถนัดของตนเองก็พบว่าถ้าจะทำเคคาร์ครอสโอเวอร์มาตอบโจทย์ตลาดญี่ปุ่นก็น่าจะดีไม่น้อย

Suzuki Hustler คือผลผลิตใหม่ล่าสุดจาก Suzuki Motor ด้วยรถเคคาร์แนวครอสโอเวอร์ที่ผสมผสานระหว่างข้อดีของ
รถเอสยูวีที่มีพื้นตัวถังสูง, ทัศนวิสัยดีและรถแวกอนขนาดเล็กที่มีข้อดีด้านพื้นที่ภายในห้องโดยสารและพื้นที่เก็บของ
มากมาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ Outdoor นอกบ้านบ่อย ๆ ขณะเดียวกันก็สามารถขับใช้งานในชีวิตประจำวันได้
ด้วย

รถคันนี้อาจจะโดนชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวอเมริกันหัวเราะใส่รถคันนี้อย่างหัวเราะงอหายกันไปข้างหนึ่ง นั่นเพราะชื่อ
Hustler มันเป็นชื่อเดียวกับนิตยสารโป๊ (แต่ไม่ถึงขั้นเปลือยหมดเปลือก) ชื่อดังในสหรัฐอเมริกาที่กำเนิดมาตั้งแต่ปี 1974
แล้ว เราก็คาดว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับการตั้งชื่อใน Suzuki Motor ก็คงจะรู้กันบ้าง แต่หาได้แคร์ไม่เพราะ Suzuki Hustler ทำ
ตลาดในญี่ปุ่นโดยเฉพาะ อีกทั้งชื่อ Hustler ยังเคยเป็นชื่อรถจักรยานยนต์ในยุคปี 1969 มาแล้ว ดังนั้นชาว Suzuki จึง
สามารถหัวเราะกลับพวกที่ปรามาสได้แน่นอน

Suzuki Hustler ถูกสร้างขึ้นบนพื้นตัวถังเดียวกับ Wagon-R แต่เน้นการออกแบบช่วงกรอบกระจกระหว่างเสา A จนถึง
เสา C ให้มีเนื้อที่มากพอจนทำให้ห้องโดยสารปลอดโปร่ง เห็นมาในสไตล์แบบนี้มันก็มีวงเลี้ยวแคบเพียง 4.6 เมตร และมี
ความสูงจากพื้นถนนมากถึง 180 มิลลิเมตรสำหรับรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อและ 175 เซนติเมตรสำหรับรุ่นขับเคลื่อนสองล้อหน้า
นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการไต่ขึ้น 28 องศาและไต่ลง 46 องศา ทุกรุ่นจะติดตั้งเหล็กกันโคลงหน้าและปรับแดม
เปอร์เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่

ดีไซน์ภายนอกน่าจะได้แรงบันดาลใจจากรถพวก Hummer และ Toyota FJ Cruiser แต่ย่อส่วนลงมาเป็นขนาดจิ๋วและ
ปรับรูปลักษณ์ให้ดูละมุนมากขึ้น โดดเด่นด้วยการออกแบบไฟหน้าทรงกลมแบบมีติ่งไฟเลี้ยวหน้า ส่วนภายในก็ตกแต่งให้
เน้นการใช้งานที่ดูทนทานพร้อมกับชูจุดเด่นด้วยแผงคอนโซลที่ครอบด้วยพลาสติกสีขาวหรือสีส้มแล้วแต่จะเลือก แถมยัง
เป็นพลาสติกชนิด VOC ปลอดภัยต่อผู้ใช้อีกด้วย นอกจากนี้ขอบตะเข็บเบาะนั่งก็สามารถเลือกได้ถึง 4 สี ได้แก่ ส้ม, น้ำเงิน
, ชมพู, ขาว

จุดขายกุ๊กกิ๊กที่ช่วยสร้างความเพลินเพลินให้แก่ผู้ขับขี่ได้ก็คือแผงจอ MID ที่สามารถแสดงผลในรูปแบบอนิเมชั่นได้ ส่วน
ด้านความอเนกประสงค์ภายในรถที่เห็นได้ชัดคือ เบาะหลังสามารถแยกเลื่อนถอยหน้าหลังได้ 160 มิลลิเมตร และเบาะนั่ง
ผู้โดยสารตอนหน้าและตอนหลังสามารถพับได้เรียบเสมอกันเหมาะสำหรับบรรทุกสิ่งของที่มีความยาว, เบาะผู้โดยสาร
หน้านอกจากจะพับได้แล้วยังติดตั้งถาดวางอาหาร, แผงข้างประตูหลังติดตั้งช่องวางขวดน้ำ pet ได้, มีขอจุดยึด/ช่องเก็บ
ของสารพัดมาก

Suzuki Hustler ติดตั้งฟีเจอร์และเทคโนโลยีล้ำหน้า ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยขึ้นเนินเขา, ระบบช่วยลงเขา, Grip Control
ช่วยวิ่งบนกองหิมะอย่างง่ายดาย, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ตรวจสอบระยะห่างจากรถคันหน้าด้วยเรดาร์ที่ติดตั้งบนกลาง
กระจกบังลมหน้า, ระบบไฟเบรกฉุกเฉิน,

เทคโนโลยีระบบการขับเคลื่อนก็อัดแน่นซะจนรถรุ่นใหญ่กว่าอายม้วน ได้แก่ ระบบ ENE-CHARGE ระบบแปลงพลังงาน
จลน์จากการเบรคและจะเก็บพลังงานเข้าแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนขนาดเล็ก ผนวกกับการทำงานระบบ eco COOL ที่จะนำ
ไฟฟ้าไปเลี้ยงเครื่องปรับอากาศขณะจอดดับเครื่องยนต์ชั่วคราว (idle stop)

Suzuki Hustler ติดตั้งเครื่องยนต์ R06A บล็อก 4 สูบ DOHC 12 วาล์ว 658 ซีซี หัวฉีด EPI 52 แรงม้า (PS) ที่ 6,000
รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 6.4 กก.-ม.ที่ 4,000 รอบ/นาที เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะและอัตโนมัติ CVT รุ่นขับเคลื่อนสองล้อหน้า
ประหยัดน้ำมันสูงสุด 29.2 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 เพียงแค่ 79 กรัมต่อกิโลเมตร รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ
ประหยัดน้ำมันสูงสุด 28 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 เพียงแค่ 88 กรัมต่อกิโลเมตร

ถ้าอยากแรงต้องเล่นเครื่อง R06A บล็อก 4 สูบ DOHC 12 วาล์ว 658 ซีซี หัวฉีด EPI เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ 64 แรงม้า
(PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 9.7 กก.-ม.ที่ 3,000 รอบ/นาที เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะและอัตโนมัติ CVT รุ่น
ขับเคลื่อนสองล้อหน้าประหยัดน้ำมันสูงสุด 26.8 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 เพียงแค่ 87 กรัมต่อกิโลเมตร รุ่น
ขับเคลื่อนสี่ล้อประหยัดน้ำมันสูงสุด 25 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 เพียงแค่ 93 กรัมต่อกิโลเมตร

Suzuki ตั้งเป้าขาย Hustler ในญี่ปุ่น 6,000 คันต่อเดือน พร้อมวางจำหน่ายในวันที่ 8 มกราคม 2014 ส่วนจะมีแผนที่จะ
ทำตลาดนอกญี่ปุ่นหรือไม่ คงตอบว่าหมดสิทธิ์

ที่มา : Suzuki