การแข่งขันตลาดรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาเป็นการแข่งขันรุนแรงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก รถยนต์รุ่นใดที่ไม่สามารถคว้ายอดขาย, ผลกำไรและช่วยสร้างแบรนด์ได้ เมื่อนั้นก็จำเป็นต้องยุติการทำตลาดอันเป็นวิถีทางสุดท้ายเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

สำนักข่าวรายวัน Nikkan Kogyo ตีพิมพ์แผนธุรกิจค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น 2 ค่ายว่า Subaru และ Mazda เตรียมยุติการผลิตรถยนต์บางรุ่นในสหรัฐอเมริกาเพราะไม่คุ้มค่าแก่การผลิตเลย

 

เริ่มจาก Subaru จำเป็นต้องยุติงานวิจัยและพัฒนาครอสโอเวอร์เอสยูวีขนาดเขื่อง Tribeca ตัวต่อไป พร้อมทั้งเตรียมหยุดการผลิต Tribeca โฉมปัจจุบันในเร็ว ๆ นี้อีกด้วย หากพิจารณายอดขายรถรุ่นนี้แล้ว Subaru อาจจะคิดถูกก็ได้เพราะมันมียอดจำหน่ายตลอดปี 2010 จนลากยาวมาถึงเดือนเมษายน 2011 มันมียอดเพียงแค่ 910 คันเท่านั้น !!!

แต่ยังไม่มีการยืนยันว่า Subaru เตรียมแผนพัฒนาเอสยูวีรุ่นใหม่เพื่อมาทดแทน Tribeca หรือเจาะตลาดกลุ่มใหม่อย่างไร

อีกค่ายหนึ่งที่ดูเหมือนจะมีปัญหานั่นก็คือ Mazda อาจจะยุติการผลิตรุ่น 6 ซีดานระดับ D-Segment ทรงสปอร์ต แต่ Mazda ลงทุนดัดแปลงจากเวอร์ชันตลาดโลกทั้งขนาดตัวถังและดีไซน์บางส่วนเพื่อเอาใจลูกค้าชาวอเมริกันโดยเฉพาะ ดังนั้นต้นทุนการผลิตของรถรุ่นนี้จึงสูงตามไปด้วย

Mazda คาดหวังยอดขาย 6 เวอร์ชันอเมริกันปีละ 1 แสนคัน แต่ยอดขายของปีล่าสุดกลับทำได้แค่เพียง 45,168 คัน ซึ่งอาจจะเป็นผลกระทบการเปิดตัวในช่วง Hamburger Crisis ทำให้กระแสตอบรับเบื้องต้นไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็นและส่งผลกระทบต่อการทำตลาดตลอดช่วงอายุทำตลาดด้วย

ทั้งนี้โฆษก Mazda อเมริกาเหนือยังยืนยันว่า 6 ซีดานจะต้องผลิตในสหรัฐอเมริกาต่อไป แต่ขอไม่บอกกล่าวถึงความคืบหน้าของรถรุ่นใหม่

แหล่งข่าวจาก Automotive News เสริมทัพว่า Mazda อาจกำลังมองหาแหล่งผลิตต้นทุนต่ำอย่างประเทศเม็กซิโกแทนสหรัฐอเมริกาด้วย แต่ไม่ได้ระบุว่าจะเตรียมย้ายฐานการผลิตรถรุ่นใดกันแน่