เทรนด์ค่ายรถยนต์สำหรับคนรุ่นใหม่นอกจากจะเล็งเห็นการขยายตัวของตลาดรถไฟฟ้าแล้ว ยังเล็งเห็นอนาคตของยานพานะส่วนบุคคลสำหรับการเดินทางในเมื่อตัวคนเดียวไม่เกี่ยวกับใครมากขึ้น บางค่ายรถยนต์มักตั้งชื่อยานพาหนะเสียโก้เก๋ไปในแนว Urban Community Car ทิศทางเดียวกัน ราวกับว่าอาศัยการตลาดช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มของรถยนต์ขนาดจิ๋วเหล่านี้ ทั้ง ๆ ที่มันก็คือรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่นั่งได้แค่สองคนดี ๆ นั่นเอง

ค่ายรถยนต์ทั้งหลายต่างพากันทำนายทิศทางตลาดยานพาหนะส่วนบุคคลเพื่อการใช้ภายในเมืองโดยไม่ต้องอาศัยรถยนต์นั่งที่มีความยาว 3 เมตรขึ้นไปน่าจะมีการขยายตัวทีละน้อย เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคในเมืองใหญ่มักใช้ชีวิตอยู่เป็นครอบครัวเล็กมากขึ้น อีกทั้งในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่วางแผนระบบขนส่งมวลชนในระดับที่ดีมาก จึงไม่จำเป็นต้องซื้อรถยนต์ขนาดใหญ่มาใช้งานให้สิ้นเปลืองเงินอย่างใด

แต่ใช่ว่าระบบขนส่งมวลชนจะรุกคืบเข้าทุกพื้นที่ภายในเมืองได้ทั่วถึง หากคิดตามหลักความจริงแล้วล่ะก็ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีรถไฟฟ้าหรือรถใต้ดินวิ่งผ่านหน้าบ้านทุกคนได้ เมื่อคิดอีกมุมหนึ่งนี่คือช่องว่างที่ผู้ผลิตรถยนต์สรรหายานพาหนะเพื่อตอบสนองการเดินทางระยะสั้นแค่หน้าบ้านไปยังระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่

Smart ก็ถือเป็นค่ายรถยนต์ที่เน้นทำตลาดรถยนต์ทรงป้อมจิ๋วความยาวไม่เกิน 3 เมตรก่อนใครเพื่อน เพียงแต่ไม่ได้โหมตลาดว่ามันเป็น Community Car อย่างที่บางค่ายชอบประโคมแถมยังไม่ใช่รถราคาประหยัดเจาะกลุ่มมวลชนเสียเท่าไรนัก ในเมื่อ Smart ก็ยังคงผลิตรุ่น ForTwo แล้ว หากจะเริ่มหาไลน์สินค้าตัวใหม่ตอบโจทย์ลูกค้าในเมืองได้ก็น่าจะดีไม่น้อย แต่มีข้อแม้ต้องพัฒนายานพาหนะรูปแบบใหม่ที่ไม่ซ้ำกับ ForTwo เท่านั้น

Smart จึงเริ่มคิดค้นยานพาหนะชนิดอื่นที่สามารถขับเคลื่อนในเมืองใหญ่ ๆ อย่างคล่องแคล่วได้ แต่ขืนจะพัฒนารถยนต์ขนาดจิ๋ว 1 ที่นั่งเห็นทีจะไม่คุ้มทุนและคุ้มอรรถประโยชน์ใช้สอยเมื่อเทียบกับมูลค่าที่จ่ายไป Smart จึงจำเป็นต้องหายานพาหนะรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน

Smart จึงจำใจยอมเลือกยานพาหนะรูปแบบรถจักรยานยนต์สองล้อแบบสกูตเตอร์ไฟฟ้าหรือบ้านเรามักเรียกรถประเภทนี้ว่าออโตเมติกนั่นเอง โปรดอย่าคิดว่า Smart เตรียมจะกระโจนตลาดแย่งส่วนแบ่งตลาดจากค่ายรถจักรยานยนต์ชั้นนำนะครับ Smart เลือกพัฒนาสกูตเตอร์ไฟฟ้าให้เป็นส่วนหนึ่งของยานพาหนะในโครงการ Community Vehicle

Dr. Annette Winkler หัวหน้าประจำแบรนด์ Brand เปิดเผยว่า พวกเขาสำรวจความต้องการยานพาหนะสำหรับการใช้ชีวิตในเมืองอย่างรอบคอบมาก่อนแล้ว ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองอยากได้ยานพาหนะที่คล่องแคล่ว, ปลอดภัย, กว้างขวาง,  จอดง่าย, ขับสนุก พวกเขาจึงคิดต่อไปได้อีกว่าหากนำคุณสมบัติดังกล่าวมาร่วมไว้เป็นยานพาหนะคันเดียวกันแถมยังเป็นรถไฟฟ้าปลอดมลพิษภายใต้โครงการ “ vision smart” ไปในตัวด้วยก็จะดีไม่น้อย คิดไปคิดมาจึงได้ Smart escooter ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการข้างต้นได้หมดจด (แต่เราแอบสงสัยว่า คุณสมบัติกว้างขวางมันไม่น่าจะเป็นคุณสมบัติของรถจักรยานยนต์เท่าไรนัก)

หน้าตาของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Smart escooter ก็ดูธรรมดา ๆ ไม่แตกต่างจากรถจักรยานยนต์ที่ขายโดยทั่วไป มีแค่เพียงดีไซน์ดูล้ำสมัยตามแบบฉบับรถต้นแบบเท่านั้นเอง Smart ยืนยันว่า escooter มิใช่รถจักรยานยนต์แบบออโตเมติกธรรมดา ๆ ที่พวกเราเห็นทั่วไป เพราะเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีความคล่องแคล่ว มีความสนุกในการขับขี่ รักษาสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการวางตำแหน่งการตลาด Smart escooter ก็ไม่ใช่เจาะตลาดรถจักรยานยนต์ทั่วไปเลย มันถูกยกระดับให้เป็นยานพาหนะระดับ Urban Mobility เคลื่อนย้ายบุคลจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งในระยะทางสั้น ๆ

โครงสร้างเฟรม Smart escooter ได้ไอเดียจากโครงสร้างตัวถังรถยนต์ Smart Fortwo คือออกแบบโครงสร้างให้แข็งแกร่งภายใต้ตัวถังกะทัดรัดเพียงพอต่อการโดยสาร 2 คน น้ำหนักเบาด้วยวัสดุโลหะและอลูมิเนียมผสมกัน ปลอดภัยด้วยไฟเรืองแสงบริเวณที่พักเท้า ล้ำสมัยด้วยโคมไฟ LED รอบคัน

ขุมพลัง Smart escooter มาในรูปแบบมอเตอร์ไฟฟ้ารูปทรงคล้ายจานดิสก์เบรคติดตั้งบริเวณแกนล้อหลังส่งกำลัง 4 กิโลวัตต์ หรือ 5.3 แรงม้า (HP) ผ่านล้อหลังโดยตรง ฉีกแนวมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับรถจักรยานยนต์แบบเดิม ๆ ลงไป

ประสิทธิภาพ Smart escooter เหมาะสมกับสภาพการจราจรที่ติดขัดแน่นอน ทั้งคล่องตัว มีแรงฉุกกระชากลากถูในเมืองได้ดี แต่ความเร็วสูงสุดคงต้องทำใจเสียหน่อยเพราะมันสามารถไต่ความเร็วเต็มที่แค่ 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้ว่าเราจะไม่สามารถนำพา Smart escooter ไปซิ่งได้แต่มันก็มีระยะทางวิ่งสุงสุดถึง 100 กิโลเมตร ไม่แพ้รถไฟฟ้าขนาดเขื่องเลยแม้แต่น้อย แถมยังใช้เวลาชาร์จประจุให้เต็มเพียงแค่ 3-5 ชั่วโมงโดยใช้ไฟบ้านเท่านั้น

ขึ้นชื่อว่าเป็นยานพาหนะขนาดเล็กก็ยิ่งต้องใส่ใจความปลอดภัยมากเป็นพิเศษ ยิ่งยานพาหนะที่มาในลักษณะรถจักรยานยนต์ Smart ก็ต้องเข้มงวดกับมาตรฐานความปลอดภัยยิ่งขึ้นเข้าอีกขั้น เราต้องอย่าลืมว่า Smart escooter ก็ยังถือเป็นรถจักรยานยนต์ “เนื้อหุ้มเหล็ก” อยู่วันยังค่ำ

Smart จึงจัดการพัฒนาอุปกรณ์ความปลอดภัยเต็มพิกัดให้กับเข้า escooter ดังต่อไปนี้ ระบบเบรค ABS สำหรับรถจักรยานยนต์แบบสองล้อ , ติดตั้งถุงลมนิรภัยบริเวณเรือนมือบิด ถือว่าล้ำหน้าใช้ได้เลย และระบบช่วยชี้จุดบอดขณะขับขี่ ซึ่งกระจกมองหลังก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เราทราบว่ามีวัตถุใด ๆ ใกล้ตัวเราอยู่ โดยเฉพาะการเปลี่ยนเลนส์กะทันหันกระจกมองหลังก็ไม่สามารถส่องได้ทั่วถึง

จุดเด่นอีกประการหนึ่งของ Smart escooter ก็คือสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนบางรุ่นได้ด้วย เพียงแค่นำสมาร์ทโฟนมาวางบนแท่นพิเศษก็สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นพิเศษสำหรับ Smart escooter ได้หลายอย่างตั้งแต่ GPS, การแสดงประจุแบตเตอรี่ เป็นต้น

Smart escooter จะเตรียมอวดโฉมในงาน Paris Motorshow 2010 นี้ครับ