เดือนเมษายนที่ผ่านมา มีข่าวที่ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้น เกี่ยวกับ Spyshot รถทดสอบของ Porsche
ที่กำลังวิ่งทดสอบอยู่ภายในสนาม Nurburgring ซึ่งลือกันว่านั่นคือ 911 GT2 ตัวใหม่ในรหัส
997 Mk.II สาเหตุที่มันทำให้ผมตื่นเต้นเสียขนาดนั้นก็เป็นเพราะก่อนหน้านี่ผมปลงเสียแล้วว่า
Porsche คงจะไม่ทำเวอร์ชั่น GT2 ออกมาอีกแล้วกระมั้ง เพราะจากโมเดล GT3 RS มาแล้ว
ก็ควรจะเป็นคิวของ GT2 สิ แต่เวลาก็ล่วงเลยไปนานมากจนผมนั้นถอดใจ
จนกระทั่ง เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนๆ ก็มีภาพหลุดจากการประชุมดีลเลอร์ของ Porsche
หลุดออกมาอีกครั้ง แต่ก็มีเพียงแค่รูปภาพเท่านั้น ยังไม่ได้มีรายละเอียดอะไรที่ชัดเจนมากนัก
แล้วในที่สุด ก็ถึงเวลาเปิดตัวกันอย่างเป็นทางการ กับตัวจริงเสียงจริง Porsche 911 GT2 RS
กลับมาทวงชื่อตัวโหดของตระกูล 911 อีกครั้ง แต่มาคราวนี้มาพร้อมกับความพิเศษกันในนาม
เวอร์ชั่น RS (Rennsport) ที่พกพาความแรงเพิ่มจาก GT2 รุ่นเดิมถึง 90 แรงม้า ขึ้นมาเป็น 620 แรงม้า
ชนิดที่ผมเองก็ไม่ได้คิดว่าจะมากขนาดนี้ กับน้ำหนักตัวที่เบาลงอีกกว่า 70 กิโลกรัม เหลือเพียงแค่
1,370 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้มีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักอยู่ที่ 2.21 กก./แรงม้า
ตัวเครื่องยนต์นั้นน่าแปลกใจมาก ทั้งๆที่เวอร์ชั่น 911 Turbo ล่าสุดนั้นเปลี่ยนมาใช้ บล็อคความจุ
3.8 ลิตร แต่ 911 GT2 ยังคงยึดเครื่องยนต์บ๊อกเซอร์ 6 สูบ บล๊อกความจุ 3.6 ลิตร ไว้เช่นเดิม
พ่วงเทอร์โบชาร์จเจอร์ แปรผันได้ สองตัว แต่กลับรีดแรงม้าออกมาได้สูงถึง 620 แรงม้า (PS)
ที่ 6500 รอบต่อนาที กับแรงบิดที่สูงถึง 700 นิวตันเมตร ที่มาในแนว Flat torque มีให้ใช้ต่อเนื่อง
กันตั้งแต่ 2,250-5,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่เปลี่ยนมาใช้ฟลายวีล
แบบ Single Mass Flywheel เพื่อให้รอบเครื่องสามารถตอบสนองได้ฉับไว อัตราทดเกียร์ถูกปรับปรุง
ให้ทด ชิดกันมากขึ้น ชุดคันเกียร์ Short Shift ช่วยลดระยะการเข้าเกียร์ให้กระชับมากขึ้น โดยจะไม่มี
เกียร์คลัตท์คู่ PDK ให้เลือกใช้แต่อย่างใด แล้วก็ลืมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ของ 911 Turbo ไปได้เลย
เพราะแรงม้า และแรงบิด มหาศาลทั้งหมดจะถ่ายทอดกำลังลงสู่ล้อคู่หลังเท่านั้น ทั้งหมดนี้ส่งผลให้
911 GT2 RS สามารถทะยานจากจุดหยุดนิ่งสู่ความเร็ว 100 ก.ม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.5 วินาที
ส่วนความเร็วสูงสุดเคลมไว้ที่กว่า 330 ก.ม./ชม. (เทียบชั้นได้กับรุ่นพี่อย่าง Carrera GT เลยนะนั่น)
ระบบช่วงล่างหน้าแม๊คเฟอร์สันสตรัท หลังอิสระ Multi-link โครงสร้างทำขึ้นมาด้วยวัสดุน้ำหนักเบา
อย่างอลูมิเนียม ซึ่งออกแบบให้สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ ทั้งความสูง มุมแคมเบอร์และมุมโท
ได้อย่างอิสระ นี่ยังรวมไปถึงค่าความแข็ง-อ่อนของเหล็กกันโคลงอีกด้วย ช่วงล่างปรับความหนืดได้
อย่าง Porsche Active Suspension Management (PASM)ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตราฐาน
มีให้เลือกปรับได้ทั้งโหมด Normal และ Sport ระบบควบคุมการทรงตัว (Stability Control) และ
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ( Traction Control) สามารถเลือกปิดได้ทั้งคู่ สำหรับผู้ต้องการสำผัสความดิบ
อย่างแท้จริง ระบบเบรคนั้นเลือกใช้จานเบรคคาร์บอน-เซรามิค Porsche Ceramic Composite Brakes (PCCB)
แบบเจาะรูระบายความร้อน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและทนความร้อนสูง ป้องกันอาการเบรคเฟดได้อย่างดี
พร้อมคาลิเปอร์อลูมิเนียมสีเหลืองเด่น น้ำหนักเบาเป็นอุปกรณ์มาตราฐานเช่นเดียวกัน
ดีไซน์ภายนอกของ GT2 RS นั้นโดยรวมยังคล้ายคลึงกับ GT2 ตัวเดิมอยู่บ้าง แต่สิ่งที่ทำให้ดูโดดเด่นกว่าเดิม
นั่นคือการเปลี่ยนมาใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ในส่วนของฝากระโปรงหน้า และกระจกมองข้าง ช่องดักอากาศ
บริเวณซุ้มล้อหลัง สปอยเลอร์หลัง แล้วถ้าสังเกตุกันดีๆ จะเห็นว่าบริเวณซุ้มล้อหน้า ถูกตีโป่งขยายออกมาเล็กน้อย
เพื่อรับกับล้ออัลลอยลาย 5 ก้านคู่ ที่อาจจะคุ้นเคยกันดีจากตัว GT3 RS ขนาด 19 นิ้ว ที่มากับระบบ Center Locking
ซึ่งจะมีจุดยึดดุมล้ออยู่ตรงกลาง สวมกับยางหน้าขนาด 245/35 ZR19 และยางหลังขนาด 325/30 ZR19 พร้อมกับ
ตราประจำตัว GT2 RS บริเวณชายล่างประตูทั้งสองข้างเพื่อยืนยันถึงความเป็นที่สุดของตระกูล 911
ภายในนั้นเน้นตกแต่งด้วยวัสดุที่นิยมนำมาใช้ตกแต่งภายในรถสปอร์ทอย่างหนังกลับ Alcantara สีแดงสลับกับ
หนังแท้สีดำ ไล่กันตั้งแต่ผ้าหุ้มหลังคาสีแดง พวงมาลัยตกแต่งทูโทนสีดำแดง โดยมีแถบสีเหลืองบริเวณกึ่งกลาง
ตำแหน่ง 12 นาฬิกา หัวเกียร์ก็ตกแต่งทูโทนดำ-แดงเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ส่วนที่จะได้รับการสำผัสกับบริเวณต่างๆ
กับตัวคนขับก็จะใช้สีแดงเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นสายเข็มขัดนิรภัย ด้ามจับเบรคมือ ช่องเก็บของคอนโซลกลาง
ที่ท้าวแขนข้างประตู สายดึงเปิดประตู หรือตัวเบาะบักเก็ตซีทหลังแข็งน้ำหนักเบา ก็ใช้สีทูโทนดำแดงเช่นเดียวกัน
แต่ถ้าใครไม่โปรดกับสีแดงก็ไม่ต้องห่วงครับเพราะ Porsche นั้นยังมีสีดำให้เป็นอีกทางเลือกนึงครับ ส่วนของ
ด้านหลังเบาะจะติดตั้ง Roll Cage ช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับตัวถัง ติดตั้งมาให้พร้อมเสร็จสรรพ
Porsche เคาะราคาขายเจ้า GT2 RS ในอังกฤษเบ็ดเสร็จไว้ที่ 164,107 ปอนด์ มีสีตัวถังให้เลือก 4 สี คือ แดง,เงิน,
ขาวและดำ พร้อมกับล้ออัลลอยอีก 3 สี คือสีทอง,เงินและดำ นอกจากนี้ ยังมีออพชัน ที่ชวนให้เสียเงินเพิ่ม
อีกมากมายหลายรายการ อย่างเช่น แบตเตอร์รี่ลิเทียม-ไอออนน้ำหนักเบา หรือ Clubsport Package ซึ่งติดตั้ง
ชุดเข็มขัดนิรภัย 6 จุด ถังดับเพลง สวิตช์ตัดไฟฉุกเฉิน พร้อมสำหรับลงแข่งในสนาม หรือว่าจะสั่ง Full Rollcage
รอบคันเพิ่มจากแผนก Motorsport ของ Porsche ก็ย่อมได้ ตัวจริงของ GT2 RS จะเผยโฉมสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรก
ที่งาน Moscow Auto Show ช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ผลิตจำนวนจำกัดเพียงแค่ 500 คันเท่านั้น
ผมดีใจกับการกลับมาของเจ้าน้องสุดท้องตัวแสบของตระกูล 911 ซึ่งมาคราวนี้มากับความสามารถที่เก่งพอๆกับ
พี่ใหญ่ Carrera GT แทบจะทุกด้านไม่ว่าจะไม่ว่าจะด้านอัตราเร่ง 0-100 ที่พอๆกัน Topspeed ที่สูสี แรงม้า
ที่มากกว่า น้ำหนักตัวก็เบากว่า แต่ว่าประสิทธิภาพมันต้องพิสูจน์ได้ กับผลการวิ่งจับเวลาต่อรอบในสนาม Nurburgring
ที่ 7:18 นาที เร็วกว่าเจ้า Carrera GT ที่เคยทำไว้ที่ 7:28.71 นาที และแน่นอนครับบอกลา Nissan GT-R ,
Chevrolet Corvette C6 ZR1 หรือ Dodge Viper ACR ไปได้เลย แล้วต่อจากนี้ไป ก็คงจะถึงคิวของ 911 รหัสใหม่เสียที
(รึเปล่านะ)
————————————————————///——————————————————–