กรุงเทพฯ. ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดงานเปิดตัว
Panamera S E-Hybrid ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา พานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด ใหม่ล่าสุดคันนี้ ถือได้ว่าเป็นรถไฮบริดระดับหรูที่เปี่ยม
ไปด้วยประสิทธิภาพ มาพร้อมพละกำลังเครื่องยนต์ 416 แรงม้า ไม่เพียงเท่านี้ปอร์เช่ยังพิถีพิถันในเรื่องการออกแบบให้กับพานาเมร่าใหม่คันนี้มีรูปลักษณ์ที่เปี่ยมไปด้วยความเป็นสปอร์ต
และมีเส้นสายที่โฉบเฉี่ยว ดังนั้น Panamera S E-Hybrid ใหม่ล่าสุดจึงได้กลายมาเป็นรถที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพและสปอร์ตอย่างเต็มพิกัด
พร้อมความสะดวกสบายและหรูหราอย่างเหลือล้ำ

ซึ่งในวันนี้ เอเอเอสฯ พร้อมแล้วที่จะนำท่านสัมผัสกับอีกหนึ่งสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์จากปอร์เช่ ที่สรรสร้างและรวบรวมเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำมาสู่  Panamera S E-Hybrid คันนี้ได้อย่าง
ใกล้ชิด และเมื่อซื้อรถยนต์ ปอร์เช่ พานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด (Panamera S E-Hybrid) ใหม่จากทางเอเอเอสฯ รับข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับการรับประกันจากโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนี
นาน 9 ปี (Terms & Condition Apply)

พานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด (Panamera S E-Hybrid) คือระบบเครื่องยนต์แบบ Parallel Full Hybrid ที่ได้รับการพัฒนา ให้มีความล้ำสมัย มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง
เพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ โดยสามารถให้พลังงานกับเครื่องยนต์มากยิ่งขึ้น การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวทำได้ถึง 95 แรงม้า (70 กิโลวัตต์) ซึ่งถือได้ว่ามากกว่ารุ่นเดิมกว่าเท่าตัว
(รุ่นเดิมทำได้ที่ 47 แรงม้า) พลังงานนั้นได้รับจากแบตเตอรี่แบบ Li-ion ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ และมีกำลังถึง 9.4 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ซึ่งมากกว่าแบตเตอรี่แบบ Ni-MH ที่ใช้อยู่ในรุ่นเดิม
ซึ่งทำได้ที่ 1.7 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงอีกด้วย ไม่เพียงเท่านี้แบตเตอรี่ยังสามารถชาร์จไฟผ่านเครื่องมือชาร์จ Porsche Universal Charger (AC) ที่ได้มาตรฐานในเวลาเพียงแค่ 2 ชั่วโมงครึ่ง เท่านั้น

นอกจากนี้ Porsche Panamera S E-Hybrid ยังเลือกใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติทริปทรอนิค เอส (Tiptronic S) 8 จังหวะ ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพการทำงานของฟังก์ชั่น Start/Stop
โดยระบบจะทำการปิดการทำงานของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้นเมื่อเข้าสู่โหมด Coasting ซึ่งทำให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากขึ้น พร้อมระบบแบบขับเคลื่อนล้อหลัง เพื่อส่งเสริมการวิ่งทะยาน
ไปข้างหน้าที่โดดเด่นอย่างไร้ขีดจำกัด เสริมทัพฟังก์ชั่นมากมายเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้ได้มากที่สุด อีกทั้งยังสามารถเปิดการใช้งานได้โดยผ่าน App ของสมาร์ทโฟน
อาทิเช่น ตัวบ่งบอกถึงสถานะแบตเตอรี่ที่ได้รับการชาร์จ หรืออุปกรณ์เสริมการควบคุมอุณหภูมิ (climate control option) พร้อมระบบไฟหน้าแบบ LED

รูปลักษณ์ภายนอกใหม่สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ไฟหน้าได้รับการเปลี่ยนแปลงให้มีความโดดเด่นมากขึ้น ทั้งตัวไฟไล่ยาวไปถึงกระจกด้านหน้า หากมองจากด้านหลังจะพบว่า
Panamera เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดนี้ได้ รับการออกแบบฝาท้ายด้านหลังใหม่หมด กระจกหลังออกแบบให้เห็นเส้นสายความคมเข้มตามแบบฉบับ Gran Turismo ให้ความเป็นสปอร์ตมากขึ้น
ทางตอนหลังได้รับการออกแบบใหม่หมดรวมถึงสปอยเลอร์ที่ ขยายกว้างขึ้นและเชื่อมต่อกับไฟท้ายได้อย่างกลมกลืน

Porsche Panamera S E-Hybrid พร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว ผ่าน AAS Auto Service ด้วยป้ายราคา 9.6 ล้านบาท