เมื่อเราลองพิจารณาแผนระยะสั้น, ระยะกลางและกลยุทธ์ของ Nissan ตั้งแต่ปี 1999 เป็นต้นมามักจะเน้นความสำเร็จด้านผลกำไรและยอดขายเป็นหลักตามแล้วแต่สถานการณ์และปัญหาที่จะต้องเร่งสะสางให้จบไป แล้วค่อยแก้ปัญหาที่ใหญ่กว่าตามลำดับ
วันนี้ ( 27 มิถุนายน 2011) Nissan ก็แถลงแผนธุรกิจระยะกลางใหม่ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2011 จนถึงปี 2016 เรียกว่า Nissan Power 88 มีผลบังคับใช้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
Nissan Power 88 เน้นให้องค์กรมีเป้าหมายหลักมุ่งไปสู่การสร้างประสบการณ์ใหม่ของลูกค้าโดยรวมที่มีผลต่อพลังของแบรนด์และพลังยอดขาย จนทำให้ปีงบประมาณ 2016 บรรลุส่วนแบ่งการตลาดในระดับโลก 8% (จากปีที่แล้ว 5.8%) และเพิ่มผลกำไรขององค์กรอย่างยั่งยืน 8%
วิสัยทัศน์หลักในแผน Nissan Power 88 มี 4 ประการหลัก ได้แก่
-เตรียมขยายตลาดอย่างต่อเนื่องด้วยการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ 1 รุ่นต่อ 6 สัปดาห์ภายใน 6 ปีนี้ Nissan จะมีรถจำนวนมากถึง 66 รุ่นและครอบคลุมความต้องการลูกค้าบนโลกใบนี้ถึง 92%
-มุ่งสู่ยานยนต์ยั่งยืนอันได้แก่รถยนต์ปลอดมลพิษและเทคโนโลยีลดมลภาวะ Pure Drive โดยคาดหวังให้รถไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ Nissan และ Renault มียอดขายแตะ 1.5 ล้านคัน
– Nissan จะขยายตลาดกลุ่ม “ยานยนต์สำหรับทุกคน” ในรูปแบบรถยนต์นั่งและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์แบรนด์ใหม่พัฒนาเพื่อจับกลุ่ม Entry Level และตลาดเกิดใหม่
-เตรียมแนะนำเทคโนโลยีใหม่ถึง 90 เทคโนโลยีภายใน 6 ปีนี้ หรือเฉลี่ยปีละ 15 เทคโนโลยี
Mr. Carlos Ghosn กล่าวเพิ่มเติมว่า “แผน Nissan Power 88 เป็นแผนเดินทางไปสู่ผลกำไรที่เติบโตขึ้น เราจะเร่งการเติบโตด้วยการส่งนวตกรรมและสินค้าใหม่อันน่าตื่นเต้นและบริการที่ใสสะอาด, รถยนต์ที่ซื้อหาได้สำหรับทุกคนบนโลกใบนี้, การมุ่งมั่นท้าทายต่อพลังงานและสิ่งแวดล้อมในยุคทศวรรษที่ 21 นี้”
ในด้านการเสริมสร้างประสบการณ์แบรนด์ Nissan จะลงทุนขยายจุดขายทั่วโลกมากถึง 7,500 จุด มากกว่าปัจจุบันที่มีเครือข่าย 6,000 จุด
นอกจากนี้ก็ยังมุ่งมั่นกลยุทธ์ธุรกิจรถยนต์ระดับหรูและรถเพื่อการพาณิชย์อยู่ไม่เสื่อมคลายเช่นกัน และในปี 2012 Nissan คาดหวังยอดขายรถยนต์ในจีนแตะระดับ 1.2 ล้านคัน พร้อมคาดหวังเพิ่มยอดขายในตลาดเกิดใหม่อย่างรัสเซีย, อินเดียและบราซิล โดยในบราซิลจะสร้างโรงงานผลิตใหม่ที่มีกำลังการผลิตสูงสุด 2 แสนคันต่อปี
Nissan จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2016 เมื่อ Nissan ได้รับสัมปทาน Taxi Of Tomorrow ในกรุงนิวยอร์ค
ส่วนรถยนระดับหรูแบรนด์ Infiniti น่าจะมียอดขายเติบโตขึ้นอีก 10% โดยจะวางจำหน่าย 70 ประเทศด้วยสินค้า 10 รุ่น