หากพูดถึงกรุงลอนดอน ในประเทศอังกฤษบางคนจะต้องนึกถึงรถแท็กซี่ลอนดอนมาด้วยแน่นอน เพราะมันเป็น
ยานพาหนะที่ครองใจชาวลอนดอนในยามที่ต้องเดินทางในช่วงเวลาเร่งรีบ อีกทั้งรูปลักษณ์รูปทรงที่ดูสะดุดสายตาด้วย
ดีไซน์ในแบบรถย้อนยุคที่เน้นเนื้อที่ห้องโดยสารเป็นอย่างมาก ส่วนเรื่องความคล่องตัวหรือความสปอร์ตในการขับขี่นั้น
ไม่ใช่จุดเด่นของแท็กซี่แน่นอน ส่วนชื่อเรียกนั้นชาวลอนดอนจะเรียกรถคันนี้ว่าเป็น London Taxi หรือ Black Cab หรือ
Black Taxi ก็ได้
ในปี 2012 London Hackney Carriage ผู้ดำเนินกิจการ London Taxi ที่ได้รับสัมปทานโดยตรงกับสำนักงานขนส่ง
สาธารณะ ประเทศอังกฤษได้เปิดให้บริษัทเข้าร่วมประมูล London Taxi เจเนเรชั่นใหม่เพื่อแทนที่ Mann & Overton
LTI รถแท็กซี่รุ่นปัจจุบัน
ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้พัฒนาและผลิต London Taxi ยุคใหม่ก็คือ Nissan Motors ซึ่งก็สอดคล้องกับแผนธุรกิจใหม่ที่จะ
ผลักดันรถกลุ่มเพื่อการพาณิชย์ให้มีการเติบโตเป็นอย่างมากพอดี Nissan จะนำรถ NV200 และ e-NV200 มาโมดิฟายด์
รถรอบคันให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ London Taxi โดยผู้ที่รับผิดชอบด้านการออกแบบคือ Nissan Design Europe
(NDE) ซึ่งเคยถูกรับผิดชอบให้ออกแบบ Qashqai และ Juke
ความจริง Nissan ก็เคยแฝงร่างใน London Taxi มาก่อนแล้ว!! เพราะ Nissan ได้ส่งเครื่องยนต์ดีเซล TD27 2.7 ลิตรมา
ประจำการในแท็กซี่ Austin FX4 Fairway และ LTi TX1 มาแล้ว
Nissan NV200 London Taxi จะถูกออกแบบด้านหน้าให้มาในสไตล์ย้อนยุค ด้วยไฟหน้าทรงกลมใช้หลอด LED เพื่อให้
ผู้โดยสารได้โบกรถง่ายขึ้น (เพราะมองเห็นชัดนั่นเอง), ดีไซน์กระจังหน้าและกันชนหน้าใหม่ ส่วน e-NV200 London Taxi
จะออกแบบลายกระจังหน้าที่ล้ำสมัยขึ้น
Nissan NV200 London Taxi จะเริ่มโลดแล่นในกรุงลอนดอนตั้งแต่เดือนธันวาคม 2014 เป็นต้นไป โดยใช้เครื่องยนต์
เบนซิน 1.6 ลิตร เกียร์อัตโนมัติที่ยืนยันว่ามีค่าไอเสียสะอาดกว่าแท็กซี่รุ่นเก่าแน่นอน ส่วนแท็กซี่ไฟฟ้า e-NV200 London
Taxi จะเริ่มโลดแล่นได้ในปี 2015 และยังรองรับแผนโครงการแท็กซี่ไฟฟ้าได้ในปี 2020 ได้อีกด้วย
ที่มา : Worldcarfans