กระแสความนิยมทั้ง Nissan March รถเล็ก imported จากประเทศไทยและ Nissan Elgrand รถตู้อเนกประสงค์ขนาดยักษ์ต่อกรกับ Toyota Alphard/Vellfire นับวันเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ ตามวันเวลา และที่สำคัญมันดันประสบความสำเร็จเกินกว่าที่ Nissan ตั้งเป้าหมายไว้มากมาย
นับตั้งแต่ Nissan เปิดตัว March ซับคอมแพคท์ขนาดเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรในวันที่ 13 กรกฎาคม 2010 จนถึงวันที่ 1 กันยายน หรือประมาณภายใน 1 เดือนครึ่งมียอดจองรวมทั้งสิ้น 20,011 คัน เกินกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งเพียงแค่ 4,000 คันต่อเดือนมากถึง 5 เท่า
สาเหตุที่คนญี่ปุ่นนิยม March เจเนเรชั่นที่ 4 อย่างเกินความคาดหมายก็เพราะตัวรถตรงใจคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มากกว่ารุ่นที่แล้วเน้นเอาใจกลุ่มลูกค้าผู้หญิงมากกว่า, ราคาจำหน่ายที่ถือว่า “มีความคุ้มค่าที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงราคาเดียวกัน”
ยกตัวอย่างราคาเริ่มต้น Nissan March 1.2 ลิตรรุ่นล่าง 999,600 เยน เมื่อเปรียบเทียบราคานี้กับคู่แข่งด้วยกัน ลูกค้าก็จะได้แค่เครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร เท่านั้น และยิ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งเครื่องยนต์ 1.3 ลิตรด้วยแล้วล่ะก็ Nissan March มีราคาถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัดแถมยังอัดออพชั่นมาให้เยอะกว่ามาก ประกอบกับชื่อของ March อยู่ในความทรงจำของคนญี่ปุ่นอยู่แล้ว ถึงแม้ว่า March เจเนเรชั่นนี้จะประกอบที่เมืองไทยที่คนญี่ปุ่นหลายคนปรามาสไว้ก็ตาม
รุ่นที่ได้รับความนิยมเรียงจากมากไปหาน้อยที่สุด ได้แก่รุ่น 12X ออพชั่นปานกลาง 71%, รุ่น 12G รุ่นท๊อปสุด 19% และรุ่น 12S รุ่นล่างสุด 10%
สีที่ได้รับความนิยมจากมากสุดไปหาน้อยสุด ได้แก่ สีเทามาตรฐาน 26%, สีม่วงเข้ม 21%, สีม่วงอ่อน 16%, สีขาว 10%, สีเขียวอ่อน 9%, สีดำเข้ม 9%, สีแดง 4%, สีฟ้าน้ำเงิน 4% และสีทองแชมเปญ 4% น่าแปลกใจว่าสีโปรโมตเขียวอ่อนอันเป็นสียอดนิยมในไทยกลับได้รับความนิยมน้อยกว่าที่คาด คงเป็นเพราะว่ากลุ่มเป้าหมายของ March ในญี่ปุ่นเริ่มกระจายตัวมากขึ้นทั้งเพศและวัยมากกว่ารุ่นที่แล้วเน้นจับกลุ่มลูกค้าผู้หญิงคนรุ่นใหม่แต่ท่าเดียว
ส่วนรถยนต์ยอดนิยมอีกรุ่นหนึ่งคือ Nissan Elgrand ก็กวาดยอดจองมากถึง 10,111 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวรับจองในวันที่ 4 สิงหาคม 2010 (วางจำหน่ายจริง 18 สิงหาคม 2010) จนถึงวันที่ 1 กันยายน 2010 มากกว่าเป้าหมาย 1,900 คันต่อเดือนมากถึง 5 เท่า
รุ่นที่ได้รับความนิยมได้แก่ 250 HighwayStar 45%, 350 HighwayStar 20%, 350 HighwayStar Premium 18% และรุ่นย่อยอื่น 17%
สีที่ได้รับความนิยมจากมากสุดไปหาน้อยสุดได้แก่ สีดำ 45%, สีขาวมุก 38%, สีม่วง 9% และสีเทา 7%