หลังจากเคยนำเสนอข่าวความคืบหน้าของกิจกรรมขนสื่อมวลชนทดลองขับ Nissan Juke ในอินโดนีเซียเมื่อช่วงกลางเดือนที่แล้วพร้อมนำเสนอข้อมูลและราคาคร่าว ๆ ของมันกันไปแล้ว ล่าสุด Nissan Motor Indonesia ก็เปิดตัว Nissan Juke อย่างเป็นทางการเสียทีในวันที่ 1 มิถุนายน 2011
Nissan Juke เวอร์ชันอินโดนีเซียจะติดตั้งเครื่องยนต์ HR15DE เวอร์ชันปรับปรุงใหม่ติดตั้งหัวฉีดคู่พร้อมระบบวาล์วแปรผัน Twin CVTC ทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 15.29 กิโลกรัมเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์ Xtronic CVT ลูกใหม่ลูกเดียวกับ Nissan March และ All New Nissan Tiida ส่วนระบบขับเคลื่อนจะมีแต่ 2 ล้อหน้าเท่านั้น
ขนาดมิติตัวถังภายนอกไม่แตกต่างจากตลาดยุโรปเลยด้วยความยาว 4,135 มม. ความกว้าง 1,765 มม. และความสูง 1,565 มม. ความยาวฐานล้อ 2,530 มม. ล้ออัลลอยด์ 17 นิ้วพร้อมยางขนาด 215/55R17 แบ่งออกเป็นรุ่นย่อยสองรุ่นคือ 1.5 CVT และ 1.5 CVT RX
Nissan Juke เวอร์ชันอินโดนีเซียทุกรุ่นจะติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานเหมือนกัน ได้แก่ ระบบควบคุมแอร์อัตโนมัติอัจฉริยะพร้อมโหมดการขับขี่ i-con 3 โหมด ได้แก่ โหมดประหยัด, สปอร์ต และธรรมดาพร้อมจอแสดงผลสี, เครื่องเสียง 2 DIN รองรับ USB port, CD/MP3 ที่สำคัญยังติดตั้งระบบ Wi-Fi และ Bluetooth ไว้ในรถด้วย
ระบบความปลอดภัยอื่น ๆ ก็มาตรฐานทั่วไปทั้ง ได้แก่ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรค ABS+EBD+BA, ไฟตัดหมอกหน้า
รุ่น 1.5 CVT RX จะติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม ได้แก่ ชุดปลอกท่อไอเสียสวยเก๋, ไฟหน้า Xenon ปรับระดับอัตโนมัติ, เซนเซอร์ช่วยจอดรถ, ระบบกุญแจอัจฉริยะพร้อมปุ่มกดติดเครื่องยนต์ สามารถควบคุมกระจกไฟฟ้าผ่านรีโมตได้
ราคาจำหน่าย Nissan Juke เวอร์ชันอินโดนีเซียรุ่น 1.5 CVT อยู่ที่ 238,800.000 รูเปี๊ยะหรือ 847,000 บาท และรุ่น 1.5 CVT RX 248,800.000 หรือ 883,000 บาท
กลุ่มเป้าหมายของ Nissan Juke คือรถรุ่นใหม่หรือผู้บริหารไฟแรงที่อยู่ในระหว่างอายุ 25-35 ปี ตั้งเป้าจำหน่าย 1 ปีเต็มอยู่ที่ 10,000 คันหรือเฉลี่ยเดือนละ 1,000 คันมากกว่ายอดจำหน่าย Nissan X-trail เท่าตัว หลายคนคงจะสงสัยว่ารถที่ฉีกแนวขนาดนี้จะขายในอินโดนีเซียได้ไหม? Mr. Takayuki Kimura ประธาน Nissan Motor Indonesia บอกข่าวกับสื่อว่ามียอดจองก่อนงานเปิดตัวเกือบ 1 เดือนอยู่ที่ 1,000 คัน
สำหรับเมืองไทยคงต้องรอลุ้นการเคาะราคาบวกค่าขนส่งและอาจจะไม่ได้รับสิทธิ์ละเว้นภาษีอาเซียน 0% เพราะไม่มีชิ้นส่วนในท้องถิ่นถึง 40% เลย