มันก็ไม่น่าแปลกใจมากนักที่ผู้ผลิตรถยนต์หลาย ๆ ค่ายเลือกที่จะเป็นรถยนต์ระดับ World Premier ที่งาน Beijing
Autoshow 2014 กันหมด เพราะนอกเหนือจากค่ายรถสามารถเปิดตลาดในจีนได้แล้ว มันยังเป็นเวทีการกระจายข่าว
ระดับโลกแทนที่งาน New York Autoshow 2014 แน่นอน คงเป็นเพราะว่าในงานที่จีนมันเป็นเวทีใหญ่มหาศาลกว่างาน
ที่สหรัฐอเมริกาเสียอีก ก็ลองคิดเล่น ๆ ว่าในงานมีผู้ผลิตรถยนต์จำนวน 80 ค่ายมาอวดโฉมกันขนาดนั้น เวทีจะไม่ใหญ่ได้
อย่างไร

NY14logo

แต่ใช่ว่าความสำคัญของงาน New York Autoshow 2014 จะถูกหมดความสำคัญลงไป เพราะอย่าลืมว่าตลาดรถยนต์
สหรัฐอเมริกาก็เป็นตลาดใหญ่มากลำดับต้น ๆ ของโลกเช่นกัน ดังนั้นค่ายรถทั้งหลายจึงขอเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่มี
ความสำคัญต่อตลาดสหรัฐอเมริกามากที่สุดไว้ในงานนี้ หลาย ๆ รุ่นก็ถือว่าเน้นขายในอเมริกาจริง และบางรุ่นก็จะเป็นรถ
รุ่นระดับโลกอีกด้วย

ถ้าจะให้นิยามว่า New York Autoshow 2014 ใกล้จะแปลงสภาพเป็นงานโชว์รถระดับ Local ก็เริ่มใกล้เคียงกับความ
จริงเข้าไปทุกวัน

Acura

พอเราเยี่ยมเยียนบูธนี้เป็นบูธแรกก็ทำให้เราเกิดต่อ “เอ๊ะ” สงสัยแล้วว่า ถ้าในเมื่อ Acura เปิดตัว TLX ซีดานกลางใหญ่
ที่มาแทนที่ TL แล้ว ก็แสดงว่าอนาคตของ Honda Accord Euro ก็ดูไม่ค่อยชัดเจนเสียเท่าไรนัก แล้วเมื่อไปสืบข่าวจาก
จีนก็พบว่ารถต้นแบบที่จะมาแทน Honda Spirior นั้นก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ Accord Euro โฉมใหม่ด้วย ก็ยิ่งน่าคิดว่าจริง
ๆ ว่า Accord Euro รุ่นใหม่น่าจะเกิดยากยิ่งกว่าผีสามหลุดเสียอีก

acura1 acura2

เราก็ได้แต่เก็บความงำความสงสัยเอาไว้ แล้วหันมาดู Acura TLX กันบ้างดีกว่า ดูไปดูมามันก็ไม่แตกต่างจากรถต้นแบบ
โปรโตไทป์ที่เพิ่งอวดโฉมไปไม่นานนัก เมื่อดูข้อมูลล่าสุดก็พบว่า Acura TLX เกิดมาเพื่อแทนที่รุ่น TL และ TSX ไปในตัว
ดังนั้น Acura TLX จึงต้องพยายามสร้างบุคลิกใหม่ให้คล่องตัวกว่า TL ด้วยตัวถังที่สั้นกว่า TL ราว 3.8 นิ้ว แต่ยังคงระยะ
ฐานล้อและห้องโดยสารภายในเอาไว้ มีน้ำหนักเบากว่าเดิมเพราะใช้โลหะทนต่อการบิดตัวสูงเพิ่มขึ้น

มีการใส่เอกลักษณ์ใหม่ของ Acura ยุคนี้คือดวงตา Jewel Eye หรือเรียกว่าตาปิ๊งประกายเหมือนเพิ่งดื่มวีต้าเบอรี่ ทำให้
ชวนนึกถึง Honda Accord ตาเพชรเบา ๆ

acura3

ไฮไลต์สำคัญคือเทคโนโลยีที่ติดมากับรถต่างหาก เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร ฉีดเชื้อเพลิงตรง i-VTEC 206
แรงม้า แรงบิด 246 นิวตันเมตรจับคู่เกียร์ Dual Clutch 8 จังหวะ , เครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร VCM ให้กำลัง 290 แรงม้า
แรงบิด 362 นิวตันเมตรจับคู่เกียร์อัตโนมัติ 9 เกียร์

เทคโนโลยีการขับขี่ก็สำคัญมากซึ่งมันมาพร้อมกับช่วงล่าง Precision All-Wheel Steer (P-AWS) ที่ให้ล้อหลังซ้ายและ
ขวามีการควบคุมมุมโทอิสระและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Handling All-Wheel Drive (SH-AWD)

Audi

audi1

audi2

Audi ส่งตัวแรง Audi exclusive RS 7 dynamic edition แค่ดูหน้าเราก็ไม่รู้ว่าจะระเบิดอารมณ์กันตอนไหนมิทราบ ก็พี่
แกเล่นทำหน้าดุดันประชดสังคมซะขนาดนั้น โดยรวมมันมาสไตล์ที่ผ่านการตกแต่งให้มีบุคลิกเฉพาะพิเศษตามโปรแกรม
Audi Exclusive มาพร้อมกับกำลังเครื่องที่แรง 560 แรงม้า และมีการปรับจูนช่วงล่างสไตล์ DRC

BMW

และแล้ว BMW ก็ได้ชิงเปิดตัว X4 ตัดหน้าคู่แข่งทุกรายจนได้ (แล้วแบบนี้จะมีใครคิดไล่ตาม BMW ทันในกลุ่มเอสยูวีกัน
บ้างไหม?) ก็ถือเป็นการกรุยทางให้กับตลาดครอสโอเวอร์คูเป้ที่มีบั้นท้ายลาดก่อนใคร ส่วนดีไซน์ก็จะเป็นการจับนำ BMW
X3 LCI มาเปลี่ยนครึ่งคันหลังให้เฟี้ยวฟ้าว

bmw1

BMW ออกแบบเส้นสายบนประตูหลังใหม่ โดยเน้นให้ซุ้มล้อคู่หลังเด่นชัดมากขึ้น พร้อมกับออกแบบโคมไฟท้ายใหม่จนดู
คล้ายคลึงกับรถยนต์คูเป้ ทั้ง 2- และ 4-Series ที่เพิ่งเปิดตัวไป และออกแบบครีบรีดอากาศบนกันชนหลังใหม่ โดยรวมแล้ว
BMW X4 จะมีมิติตัวถังยาวกว่า X3 อยู่ 14 มิลลิเมตร และเตี้ยกว่า 36 มิลลิเมตร

ส่วนห้องโดยสารเป็นการยกชุดแผงแดชบอร์ดมาจาก BMW X3 เต็มๆ แตกต่างด้วยการตกแต่งด้วยแผงอะลุมิเนียมสีเงิน
ด้านและสีดำเงาส่วนพื้นที่ด้านหลังยังคงออกแบบให้โดยสารได้ 3 ที่นั่งเช่นเดียวกับ BMW X3 และสามารถพับเบาะใน
อัตราส่วน 40:20:40 เช่นกันซึ่งเมื่อพับเบาะราบแล้วจะมีเนื้อที่บรรทุกเพิ่มขึ้นเป็น 1,400 ลิตร

ขุมพลังที่ใช้ใน BMW X4 ในระยะแรก จะมี 6 ขุมพลังให้ใช้กัน แบ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 3 รูปแบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล
4 สูบ พร้อมเทอร์โบ TwinPower ขนาด 2.0 ลิตร 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร, เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบเรียง
พร้อมเทอร์โบ TwinPower ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 560 นิวตัน-เมตร และอีกบล็อกหนึ่ง
เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบเรียง ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบ TwinPower เช่นกัน แต่ถูกปรับแรงม้าให้สูงขึ้นเป็น 313
แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 630 นิวตัน-เมตร

bmw2

ฟากเครื่องยนต์เบนซิน เน้นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบ TwinPower ให้กำลังได้สองระดับ
ได้แก่ 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร และ 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร และแรงกันมากขึ้นกับ
เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบ TwinPower ให้กำลัง 306 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-
เมตร

ชัดเจนเลยว่า BMW X4 อยากจะมาแย่งซีน Range Rover Evoque อย่างเต็มที่ ก็ลองทายกันสิว่า ถ้าเมื่อไรมันมา เราจะ
เห็นเศรษฐีไทยขับกันกี่คัน

Chevrolet

ในงานนี้มีการอวดโฉม Chevrolet Trax รถ B-SUV เล็กแบบมึนงงเล็กน้อย เพราะในอเมริกามันมีรถคู่แฝดในชื่อ Buick
Encore วางขายอยู่ ก็ไม่รู้ว่าจะทำตลาดมาทับไลน์กันทำไมก็ไม่แน่ใจ? แต่ที่แน่ ๆ Chevrolet ก็ได้อวดโฉม Chevrolet
Cruze Last Minorchange ปรับหน้าปรับตาให้เจ้าคอมแพคท์คันเก่งเป็นครั้งสุดท้าย (จริง ๆ นะ)

chevy1

Chevrolet Cruze Last Minorchange กปรับปรุงใบหน้าให้มาในสไตล์แข็งแกร่งและเหลี่ยมสันเหมือนกับ Impala
รุ่นปัจจุบัน ดังนั้นเส้นสายด้านหน้าจึงถูกขัดเกลาให้คมชัดเอามาก ๆ และที่สำคัญมันมาพร้อมกับกระจังหน้า Dual Port
รูปแบบใหม่ล่าสุดที่ช่องดักลมด้านบนจะถูกย่อส่วนให้ดูตีบตันขึ้น

ส่วนภายในห้องโดยสารก็มีการปรับปรุงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อาทิ ออกแบบช่องวางแก้วที่สามารถวางได้สะดวกขึ้น,
ปุ่มเปิดฝากระโปรงท้ายย้ายมาบริเวณคอนโซลกลาง, ปุ่มปลดล๊อกประตูย้ายจากคอนโซลกลางมายังประตู้หน้า เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานความปลอดภัยที่เหนือชั้นกว่าคู่แข่งด้วยถุงลมนิรภัยมากถึง 10 ใบ!! พร้อมกับ
ระบบเตือนจุดบอด, rear cross traffic alert, ระบบช่วยจอดถอยหลังและกล้องส่องถอยหลัง

chevy2

และเพื่อไม่ให้พลาดทุกการติดต่อในโลกโซเชี่ยล Chevrolet จึงมีระบบเตือนข้อความผ่าน Bluetooth Profile ที่สามารถ
ผ่านข้อความผ่านลำโพงได้และยังมี Siri Eyes Free สำหรับ iOS6 และ iOS7 นอกจากนี้ยังติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 7
นิ้ว ที่รองรับ Onstar 4g LTE

ความเป็นไปได้ที่บ้านเราจะเห็น Chevrolet Cruze Last Minorchange ก็น่ายังพอมีบ้าง

chevy3

Chevrolet Corvette Z06 Convertible ก็เปิดรับสายลมพลังแรงในงานนี้ด้วยเช่นกัน แต่มหัศจรรย์มากตรงที่ GM
พยายามทำน้ำหนักรุ่นเปิดหลังคาให้เท่ากับรุ่นคูเป้มาตรฐาน (ถ้าคิดแบบไม่ลึก ก็คงจะคิดว่าแค่ตัดหลังคาออก น้ำหนักรถ
ก็เบาแล้ว แต่หารู้ไม่ว่ารถเปิดหลังคานี่แหล่ะตัวดี เพราะผู้ผลิตต้องเสริมความแข็งแกร่งของตัวถังให้ทนต่อการบิด, ทน
กระแทกมากกว่าตัวถังปกติเสียอีก)

Ford

Ford Focus Minorchange ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวในบ้านเกิดเสียที แต่การเปิดคราวนี้ก็มาพร้อมกับการเผยโฉมตัวถังซีดานรุ่น
ปรับโฉมอีกด้วย

ford1

Ford Focus Sedan Minorchange จะยกใบหน้ามาจาก Focus Minorchange จากยุโรปแต่เปลี่ยนกระจังหน้าแถบ
โครเมี่ยมและแถบสีเงินบริเวณไฟตัดหมอกหน้าให้กลายเป็นแถบสีดำที่ดูดุดันขึ้นมาก เมื่อจับมันหันก้นไปด้านหลังก็พบว่า
Ford ได้ลงทุนเปลี่ยนโคมไฟท้ายให้มีความสูงของไฟน้อยลง (ลักษณะไปในทิศทางเดียวกับรุ่นแฮทช์แบค) ที่ออกแบบให้
ไฟท้ายดูเรียบร้อยขึ้นพร้อมกับการปั๊มลายฝากระโปรงท้ายที่ไปในทางในเรียบร้อยเหมือนผ้ายับ ๆ พับไว้

ford2

นอกเหนือจากมีการปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว Ford ก็ยังกล้าปรับปรุงคุณภาพการขับขี่จากที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไป
อีกด้วยการปรับปรุงวาล์วโช๊คอัพให้มีเสียงรบกวนน้อยลง, ระบบกันสะเทือนที่ปรับปรุงให้แนบแน่นกับพื้นถนนมากกว่านี้,
พวงมาลัยไฟฟ้าก็มีการจูนให้รู้สึกถึงความแม่นยำกับพื้นถนน

คาดว่าอีกไม่นานนักเราจะได้สัมผัส Ford Focus Minorchange ค่อนข้างแน่นอนครับ

Hyundai

นี่คือครั้งแรกที่ Hyundai จะต้องประกาศตัวว่าแบรนด์ Hyundai จะต้องจับกลุ่มลูกค้าผู้ใหญ่ที่เน้นความเรียบร้อยและ
เรียบง่ายในการใช้งานอย่างเต็มเปี่ยม แต่อย่าเพิ่งดูถูกว่า Hyundai ทำรถวัยผู้ใหญ่ก็จะต้องทำรถให้ดูแก่เหมือนกับรถ
ญี่ปุ่น Hyundai ก็พยายามนำสัดส่วนความงามสง่าปราดเปรียวมาใส่ในรถรุ่นใหม่ทุกรุ่น

hyundai1 hyundai2

All New Hyundai Sonata คือการพลิกแนวคิดใหม่ให้จับกลุ่มลูกค้าชอบความเรียบง่ายและสง่างาม แต่เชื่อหรือไม่ว่า
เส้นสายรอบคันนี้ได้สืบทอดมาจาก Sonata โฉมที่แล้วเพียงแต่ขัดเกลาให้มันดูเรียบร้อยเหมือนกุลสตรี และเห็นเรียบร้อย
แบบนี้ก็อย่านึกว่ามันจะพลิ้วเชียวนะ เพราะมันมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียงแค่ 0.27 เท่านั้น

เห็นเรียบ ๆ แบบนี้แล้วก็อย่าเพิ่งดูถูกกัน ไม่งั้นจะโดนพี่ Hyundai Sonata LF กัดเอา เพราะทีมวิศวกร Hyundai ได้นำ
พื้นตัวถัง Sonata รุ่นเก่ามาปรับปรุงให้เน้นการขับขี่ที่สปอร์ตขึ้นสวนทางกับเรือนร่างที่หรู นอกจากนี้ยังปรับปรุงโครงสร้าง
ตัวถังให้ทนต่อการบิดตัวขึ้น 41% และทนต่อแรงต้านขึ้น 35% นั่นเป็นเพราะเพิ่มเนื้อเหล็ก High-Tensile เป็นสัดส่วน
51%

hyundai3 hyundai4

Hyundai ก็มีการปรับปรุงช่วงล่างมัลติลิงค์ด้านหลังใหม่ให้มีการตอบสนองที่ดีขึ้น, การขับขี่มั่นคงขึ้นขณะเดียวกันก็ยังลด
ความแข็งกระด้างในการขับขี่ลง, แขนช่วงล่างแบบสองชั้นที่มาแทนที่แบบชั้นเดียวก็จะช่วยเพิ่มคุณภาพการขับขี่โดยไม่
สูญเสียคุณภาพการบังคับควบคุมและยังมีการปรับมุมเลขาคณิตในช่วงล่างหลังที่ช่วยทำให้ Sonata ใหม่มีความมั่นคง
มากขึ้นขณะกระแทกเบรกอย่างรุนแรงและยังช่วยร่นระยะเบรกให้สั้นลงอีกด้วย

เราไม่แน่ใจว่าผู้แทนจำหน่ายในไทยยังคิดจะกล้านำ All New Hyundai Sonata มาขายในไทยอีกหรือไม่ เพราะรุ่นก่อน
มียอดขายที่งามไส้เอามาก ๆ เห็นทีต้องคิดหนักกันไม่น้อยเลย

Infiniti

Infiniti ก็ได้เผยโฉม Infiniti Q70 Minorchange หรือตลาดญี่ปุ่นเรียก Nissan Fuga (จะเรียกฟูก้าคา ยาถ่ายพยาธิก็
ไม่สงวนลิขสิทธิ์แต่อย่างใด) อย่างเป็นทางการในงาน New York Autoshow 2014 ซึ่งก็เรียนกันตามตรงว่ามันมีการ
ปรับโฉมบางอย่างเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่ปรับเล็ก ๆ แบบนี้ก็ช่วยทำให้มันดูเป็นรถ Infiniti มากขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

infiniti3

Infiniti Q70 Minorchange ได้มีการปรับกระจังหน้าใหม่ให้มาในแนวทางเดียวกับ Q50 คือกระจังหน้าที่มีทรงอ่อน
ชม้อยชม้ายชายตาพร้อมกับเปลี่ยนกันชนหน้าใหม่ให้เข้าชุดกัน ด้านท้ายก็เปลี่ยนรายละเอียดไฟท้ายมาเป็น LED และ
เปลี่ยนกันชนท้ายที่ดุดันขึ้นเล็กน้อย

infiniti4

ขุมพลัง Infiniti Q70 Minorchange มีให้เลือกตั้งแต่เครื่องยนต์เบนซิน V6 3.7 ลิตร 330 แรงม้าที่ 7,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 366 นิวตันเมตรที่ 5,200 รอบต่อนาที, เครื่องยนต์ V8 5.6 ลิตร ฉีดเชื้อเพลิงตรง DIG ให้กำลัง 420 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 565 นิวตันเมตรในรุ่นฐานล้อปกติ ส่วนรุ่นฐานล้อยาวก็จะแรงแค่ 416 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 561 นิวตันเมตร

ส่วนรุ่น Hybrid ก็จะติดตั้งเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร 302 แรงม้าที่ 6,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่
5,000 รอบต่อนาที พ่วงกับมอเตอร์ไฟฟ้า 67 แรงม้า แรงบิด 290 นิวตันเมตร

infiniti1 infiniti2

ส่วนอีกรุ่นที่มีการปรับปรุงก็คือ Infiniti QX80 เอสยูวีใหญ่ที่มีขอใช้ไฟหน้าแบบ LED ปรับปรุงกระจังหน้าให้รู้สึกถึงความ
เป็น Infiniti และปรับบั้นท้ายใหม่ พร้อมกันนี้ Infiniti ยังภูมิใจนำเสนอเกรด High-End Limited ที่มีสีตัวถังภายนอก
เฉพาะกิจ 3 สีให้เลือก, ล้ออัลลอย 22 นิ้ว, ไฟหน้าท้ายรมดำ, ภายในตกแต่งด้วยเบาะหนังสีดำ ประดับด้วยพลาสติกสีเงิน
ลายไม้และรวมไปถึงการตกแต่งรอบคันที่ดูพิเศษกว่าเดิม

Kia

Kia ทำรถรุ่นไหนไม่สวยบ้าง? ถ้าพูดตรง ๆ กันยังไม่มีมีแต่จะสวยมากหรือสวยน้อยก็เท่านั้นเองแม้กระทั่งรถตู้ All New
Kia Sedona ก็ยังสวยหล่อตามสไตล์อเมริกันที่ชอบรถตู้ทื่อ ๆ เหมือนตู้ปลา จุดเด่นของการออกแบบอยู่ที่ความพยายามที่
จะทำให้สัดส่วนตัวรถดูกว้างจนดูคล้าย ๆ กับรถพวก CUV นอกจากนี้ยังพยายามที่จะยืดฐานล้อจากเดิมอีก 1.6 นิ้วเพื่อให้
มันชิดมุมสุดตัวถังมากที่สุด, ใบหน้าดูล่ำและใสสะอาด, เส้นสายด้านมีมัดกล้ามแบบเรียบ ๆ และเพิ่มความน่าสนใจด้วย
การยกเส้นขอบกระจกให้กระดกขึ้นเล็กน้อยตามกระแสการออกแบบรถตู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา

kia1 kia2

แม้ภายนอกจะสวยขึ้นขนาดนี้ แต่ Kia ก็ยังแคร์ความกว้างของห้องโดยสารอยู่เหมือนเคย แถมยังจัดสรรปันส่วนให้มีเนื้อที่
ภายในห้องโดยสารนั่งสบายขึ้น ด้วยเนื้อที่หัวไหล่ด้านหน้าที่กว้างขึ้น, พื้นที่วางขามากขึ้นในทุกที่นั่ง ยังมีการยกตำแหน่ง
จุดรองรับสะโพกให้สูงขึ้นเพื่อทำให้มองเห็นทัศนวิสัยที่ปลอดโปร่งขึ้น

การออกแบบแผงภายในจะมาในแนวนอน, เน้นการใช้วัสดุระดับพรีเมี่ยม, สะดวกสบายด้วยที่นั่งแถวที่ 2 Slide-n-Stow
เมื่อดึงก้านผลักและเลื่อนไปด้านหน้าเพื่อการเข้า-ออกห้องโดยสารตอนหลังที่สะดวกสบายมากขึ้นและเมื่อต้องการขนของ
จำนวนมาก ๆ ก็มีฟีเจอร์ on-the-go ที่ช่วยลดเนื้อที่ตัวเบาะด้วยการปรับฐานเบาะให้ตั้งชันขึ้น

kia3 kia4

ฟีเจอร์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ดูเหมือนไม่ยิ่งใหญ่แต่ก็มีความสำคัญกับรถครอบครัวอย่างมากนั่นก็คือ เบาะผ้า YES Essentials ที่
มีคุณสมบัติป้องกันเชื้อโรคจุลินทรีย์, ป้องกันไฟฟ้าสถิต, ป้องกันน้ำป้องกันคราบ เป็นต้น

Land Rover

แนวคิดใหม่ของ Land Rover ยุคใหม่คือการยุบรวมรถเอสยูวีประเภท Leisure หรือรถที่เน้นการสันทนาการมากกว่าจะ
เน้นภาพลักษณ์ถึกลุยให้ไปอยู่ในตระกูล Discovery อันเป็นชื่อที่แข็งแกร่งมากที่สุดเท่าที่ Land Rover เคยทำกันมา และ
แน่นอนว่าจะจับยุบรวม Freelander ให้เข้าไปอยู่ในกลุ่ม Discovery Family อีกด้วยเพราะถือว่าเป็นรถในกลุ่ม Leisure
ด้วยเหมือนกัน ทำให้ทิศทางของแบรนด์ดูชัดเจนมากกว่าที่เคยเป็น

lr1 lr2

การเปิดเผยรถต้นแบบ Land Rover Discovery Vision Concept ก็คือการบอกทิศทางการออกแบบของ Discovery
Family แต่ทว่าถ้าเป็นคันนี้ก็น่าจะแปลงร่างเป็น Discovery รุ่นที่ 4 เสียมากกว่าเมื่อดูจากสารร่างโดยรวม โดยรวมมี
รูปลักษณ์สปอร์ตขึ้น ทะมัดทะแมงมากขึ้น แต่ก็ลดช่วงความสูงหลังคาตอนหลังไปอย่างน่าเสียดายซึ่งเราก็ต้องดูกันต่อไป
ว่า Discovery รุ่นที่ 4 จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร

lr3

นอกเหนือการอวดโฉมความเป็นไปได้ในการออกแบบตัวถังแล้ว Land Rover ยังกล้าขนเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาติดตั้งในรถ
คันนี้และน่าจะมีความเป็นไปได้ว่าเทคโนโลยีล้ำ ๆ บางอย่างเหล่านี้คงต้องนำไปติดตั้งใน Discovery Family ค่อนข้าง
แน่นอน ได้แก่ หน้าจอ HMI ที่รองรับ Smartglass, สามารถสั่งให้ขับรถเองความเร็วต่ำด้วยรีโมตคอนโทรล และกล้องส่อง
ด้านหน้าเพื่อสะท้อนภาพทับฝากระโปรงหน้าจนได้เป็นภาพ See-Through

ถ้ารถต้นแบบโผล่มาขนาดนี้ก็น่าเชื่อว่า All New Land Rover Family ทั้งหลายคงจะต้องเปิดตัวแน่ภายใน 1 ปีข้างหน้า

Mini

แม้ว่าจะเปิดตัว MINI Hatchback รุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่หมดจด ด้วยตัวถัง F56 ไปแล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่า
MINI ยังคงต้องเดินหน้าปรับโฉม MINI Countryman ตัวถังยกสูงของ MINI บนพื้นฐาน R56 เจเนอเรชั่นที่แล้วไปก่อน
เพื่อเพิ่มความสดใหม่ ตามความต้องการตลาดที่ยังนิยมตัวถังนี้อยู่ ก่อนจะเปลี่ยนโฉมทั้งคันในอีก 2 ปีข้างหน้า

MINI Countryman รุ่นปรับโฉมนี้ ถูกเปิดตัวเพื่อนำไปโชว์ในงานแสดงรถยนต์ New York Auto Show 2014
ที่กำลังจะจัดขึ้นเร็วๆนี้ โดย MINI ให้ความสำคัญกับตัวถัง Countryman เพราะสามารถทำหน้าที่รถยนต์ครอสโอเวอร์
ระดับพรีเมี่ยมได้อย่างประสบความสำเร็จมากเลยทีเดียว

mini mini2

ความโดดเด่นของการปรับโฉม ล้วนอยู่ที่รูปลักษณ์ภายนอกล้วนๆ เพราะมีการออกแบบกระจังหน้าใหม่ให้มีช่องดัก
อากาศรูปทรงเมล็ดข้าว ติดตั้งไฟกลางวันแบบ LED พร้อมเพิ่มไฟตัดหมอกแบบ LED ใหม่ นอกจากนี้ยังออกแบบ
ชุดล้ออัลลอยลายใหม่ทั้งหมด ส่วนในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ All4 จะติดตั้งแผ่นกันรอยใต้ท้องรถรอบคัน และยังมี
สีตัวถังใหม่ให้เลือกกันถึง 3 สี ได้แก่ สีเขียว Jungle Metallic, สีเทา Midnight Metallic และสีฟ้า Starlight Metallic

ภายในห้องโดยสาร ไม่ได้รับความเปลี่ยนแปลงมากนัก มีเพียงการตกแต่งคันเกียร์ เพิ่มขอบโครเมี่ยม และมีการ
ปรับปรุงคอนโซลกลางเล็กน้อย อีกทั้งยังมีการเพิ่มวัสดุซับเสียงภายในห้องโดยสารอีกด้วย

mini3

ส่วนขุมพลังนั้น ความเปลี่ยนแปลงมีเฉพาะในรุ่น Countryman Cooper S ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ
พร้อมเทอร์โบแบบ Twin Scroll ที่ถูกรีดแรงม้าเพิ่มขึ้นเป็น 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร
ช่วยร่นระยะเวลาการทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.เหลือเพียง 7.5 วินาทีเท่านั้น

MINI Countryman รุ่นปรับโฉม จะถูกออกจำหน่ายในเยอรมนีเป็นแห่งแรกในเดือนกรกฏาคมนี้ ส่วนในประเทศไทย
คาดว่าจะได้เห็นกันในช่วงปลายปี

Nissan

ปีนี้สร้างความฮือฮาด้วย All New Nissan Murano ที่ถอดร่างงานออกแบบมาจากรถต้นแบบ Resonance Concept
กันเลยทีเดียวซึ่ง Murano ใหม่จะยังคงรักษาคุณสมบัติที่ดีของรุ่นเดิมเอาไว้หลายจุด ในขณะเดียวกันก็ยังมี “Wow
Factor” ที่ก้าวกระโดดไปอีก (แต่บางคนก็บอกไม่ว้าวแถมไม่ชอบ นั่นก็อย่าแปลกใจเพราะ Nissan ต้องการให้คนชอบ
หรือรักเลยสัก 60% ดีกว่าให้ 100% บอกว่าแค่ OK)

แนวคิดการออกแบบหลักแรกฟอร์มตัวรถที่ดูเบาคล่องตัวซึ่ง Shiro Nakamura : ดำรงตำแหน่ง Senior Vice President
และ Chief Creative Officer เปิดเผยว่า พวกเขาตั้งใจจะยกระดับประสบการณ์ใหม่ที่พบไม่เจอจากเอสยูวีทั่ว ๆ ไป โดย
ได้แรงบันดาลใจจากหลักการแอโรไดนามิคระดับแนวหน้า และหลักการออกแบบ 3 ประการอันเป็น Design Language
แบบใหม่ล่าสุด ได้แก่ ด้านหน้า V-Motion, ทรงโคมไฟหน้าบูมเมอแรงและ Floating Roof

nissan1

แนวคิดการออกแบบยังคงลักษณะความเป็นยานยนต์ล้ำสมัยที่สร้างแรงดึงดูดด้วยการออกแบบให้ดูโปร่งเบา
สบายด้วยแนวกระจกและแนวเส้นที่ลื่นไหล แนวกรอบกระจกหลังประตูท้ายยังคงคล้ายกับรุ่นแรกแต่มีส่วนต่อขยาย
ออกไปด้วยแผ่นสีดำที่ทำให้ไม่เห็นเสา D ทำให้ตัวรถดูเบาคล่องตัวและเป็นที่น่าจดจำเมื่อมองจากระยะไกล

ไฟหน้าและไฟท้ายบูมเมอแรงที่ได้รับอิทธิพลมาจาก Nissan 370Z ซึ่งมีรูปร่างเพรียวและมีแนวการออกแบบที่เป็นไปใน
ทิศทางเดียวกับลม ไฟหน้าติดตั้ง DRL แบบ LED อันเป็นเอกลักษณ์ที่มองก็รู้เลยว่าคือ Murano โฉมใหม่

จุดเด่นของ Nissan Murano โฉมใหม่ก็คือพื้นตัวถังที่มีเส้นสายประติมากรรมบนพื้นผิวโลหะ ด้วยการเน้นซุ้มโป่งล้อหลัง
ให้เด่นชัด และมีสัดส่วนตัวถังที่เตี้ยลง, กว้างขึ้นและยาวขึ้นเล็กน้อย, เด่นด้วยแผงกันกระแทกด้านล่างขนาดใหญ่ที่มีทั้งแอ
โร่ไดนามิคและกันกระแทกได้จริง

นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่เน้นการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ได้แก่ กระจังหน้าเปิด/ปิดได้, ขอบโป่ง
ล้อ, รายละเอียดกันชนท้าย, บังโคลนล้อหลังและสปอยเลอร์ท้ายใหม่ ทั้งหมดก็จะช่วยให้ Nissan Murano โฉมใหม่มี
ความลื่นไหลมากกว่าเดิมถึง 16% เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม จึงทำให้มีค่า CD ต่ำแค่เพียง 0.31 เท่านั้น

nissan2

ภายใน All New Nissan Murano ยังคงมีความเป็นพรีเมี่ยม, หรูหรา และยังเก็บข้อดีของ Murano สองเจเนเรชั่นแรก
เอาไว้ ได้แก่ แผงคอนโซลหน้าที่ติดในตำแหน่งที่ต่ำและเน้นการใช้งานภายในที่สะดวกสบายและใช้งานง่าย ความล้ำสมัย
ของภายนอกส่งต่อสู่ภายในห้องโดยสารทันทีที่เปิดประตูก็ได้เห็นการจัดแสงไฟที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย, ให้ความรู้สึก
สะดวกสบายด้วยวัสดุพรีเมี่ยม

บรรยากาศภายในห้องโดยสารจะออกแนว Social Lounge ที่น่าเชิญชวนเข้าไปเยี่ยมชมและมีบรรยากาศที่สะดวกสบาย,
แผงอุปกรณ์ต่าง ๆ จะอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่า Murano รุ่นที่แล้ว, แผงคอนโซลและแผงคอนโซลกลางรูปปีกถูกออกแบบ
ในแนวคิด beauty with simplicity พร้อมทั้งลดปุ่มปรับเครื่องเสียงและระบบนำทางจาก 25 ปุ่มเหลือแค่เพียง 10 ปุ่ม
ทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น

ฟีเจอร์ภายในห้องโดยสารที่โดดเด่นก็ได้แก่ เบาะนั่งที่ได้แรงบันดาลใจจาก NASA พร้อมระบบปรับอุ่นเบาะหรือทำความ
เย็นในตัวเบาะ, หลังคาพาโนรามิคยาวขึ้น 40% และสามารถเปิดได้กว้างขึ้น 29%,

nissan3

ขุมพลังยังยืนยันที่เครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร 260 แรงม้า แรงบิด 325 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์ XtronicCVT ที่มีการปรับจูน
ให้ตอบสนองได้ไวขึ้นและนิ่มนวลขึ้น เห็นใช้เครื่องเดิม ๆ อย่างนี้แต่ใครจะนึกล่ะว่ามันจะสามารถประหยัดน้ำมันกว่ารุ่น
เดิมราว 20% นั่นเป็นเพราะ Nissan ได้หั่นน้ำหนักตัวทิ้งลง 58 กิโลกรัม

ระบบความปลอดภัยก็มีการติดตั้งกล้อง 4 จุด, เซนเซอร์ 3 จุดสำหรับป้อนข้อมูลให้แก่ระบบเตือนจุดบอด, ระบบเตือนการ
ชนแบบทำนายล่วงหน้า, ระบบไฟเบรกฉุกเฉินและระบบครูซคอนโทรลอัจฉริยะ และล่าสุดระบบ Cross Traffic Alert
(CTA) ที่ใช้เซนเซอร์คอยตรวจจับรถยนต์ที่ใกล้เข้ามาขณะถอยออกจากช่องจอด

All New Murano ลงทุนขึ้นสายการผลิตในโรงงานแคนตันและมิซซิซซิปปี้ สหรัฐอเมริกา และพร้อมทำตลาดภายในช่วง
ปลายปี 2014 นี้

สำหรับเมืองไทยคงหมดสิทธิ์ แต่ที่แน่ ๆ Design Language ใหม่ล่าสุดจะปรากฏลงในรถยนต์นั่ง Nissan รุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่นับจากวันนี้เป็นต้นไป

Subaru

บูธนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในไฮไลต์สำคัญของงานนี้เช่นกันเพราะเล่นเปิดตัว All New Subaru Outback เป็นที่แรกในโลกหรือ
มันคือ Subaru Legacy Wagon เวอร์ชันจับยกสูงให้ดูลุยเต็มพิกัด ดีไซน์ครึ่งคันหน้าเดาไม่ยากหรอกครับว่าต้องเอามา
จาก Subaru Legacy โฉมใหม่

subaru1 subaru2 subaru3

ดูรวม ๆ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้แตกต่างจากรุ่นเดิมเอามาก ๆ แต่ก็ยังพอสังเกตได้ว่าดีไซน์ด้านหน้าจะมีความเพรียวกว่ารุ่น
เดิมค่อนข้างมากน่าดู โดยรวม Subaru บอกว่ามันมีดีไซน์ที่กร้าวขึ้นกว่ารุ่นเดิมแน่นอน

ส่วนขุมพลังของ All New Subaru Outback ก็ชัดเจนเลยว่ายกมาจาก Subaru Legacy โฉมใหม่ ไล่ตั้งแต่ เครื่องยนต์
เบนซิน 4 สูบนอน 2.5 ลิตร 175 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 235 นิวตัน-เมตร หรือเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบนอน 3.6 ลิตร 256
แรงม้า แรงบิดสูงสุด 334 นิวตัน-เมตร มาให้เลือกใช้กัน

Toyota

นี่คือไฮไลต์สำคัญในงานที่น่าจับตาไม่แพ้กันเพราะนี่คือการแก้เกมครั้งสำคัญของ Toyota ที่ต้องออกแบบ Camry รุ่น
ปรับปรุงโฉมให้มีความสดใหม่และมีความสวยงามมีสไตล์ (ฝรั่งจะเรียกรวม ๆ ว่า Stylish) ให้สู้กับคู่แข่งชั้นนำที่ล้วนแต่
ออกแบบได้สวยงามกันทั้งนั้น นี่จึงเป็นที่มาของ Toyota Camry Big Minorchange ครั้งยิ่งใหญ่ที่ถึงขนาดต้องเปลี่ยน
เปลือกตัวถังใหม่เกือบหมดประมาณ 2,000 ชิ้น

toyota1

การออกแบบภายนอกก็จะเน้นความเร้าใจและล่ำสันมากขึ้น มีการเพิ่มเส้นสายตัวถังที่โดดเด่น มีการขยายความยาวตัวถัง
อีก 40 มิลลิเมตร เพิ่มความกว้างตัวถังอีก 10 มิลลิเมตร เพื่อให้มีสัดส่วนตัวถังที่ดูปราดเปรียว ที่สำคัญ Toyota มีการ
เพิ่มเส้นสายมัดกล้ามด้านข้างตั้งแต่ประตูหน้าจนไปถึงซุ้มโป่งล้อด้านหลังเพื่อให้ก่อความรู้สึกเร้าอารมณ์

ด้านหน้าได้ปฏิวัติการออกแบบใหม่ด้วยกันชนหน้าที่มีช่องดักลมสี่เหลี่ยมคางหมูแนวยาวที่ช่วยทำให้ตัวรถดูมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ

toyota2

ภายในห้องโดยสารก็มีความประณีตมากขึ้นด้วยวัสดุที่พรีเมี่ยมมากขึ้น, ให้ความรู้สึกกว้างขวางขึ้นและปรับปรุง
บรรยากาศภายใน, เปลี่ยนแปลงรายละเอียดคอนโซลให้มีความอ่อนละมุนขึ้น โดยเฉพาะคอนโซลกลางที่มีการ
เปลี่ยนแปลงดีไซน์ใหม่พร้อมติดตั้งแหล่งจ่ายกำลังไฟ 12V, USB และที่วางแท่นชาร์ตสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย

ความเงียบภายในห้องโดยสารก็ถือเป็นจุดขายสำคัญของ Toyota Camry Big Minorchange เพราะทีมวิศวกรได้
ให้ควมสำคัญกับการลดเสียงลมที่ไม่ต้องการและเสียงพื้นถนน ด้วยการเพิ่มซีลประตูและหน้าต่าง, พรมปูพื้นที่ช่วยซับ
เสียง 30%, กระจกมองข้างออกแบบใหม่ให้ลมผ่านอย่าลื่นไหลจนลดเสียงรบกวน ทำให้ Camry รุ่นนี้เป็น Camry ที่มี
ภายในห้องโดยสารเงียบที่สุดเท่าที่เคยทำมา

toyota3

Toyota Camry Big Minorchange ที่เห็นอยู่ในขณะนี้จะทำตลาดในอเมริกาเหนือเท่านั้น แต่สำหรับตลาดเอเชียจะ
ไม่ได้หน้าตาแบบนี้แน่นอน ส่วนจะมาแนวไหนนั้นต้องรอในปีหน้า

Volkswagen

Volkswagen ไม่มีอะไรมาโชว์ให้อลังการเท่าไรนักคงมีเพียงแค่ Volkswagen Jetta Facelift อุ๊ตะ นี่เปลี่ยนแล้วรึ? ลอง
ตั้งสติหายใจลึก ๆ ดูดี ๆ มันก็เปลี่ยนจริง ๆ นั่นแหล่ะ เริ่มจากไฟน้าที่มีการปรับปรุงรายละเอียดเล็กน้อยพร้อมทั้งเพิ่มไฟ
DRL แบบ LED, บานเกล็ดกระจังหน้าที่มีซี่ห่างกันหน่อย, กันชนหน้าที่มีรายละเอียดซับซ้อนขึ้นและเปลี่ยนรายละเอียดไฟ
ท้ายให้สวยล้ำสมัยขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับตัวรถหลายจุดให้ถูกต้องตามหลักอากาศพลศาสตร์ ก็เรียกว่าปรับปรุงในจุด
ที่เรามองไม่เห็นกันเลยนั่นเอง

vw1 vw2 vw3

นั่นเป็นเพราะว่างานดีไซน์ที่เปลี่ยนไปบางจุด นอกเหนือจากจะเป็นการอัพเดทเพื่อให้รู้สึกว่า “ใหม่” แล้วมันยังต้องคำนึงถึง
หลักอากาศพลศาสตร์อย่างมากอีกด้วย อย่างเช่น กันชนหน้าที่ลดแรงเสียดทานมากขึ้น เป็นต้น

————————————————————————————————-