ยานยนต์ยุคทศวรรษหน้าถ้าไม่มีรถพลังงานเก็บประจุจากแบตเตอรี่เห็นทีแข่งขันลำบากเสียหน่อยกับความต้องการของผู้ใช้ที่กังวลเรื่องค่าน้ำมันและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หลายค่ายก็สามารถผลิตได้ทันตามความต้องการแต่ผู้ผลิตบางค่ายไม่สามารถผลิตรถอนุรักษ์โลกได้ครบทุกความต้องการเพราะขาดแคลนเงินทุนพัฒนายิ่งบริษัทที่ขาดทุนมานานหรือเป็นผู้ตามนานมาก ๆ ทางเลือกเดียวคือการเสี่ยงเดินทางเลือกไปในกระแสใหม่
Mitsubishi ก็คือหนึ่งในบริษัทรถยนต์ที่ขาดทุนทรัพย์พัฒนารถไฮบริด,รถไฟฟ้า และรถที่แปลงพลังงานจากไฮโดรเจนหรือ Fuel Cell พร้อม ๆ กัน จึงต้องเลือกรถประเภทใดประเภทหนึ่งมาพัฒนาจนเป็นแกนหลักธุรกิจของตน สุดท้ายจึงเลือกรถไฟฟ้า
เหตุผลสำคัญที่ให้ความสำคัญรถไฮบริดน้อยคือต้นทุนการพัฒนาที่ไม่แตกต่างจากรถไฟฟ้า แม้กระแสไฮบริดปัจจุบันได้รับการตอบรับอย่างดี แต่ท้ายที่สุดอนาคตยุคแห่งรถไร้น้ำมันคือยุคหน้าอย่างแท้จริง ดังนั้นการทุ่มเทพัฒนารถพลังงานไฟฟ้ามีโอกาสสดใสมากกว่าและคุ้มที่จะพัฒนาต่อยอดในอนาคต
วันนี้เป็นวันประกาศแผนธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริงภายในปี 2020 หรือแผน Mitsubishi Motors Group Environmental Vision 2020 ระบุชัดเจนมากว่ารถไฟฟ้าคือรถยนต์สำหรับยุคใหม่อย่างแท้จริงตามแผนการณ์วางอนาคตให้แบรนด์ Mitsubishi ก้าวล้ำไปพร้อม ๆ กับ 3 หัวใจหลักดังต่อไปนี้
1.ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี
ผลักดันการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) สินค้าปัจจุบันและรุ่นใหม่ตั้งเป้าการพัฒนาไปสู่การลดใช้พลังงานด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ประหยัดเชื้อเพลิง รวมถึงการพัฒนารถให้เล็กและเบาลงเรื่อย ๆ
เป้าหมายสูงสุดภายในปี 2020 คือ
ต้องผลิตรถไฟฟ้าจำนวน 20% ของยอดผลิตรวม
ลดค่าไอเสีย CO2 ลง 50% เทียบกับปี 2005
2.กิจกรรมองค์กร
บริษัทตั้งพันธกิจสอดคล้องแผนธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมนี้เต็มที่ ตั้งแต่ฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์,การผลิต,งานขาย และงานบริการหลังการขายให้ทุ่มเทกับสินค้ารถไฟฟ้าในวงกว้าง ทบทวนกระบวนการทำงานในองค์กรว่ามีส่วนทำลายสิ่งแวดล้อมมากน้อยเพียงใด
เป้าหมายสูงสุดภายในปี 2020
ลดมลพิษ CO2 ที่เกิดจากกระบวนการผลิตลง 20% มากกว่ามาตรฐานปี 2005
3.มีส่วนร่วมกับผิดชอบสังคม
บริษัทร่วมมือกับลูกค้าและสังคมสร้างโครงสร้างสังคมรถไฟฟ้าขึ้น และให้ความรู้เกี่ยวกับผลดีของรถชนิดนี้นำไปแบ่งปันในชุมชน