สิ้นสุดการรอคอยเสียทีกับการเปิดตัว Mini Paceman ครอสโอเวอร์สายพันธุ์คูเป้ที่จะมาต่อกรกับ Range Rover
Evoque รุ่น 3 ประตูโดยเฉพาะ (ก็น่าแปลกใจว่ารถในกลุ่มนี้มีเพียงแค่รถ 2 แบรนด์นี้แข่งขันตามลำพัง) และดูเหมือน
Mini เองก็พยายามสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับ Paceman เพื่อสร้างความแตกต่างจาก Countryman ที่เป็นรุ่น 5 ประตู
ระดับหนึ่ง

alt

Mini ให้คำนิยาม Paceman ว่าเป็นรถแนว Sports Activity Coupe : SAC รถครอสโอเวอร์คูเป้ที่ให้ความรู้สึกแบบรถโกคาร์ท
เล็ก ๆ ถือเป็นรถยนต์ Mini ตัวถังลำดับที่ 7  ด้านหน้ามีดีไซน์คล้ายกับ Mini Countryman ทรงกันชนหน้าจะแลดูคล้าย
กับรถต้นแบบ Mini Paceman Concept พอสมควร

จุดเด่นด้านการออกแบบนอกเหนือจากความเป็นรถครอสโอเวอร์คูเป้ 3 ประตูแล้ว สิ่งที่แตกต่างจาก Mini Countryman
อย่างเห็นได้ชัดคือการออกแบบแนวหลังคาที่ลาดเทลงเพื่อเพิ่มความสปอร์ตและการออกแบบโครงตัวถังเหนือซุ้มหลังนูนโค้งราวกับกล้ามเนื้อมนุษย์
ส่วนดีไซน์บั้นท้ายแทบไม่แตกต่างจาก Mini Paceman Concept เลยแม้แต่น้อย (ยกเว้นแถบทับทิมสะท้อนแสงสีแดงมุมกันชนหลัง)

ดีไซน์ภายในห้องโดยสารก็เดาทางกันไม่ยากเลยว่ามันจะต้องยกชุดชิ้นส่วนภายในห้องโดยสารจาก Mini Countryman
มากกว่า 70% โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ฟีเจอร์ Central-Rail หรือรางเลื่อนตรงกลางห้องโดยสารอเนกประสงค์สามารถ
ติดตั้งกล่องเก็บของ, กล่องเก็บแว่นตา หรือช่องวางขวดน้ำบนรางนี้ได้ เบาะคู่หน้าจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าเบาะหลังเพื่อให้
เห็นพื้นถนนสะดวกขึ้น ห้องสัมภาระด้านหลังมีเนื้อที่มากถึง 330 ลิตรเมื่อพับเบาะแล้วจะขยายเนื้อที่ถึง 1,080 ลิตร

ขุมพลังมีให้เลือกดังต่อไปนี้ Mini Cooper Paceman  ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร 122 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อ
นาที แรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตรที่ 4,250 รอบต่อนาที มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 10.4 วินาทีใน
เกียร์ธรรมดา 11.5 วินาทีในเกียร์อัตโนมัติ ทำความเร็วสูงสุด 192 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในรุ่นเกียร์ธรรมดา 184 กิโลเมตรต่อ
ชั่วโมงในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตรฐานยุโรป 6.0 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรในรุ่นเกียร์
ธรรมดา 7.0 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ปล่อยค่าไอเสีย CO2 143 กรัมในรุ่นเกียร์ธรรมดา 166 กรัมในรุ่น
เกียร์อัตโนมัติ

Mini Cooper S Paceman จะเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบทวินสกรอลและเทคโนโลยี Valvetronic อัพกำลังเพิ่มขึ้นมาเป็น
184 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตรที่รอบระหว่าง 1,600 – 5,000 รอบต่อนาที หากยังไม่
สะใจก็มีฟังก์ชัน Overboost เพิ่มแรงบิดเป็น 260 นิวตันเมตรที่รอบระหว่าง 1,700-4,500 รอบต่อนาที มีอัตราเร่ง
0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 7.5 วินาทีในรุ่นเกียร์ธรรมดา 7.8 วินาทีในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ทำความเร็วสูงสุด 217
กิโลเมตรต่อชั่วโมงในรุ่นเกียร์ธรรมดา 212 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงตาม
มาตรฐานยุโรป 6.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรในรุ่นเกียร์ธรรมดา 7.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ปล่อยค่าไอ
เสีย CO2 เพียงแค่ 143 กรัมต่อกิโลเมตรในรุ่นเกียร์ธรรมดา 166 กรัมต่อกิโลเมตรในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ

Mini Cooper D Paceman ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร 112 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน
เมตรที่รอบระหว่าง 1,750-2,250 รอบต่อนาที มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 10.8 วินาทีในรุ่นเกียร์
ธรรมดา 11.2 วินาทีในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ทำความเร็วสูงสุด 187 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในรุ่นเกียร์ธรรมดา 182 กิโลเมตรต่อ
ชั่วโมงในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงตามมาตรฐานยุโรป 4.4  ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรในรุ่นเกียร์ธรรมดา
5.6  ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ปล่อยค่าไอเสีย CO2 เพียงแค่ 115 กรัมต่อกิโลเมตรในรุ่นเกียร์ธรรมดา
149 กรัมต่อกิโลเมตรในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ

Mini Cooper SD Paceman ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2.0  ลิตร 143 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 305 นิว
ตันเมตรที่รอบระหว่าง 1,750-2,700 รอบต่อนาที มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 9.2  วินาทีในรุ่นเกียร์
ธรรมดา 9.4 วินาทีในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ทำความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในรุ่นเกียร์ธรรมดา 197 กิโลเมตรต่อ
ชั่วโมงในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงตามมาตรฐานยุโรป 4.6  ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรในรุ่นเกียร์ธรรมดา
5.7  ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ปล่อยค่าไอเสีย CO2 เพียงแค่ 122 กรัมต่อกิโลเมตรในรุ่นเกียร์ธรรมดา
150 กรัมต่อกิโลเมตรในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ

ทุกรุ่นสามารถเลือกระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ALL4 เป็นออพชั่นเสริมพิเศษได้