ตลาดรถยนต์ระดับหรูก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกลุ่มรถยนต์ที่มีการแข่งขันดุเดือด ด้วยกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง พร้อมจะแลก
คุณภาพตัวรถที่สูงกับป้ายราคาที่สูงกว่ารถยนต์ทั่วไป ซึ่งล่าสุดสำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานถึงความเปลี่ยนแปลง
ด้านยอดขายของกลุ่มรถยนต์นี้ ที่ค่าย Mercedes-Benz เริ่มมียอดขายที่แผ่วลง จนไม่สามารถทำยอดขายได้มากเท่ากับ
คู่แข่งทั้ง BMW และ Audi จนทำให้มียอดขายรวมตกลงมาอยู่ที่อันดับ 3 ในตลาดกลุ่มนี้
เหตุผลที่ Mercedes-Benz ต้องมียอดขายรวมตกลงมาอยู่ในอันดับ 3 ก็ไม่มีอะไรไปมากกว่าการขาดการให้ความสำคัญ
กับตลาดรถยนต์หรูในประเทศจีน ซึ่งต้องยอมรับว่าในปัจจุบันมีบทบาทที่สำคัญมากขึ้นในวงการรถยนต์ และถ้าสังเกตให้ดี
ทั้ง BMW และ Audi ต่างให้ความสำคัญกับตลาดจีน ถึงกับต้องผลิตรถยนต์รุ่นพิเศษสำหรับประเทศจีนโดยเฉพาะ ทำให้
ได้รับความนิยมและเพิ่มยอดขายรวมได้อย่างมาก
นอกจากนี้ Mercedes ยังพัฒนาและป้อนรถยนต์รุ่นล่างสู่ตลาดออกมาได้น้อยเมื่อเทียบกับอีก 2 ค่าย อีกทั้งรถยนต์รุ่น
เรือธงอย่าง S-Class ก็ขาดความสดใหม่จนไม่อยู่ในสายตาผู้บริโภค (ซึ่งต้องรอดูรุ่นเปลี่ยนโฉมที่พร้อมจะเปิดตัวในเร็วๆนี้)
ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้ ทำให้ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา Mercedes-Benz ทำยอดขายรวมทั่วโลกได้น้อยกว่า Audi ที่อยู่
ในอันดับ 2 มากถึง 1 เท่าตัวเลยทีเดียว
แม้ว่าในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาในปีนี้ Mercedes-Benz จะขายรถออกไปได้มากถึง 964,900 คัน ซึ่งถือว่ามากกว่าช่วง
เดียวของปีที่แล้ว 5% แต่ก็ยังไม่สามารถสู้กับยอดขาย 9 เดือนแรกของ Audi ที่ทำได้มากกว่า 132,600 คัน ด้วยตัวเลข
1,097,500 คัน และ BMW ที่ทำได้มากกว่า 145,000 คัน ด้วยตัวเลข 1,109,900 คัน ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นถึง 41%
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเลยทีเดียว
ในตอนนี้ก็ต้องมาติดตามกันแล้วครับ ว่า Mercedes-Benz จะงัดไม้เด็ดไหนออกมาแก้เกม ให้ตัวเองกลับขึ้นมาอยู่ในอัน
ดับ 2 ให้ได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าทั้ง E-Class รุ่นปรับโฉม และ S-Class รุ่นใหม่ รวมถึงรถ SUV ขนาดเล็กบนพื้นฐาน
A-Class รุ่นใหม่อย่าง GLA-Class น่าจะเป็นรถยนต์ที่ช่วยเร่งยอดขายในปีหน้าของ Mercedes-Benz ได้ครับ