Mazda 2

ตุลาคมปี 2007 ฟอร์ดและมาสด้าร่วมแทคทีมแถลงข่าวสร้างโรงงานใหม่แห่งที่สองจากพื้นที่ส่วนต่อขยาย AAT1 ลงเงินลงทุน 17,000 ล้านบาท

เพื่อประกอบและส่งออกรถ B-segment ทั้งฟอร์ด เฟียสต้าและมาสด้า 2 ส่งออกในตลาดอาเซียน ออสเตรเลีย  นิวซีแลนด์ และแอฟริกาใต้

โรงงานใหม่แห่งนี้ติดตั้งเครื่องจักรที่ทันสมัยยืดหยุ่นการผลิตรถรุ่นอื่นๆนอกเหนือจากรถเล็ก 2 รุ่นนี้ เริ่มเดินสายการผลิตครั้งแรกปลายปีนี้

 

 

ย่อหน้าข้างบนคือความคืบหน้าที่ประกาศอย่างเป็นทางการล่าสุดและก็ไม่มีความคืบหน้าอันใด

นอกเสียจากการประท้วงเพื่อขอเรียกร้องสิทธิประโยชน์พนักงาน

สวนทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรมโลกโชคดีที่ยุติไปได้ราบรื่นอาจจะส่งผลกระทบต่อการติดตั้งเครื่องจักรที่โรงงานใหม่บ้าง

แต่ก็ไม่ถึงกระทบแผนการเปิดตัวมาสด้า 2 มากนักเพราะอยู่ในช่วงที่กำหนดเอาไว้เรียบร้อย

การที่คนไทยและอาเซียนได้ใช้รถเล็กเหมือนหลายๆประเทศทั่วโลก

เป็นเพราะตลาดรถยนต์ขนาดเล็กตั้งแต่ A ถึง B Segment มีแนวโน้มการเติบโตสูงมากเพราะภาพรวมที่ตอบโจทย์ได้ดีกับความต้องการของผู้บริโภค

 

 

ได้แก่ ดีไซน์ที่สวยงาม,ห้องโดยสารที่กว้างขวางเป็นที่ยอมรับเมื่อเทียบกับรถขนาด C-segment เกือบสิบปีที่แล้ว

,ความแรงและความประหยัดน้ำมันที่บรรจบกันพอดีถ้าเทียบกับเกือบสิบปีก่อนส่วนผสมแบบนี้คงขาดๆเกินๆแน่

จึงไม่แปลกใจที่ค่ายรถเกือบทุกค่ายทั่วโลกมุ่งเน้นการพัฒนารถเล็กกัน

มาสด้า 2

มาสด้า 2 หรือ Demio ที่จำหน่ายในญี่ปุ่นเป็นรถเล็กที่สร้างชื่อให้มาสด้าในญี่ปุ่นพอสมควรแต่เดิม 2 โฉมแรกยึดแนวคิดพัฒนารถเล็กอเนกประสงค์ค่อนข้างสูง

ไม่แพ้มินิแวนขณะที่คู่แข่งยังสร้างรถแฮทช์แบคท้ายตัดที่ความสูงไม่เกิน 1,470 มม.

ทำให้ความปลอดโปร่งของห้องโดยสารยังสู้มาสด้า เดมิโอ ไม่ได้นี่ถือเป็นการฉีกกฏของการสร้างรถเล็กของมาสด้าที่ทำให้คู่แข่งทุกรายมองค้อนกับความกล้า

 

 

แต่สถานการณ์ที่ต่างประเทศยังไม่เป็นใจนักเพราะมาสด้า 2 โฉมที่สองยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรจะเป็นนักกลับกันมาสด้า 6 และ 3

กลับได้รับความนิยมมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ทำให้แนวคิดการพัฒนามาสด้า 2 โฉมใหม่ จึงต้องสร้างบนแนวคิด baby zoom-zoom

หรือรถสปอร์ตขนาดเล็กย่อส่วนจากมาสด้า 3 และ 6

 

 

มาสด้าแสดงแนวคิดนี้ให้โลกรู้ผ่านรถต้นแบบ Mazda Sassou ที่เป็นดีไซน์ต้นแบบ

เจ้าคันนี้ถือว่าพลิกการเปลี่ยนแปลงจากรถแนวอเนกประสงค์กลายเป็นรถที่โฉบเฉี่ยว มาสด้าก็พร้อมทำศึกเมื่อเปิดตัวมาสด้า 2 แฮทช์แบคโฉมที่ 3 โฉมใหม่ทั้งคัน

ในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2007 สร้างกระแสทั้งในระดับโลกและในไทยได้ไม่ยากถึงตัวรถโดยรวมไม่ได้ฉีกไปจากตลาด B-segment

ในท้องตลาดมากแต่คุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างการลดน้ำหนักตัวถังร่วม 100 กิโลกรัมนั้นคือจุดเด่นของสมรรถนะและประสิทธิภาพความประหยัดน้ำมัน

 

 

เป็นรถที่เข้าตาคณะกรรมการ WCOTY2008 จัดให้เป็นรถยนต์ยอดเยี่ยมของโลกประจำปี 2008

ลูกค้าชาวไทยหลายคนส่วนใหญ่ถูกใจกับ 2 ใหม่อย่างมากเพราะเป็นรถเล็กปราดเปรียวและราคาที่คาดว่าจะไม่แพงก็ตีกระแสได้ระดับหนึ่ง

แต่กว่าจะมาเมืองไทยจากมีนาคม 2007 ถึงปลายปี 2009 ก็เกือบ 3 ปีนี่และย่อหน้าถัดไปคือสิ่งที่เรากำลังจะบอก

มาสด้า 2 3 ประตู

ความคืบหน้าล่าสุดมาสด้าส่งพิมพ์เขียวไปยังผู้ผลิตชิ้นส่วนเมื่อกลางปีที่แล้วด้วยรหัส J64G รุ่น 5 ประตู และ J64J รุ่น 4 ประตู

และสิ่งที่บอกกล่าวกันนั้นผิดวิสัยไปจากเดิมเพราะมันคือ Mazda 2 Minorchange!!!

ฟังไม่ผิดครับยังไม่ทันโฉมดั้งเดิมจะเปิดตัวจะเป็นโฉมไมเนอร์เชนจ์ไปเลย

 

 

ถ้าวิเคราะห์รหัสพัฒนารถยนต์นั่งของมาสด้าเปิดตัวครั้งแรกจะต้องขึ้นต้นด้วยอักษร J บ่งบอกว่าเป็นรถที่มาสด้าพัฒนาผลิตและแปะแบรนด์มาสด้า

ตามด้วยตัวเลข 2 หลักเพื่อบอก Positioning ของรถว่าเป็นรถเล็ก-ใหญ่อย่างไร และลงท้ายด้วยรหัส C เสมอ

 

ยกตัวอย่าง

 

มาสด้า 3 รุ่นโฉมแรกปี 2003-2004 รหัสพัฒนา J48C เมื่อเปลี่ยนโฉมไมเนอร์เชนจ์จะเป็นรหัส J48L เป็นต้น

หรือรถใหม่ที่เปิดตัวอย่างมาสด้า 6 รุ่นปี 2007 มีรหัสพัฒนา J89C 

 

ดังนั้นมาสด้า 2 ที่จะเปิดตัวในไทยจึงเป็นเวอร์ชันไมเนอร์เชนจ์แทนที่จะเป็นมาสด้า 2 โฉมปัจจุบัน

ที่คุณๆสามารเสิร์ชหาบนอินเตอร์เน็ตได้ซึ่งมีรหัสพัฒนาดั้งเดิมคือ J64C นั่นเอง

รายละเอียดการปรับโฉมนั้นเราจะสืบทราบและเล่าสู่กันฟังอีกครั้งหนึ่ง

แต่รายละเอียดทางเทคนิคต่างๆอันได้แก่ เครื่องยนต์ ช่วงล่าง จะเหมือนกับเวอร์ชันที่ขายต่างประเทศ

มาสด้า 2 ซีดาน

การเตรียมตัวบุกครั้งใหญ่ของมาสด้า ประเทศไทยเริ่มต้นวางแผนเป็นอย่างดี มาสด้า 2 จึงเป็นหัวหอกและความคาดหวังที่จะเติบโต

แบบก้าวกระโดดครั้งสำคัญที่สุดนับตั้งแต่มาสด้าเปิดกิจการในประเทศไทย

แนวโน้มของตลาดที่หันมาใช้รถเก๋งเล็กแทนที่จะซื้อรถกระบะเป็นผลพวงมาจากวิกฤตราคาน้ำมันดีเซลที่ลอยตัวเข้าสู่

ความจริงทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปและมีแนวโน้มที่ค่อยๆเปลี่ยนพฤติกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ

เป้าหมายของมาสด้า 2 ใหม่คือต้องมียอดจำหน่าย 1,000 คัน/เดือนเป็นส่วนเติมเต็มยอดขายของรถกระบะ BT-50

ที่นับวันจะดิ่งลงตามแนวโน้มสภาพการบริโภคของคนไทย

 

กำหนดการณ์เปิดตัวมาสด้า 2 คือเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนปีนี้เพื่อให้ทันเทศกาลงานขายรถ MotorExpo2009 ด้วยเวอร์ชัน 5 ประตู

ส่วนเวอร์ชัน 4 ประตูเตรียมตัวเปิดตัวก่อนวันงาน Bangkok Motorshow 2010