Daimler AG ตั้งใจรังสรรโปรเจคท์อภิมหากาพย์เอาใจอภิมหึมามหาเศรษฐีที่คิดจะเพิ่มเงินเพื่อแลกกับความอลังการที่มากกว่า Mercedes-Benz โดยใช้ชื่อว่า Maybach ซึ่งเป็นชื่อแบรนด์เก่าแก่ก่อตั้งปี 1909 และอยู่ภายใต้อาณัติ Daimler AG มานานแสนนานจนแทบจะลืมเลือนในสารบบในช่วงปลายยุค 60 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2

 
 

ภายหลัง Daimler AG สมองใสคิดโปรเจคท์รถหรูระดับเทพที่เหนือชั้นกว่า Mercedes-Benz ยุคปัจจุบันมาก โดยริเริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 1997 ถึงขนาดอวดโฉมรถต้นแบบ Mercedes-Benz Maybach Concept ในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 1997 สำรวจวิจัยตลาดอย่างถี่ถ้วนจนได้ Maybach 57 และ 62 เปิดตัวในช่วงปี 2002 คาดหวังว่าความหรูหราระดับเทพจะเข้าตาอภิมหาเศรษฐีที่อยากได้ความหรูระดับนี้

แต่แล้วความหวังการจับตลาดรถหรูระดับเดียวกับ Roll-Royce ก็มีปัญหาเสียแล้ว

เมื่อนิตยสาร Autoexpress ในเครือ Autobild ในสหราชอาณาจักรยืนยันแล้วว่า Daimler AG มีแผนปรับโฉม Maybach ทั้ง 3 รุ่นได้แก่ 57 , 62 และ Landaulet ทิ้งทวนครั้งสุดท้ายก่อนที่จะปิดตัวอย่างเป็นทางการ ส่วนตำแหน่งการตลาดเดิม Daimler AG หมายมั่นปั้นมือให้ Mercedes-Benz S-Class โฉมใหม่ข้ามมาอยู่เกรดระดับ Exotic Premium นั่นเอง

โดยปกติ Mercedes-Benz S-Class รุ่นปัจจุบันก็มีสื่อมวลชนจำนวนมากวิพากย์วิจารณ์ว่ามันคือ Maybach 57 เวอร์ชันคุ้มค่ากว่าเพราะดูแล้วแทบจะไม่เห็นความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดว่าทำไมจะต้องซื้อ Maybach กันล่ะ?

ดังนั้น Mercedes-Benz จึงต้องผ่าทางตันให้ S-Class มีที่ยืนในตลาดรถหรูขนาดเขื่องที่นับวันจะขยายตัวถังให้ใหญ่โตทุกทีด้วยทางออกที่สวยงามคือการยืนอยู่บนตลาดรถหรูระดับขึ้นหิ้ง ฉีกจากคู่แข่งทั้ง BMW 7-Series และ Audi A8 ที่เน้นแต่เติบโตในแง่มวลสาร(เครื่องยนต์,ขนาดตัวรถ) แต่ไม่มีการเติมคุณค่าใด ๆ เข้าไป

Mercedes-Benz S-class โฉมใหม่จะเปิดตัวในปี 2014 มาพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นขีดสุดเท่าที่ Mercedes-Benz เคยพัฒนารถรุ่นใด ๆ มาก่อน

และเมื่อพิจารณายอดขาย Maybach ในตลาดสหรัฐอเมริกาประจำปี 2009 ซึ่งถือเป็นตลาดหลักของ Daimler AG ยังทำยอดขายได้แค่ 66 คันเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่เคยขายได้สูงสุด 244 คันในปี 2004 เห็นยอดขายระดับนี้คงไม่แปลกใจนักว่า Maybach น่าจะดับสูญไปอีกรอบ

ส่วนการปรับโฉม Maybach ทิ้งทวนครั้งสุดท้ายนั้นจะเตรียมตัวเปิดตัวในงาน Beijing Autoshow เมษายนนี้ที่ประเทศจีนครับ