บริษัท เอ็มไพร์ มอเตอร์ สปอร์ต จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มาเซอร์ราติอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวใน
ประเทศไทยได้ทำการเปิดตัวรถยนต์ มาเซอร์ราติ กิบลี (Maserati Ghibli) รถหรูระดับนอี-เซกเมนต์ (E-segment) ที่มี
การผสมผสานการออกแบบตัวรถให้เข้ากับคุณภาพของการควบคุมบังคับและสมรรถนะที่ดีเยี่ยม
มาเซอร์ราติ กิบลี ใหม่ มีรูปโฉมที่ดึงดูดใจจากแรงบันดาลใจทางด้านความคิดและจิตวิญญาณของการผลิตรถยนต์รุ่นนี้จน
ออกมาเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของมาเซอร์ราติ จนกลายเป็นรถซีดานรุ่นที่ 2 ต่อเนื่องมาจากควอตโตรปอร์
เต้ (Quattroporte)ที่ถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปีที่มาเซราติมีรถซีดานขายมากกว่า 1 คัน!
คุณพรศริน เมธีวัชรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มไพร์ มอเตอร์ สปอร์ต จำกัด กล่าวว่า “มาเซอร์ราติ กิบลี จะเป็นรถ
ที่เราทำการตลาดแบบแมสมากขึ้นเพื่อให้ถึงมือลูกค้าที่สัมผัสได้ง่ายกว่าเดิม เรามีความมั่นใจอย่างยิ่งว่าเป็นรถที่ทำตลาด
ได้ดีในประเทศไทยอย่างที่ทำตลาดได้ดีในทั่วโลก เนื่องจากมาเซอร์ราติได้สร้างทางเลือกใหม่และทำให้แตกต่างจากสินค้า
ที่เรามีในตลาด คนไทยจะได้สัมผัสสิ่งใหม่ๆที่ทางมาเซอร์ราติได้นำเสนอสำหรับตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลาง ปัจจุบัน
รถยนต์นั่งขนาดกลางที่ครองตลาดมักจะเป็นกลุ่มผู้ผลิตจากค่ายญี่ปุ่นและเยอรมัน คาแรคเตอร์ที่มีเสน่ห์ของรถอิตาลียัง
ไม่เคยได้มีการเปิดเผยสู่ผู้บริโภคในกลุ่มนี้เท่าใดนัก เราจึงขอโอกาสเชิญชวนให้ผู้ที่ไม่เคยลองได้มาสัมผัสเสน่ห์ ความแรง
ในสไตล์ที่เฉพาะตัวของรถตระกูลอิตาเลี่ยน เผื่อเป็นทางเลือกที่ท่านชื่นชอบ
สำหรับจุดเด่น ด้วยสมรรถนะ ดีไซน์ และเอกลักษณ์ของความเป็นอิตาลีเป็นจุดเด่นหลักของรถตระกูลนี้ ความแตกต่างทำ
ให้โดดเด่นไม่ซ้ำใครบ่งบอกถึงความมีสไตล์และหรูหรามีระดับ สนุกและมีสีสันในการขับขี่คือลักษณะของรถที่สื่อถึงผู้เป็น
เจ้าของได้ นอกจากนี้ราคาของกิบลีที่จะทำให้ฝันของผู้รักรถ รักความเร็ว และมีสไตล์ในความมีระดับจะกลายเป็นฝันที่
สัมผัสได้ในทุกๆวัน ด้วย ราคา 6.9 ล้านบาท สำหรับ มาเซอร์ราติ กิบลี (Maserati Ghibli) และ 7.9 ล้านบาท สำหรับมา
เซอร์ราติ กิบลี เอส (Maserati Ghibli S) โดยเราจะเริ่มส่งมอบลูกค้าได้ในเดือนมิถุนายน”
สำหรับมาเซอร์ราติทั้งสองรุ่นนี้ที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินประกอบไปด้วย กิบลี และ กิบลี เอส จะได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์
รุ่นใหม่ล่าสุดแบบ ทวิน-เทอร์โบชาร์จ (Twin turbo-charged) 3.0 ลิตร วี 6 สูบ มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8-สปีด จาก ZF
ในรุ่น กิบลี เอส ให้พละกำลังสูงสุด 410 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลา 5.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 285
กม./ชม. ส่วนในรุ่น กิบลี มีพละกำลังสูงสุด 330 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลา 5.6 วินาที
ความเร็วสูงสุด 263 กม./ชม. กิบลีใหม่ได้ใช้ชิ้นส่วนสำคัญของโครงสร้าง แชสซีส ระบบรองรับ เครื่องยนต์ วี 6 สูบ และ
เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ZF ร่วมกันกับรุ่นควอตโตรปอร์เต้ ซึ่งถือว่าเป็นรถลิมูซีนในระดับแนวหน้า อย่างไรก็ตามกิบลีจะมี
ฐานล้อที่สั้นกว่าอยู่ 173 มม. ความยาวของตัวรถโดยรวมสั้นกว่า 291 มม. และมีน้ำหนักที่เบากว่า 50 กก.การขับเคลื่อน
และควบคุมบังคับที่แม่นยำ มีผลมาจากการกระจายน้ำหนักหน้า:หลังอย่างสมบูรณ์แบบในอัตรา 50:50 ในขณะที่การ
ออกแบบระบบรองรับ และเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิพจะช่วยเพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่ ส่วนในด้านความปลอดภัย
จากการชนจะได้รับการรับรองจาก Euro NCAP ในระดับสูงสุดที่ 5 ดาว
กิบลีใหม่ ได้แฝงจิตวิญญาณแห่งการออกแบบของมาเซอร์ราติรุ่นคลาสสิคในอดีตเอาไว้ทั้งหมด การตกแต่งภายในห้อง
โดยสารให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว เส้นสายบนตัวรถจะสะท้อนถึงปรัชญาแห่งการออกแบบรถซีดาน 4 ประตูให้
แลดูเหมือนรถสปอร์ตคูเป้ โดยเน้นไปที่กระจังและไฟด้านหน้าของกิบลี กระจังหน้าจะมีรูปลักษณ์ที่ย้อนยุคไปถึงรุ่น A6
GCS ในช่วงทศวรรษ 1950 รูปทรงของไฟหน้าเข้ากันเป็นอย่างดีกับสัญลักษณ์ตรีศูล มุมมองของการออกแบบจะดึงดูด
สายตาให้ย้อนระลึกถึงตำนานอันยาวนานของมาเซอร์ราติ เสาซี-พิลลาร์ (C-pillar) มีส่วนทำให้กิบลีแลดูเหมือนรถสปอร์ต
คูเป้ และติดตั้งเครื่องหมายตรีศูลในรูปแบบคลาสสิคเช่นเดียวกับที่ใช้อยู่กับมาเซอร์ราติในยุค 1963 วัสดุที่อยู่ด้านข้างตัว
รถตกแต่งด้วยโลหะ เริ่มต้นจากร่องระบายอากาศ 3 ช่องที่อยู่ด้านหลังของล้อคู่หน้าไปจนถึงกับไฟท้าย จากการที่มีฐานล้อ
มีความยาวทั้งสิ้น 4.97 เมตร และมีช่วงห่างระหว่างล้อซ้าย-ขวาที่กว้างมีผลทำให้กิบลีมีความสมบูรณ์แบบในเรื่องของ
ความสปอร์ตและสง่างามไม่เป็นที่สองรองจากใคร
กิบลีถูกจัดให้เข้าไปอยู่ในอี-เซกเมนต์ของตลาดรถสปอร์ตหรู และมีความเหนือชั้นเรื่องการตกแต่งภายในห้องโดยสารทำได้
ราวกับงานศิลปะที่เต็มไปด้วยรายละเอียดมากมายและมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นไม่เหมือนใคร แรงบันดาลใจของแผง
หน้าปัดในค็อกพิทจะออกแบบให้เข้ากับความสปอร์ตและบุคลิกของวัยหนุ่มสาวโดยมิได้ละทิ้งความประณีตที่ต้องอาศัย
ความเชี่ยวชาญในระดับสูงในการผลิต อุปกรณ์ต่างๆ เช่น หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 8.4 นิ้ว อุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร
ตกแต่งด้วยหนังแท้แฝงไว้ด้วยบุคลิกสปอร์ตที่ไร้กาลเวลา อุปกรณ์พิเศษจะรวมไปถึงเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์พร้อมลำโพง
15 ตัว จาก Bowers & Wilkins นอกจากนี้ยังมีระบบ WiFi แบบ WLAN เป็นออฟชั่นให้เลือกใช้อีกด้วย