ยังไม่ทันที่ Lexus LS460 และ LS460L MINORCHAGE จะเปิดตัวสู่ตลาดญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐอเมริกา
ครบถ้วนทุกตลาด Lexus Group ฝ่ายดูแลกิจการรถยนต์ Lexus ของ โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) ก็รีบเร่ง
สั่งนำเข้า รุ่นปรับโฉมของ สุดยอดซีดานหรู ระดับ เฟิร์สต์คลาส คันนี้ มาเอาใจบรรดาเจ้าสัวบ้านเรา
อย่างฉับไว จนน่าตกตะลึง! โดยทางโตโยต้า เพิ่งส่งข่าวแจ้งมาที่ Headlightmag.com เมื่อวานนี้
(10 พฤศจิกายน 2009)

 

 

อันที่จริง ความฉับไวขนาดนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ เล็กซัส กรุ๊ป เขาทำให้กับตลาดรถยนต์หรูของเมืองไทย

เพราะเมื่อปี 2005 Lexus GS ก็ยังถูกส่งมาเปิดตัวในบ้านเรา เป็นประเทศที่ 2 ในโลก ตามติดสหรัฐอเมริกา
ก่อนหน้าการเปิตดัวในญี่ปุ่นอย่างดิบดี!

อย่างที่ทราบกันดี ว่า LS คือ ซีดานชั้นเลิศ ระดับ Flagship เป็นที่สุดแห่งการพัฒนารถยนต์ระดับหรูของ โตโยต้า
ภายใต้แบรนด์ เล็กซัส ประวัติศาสตร์ ของรถรุ่นนี้ สามารถหาอ่านกันได้ ใน Headlightmag.com ของเราที่นี่…

www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=459:lexus-ls-toyota-celsior-&catid=56:jimmys-library&Itemid=55

ส่วนในเมืองไทย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้สั่งนำเข้า LS400 มาทำตลาดเป็นครั้งแรก
เมื่อปี 1993 หลังจากนั้นจึงมี การเปลี่ยนโฉม เป็น เจเนอเรชัน 2 ในปี 1994 และการเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่
อีกครั้งในปี 1999 ด้วยรุ่น LS 430 ส่วนรุ่นล่าสุด ซึ่งถือเป็นรุ่นที่ 4 จากตระกูล LS นั้น เปิดตัวในเมืองไทย
เมื่อปี 2006 ทั้ง 4 เจนเนอเรชั่นของ LS ซีรีส์ ล้วนประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับจากลูกค้าระดับผู้นำ
อย่างดีเยี่ยม

รายละเอียดความเปลี่ยนแปลงต่างๆนั้น มีขึ้นเพียงไม่กี่จุด

รูปลักษณ์ภายนอกที่มีการเปลี่ยนแปลง
– ไฟหน้าใหม่ พร้อมไฟหรี่ LED สีขาวจำนวน 8 ดวง กับรีเฟลกเตอร์ด้านข้าง
เพื่อให้ตัวรถดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

 

 

– ไฟท้ายใหม่ ไฟท้ายและไฟเบรค LED พร้อมกับกรอบไฟท้ายแบบใส ดูชัดเจน
ยิ่งขึ้นด้วย Optical Guide ซึ่งคล้ายกันกับเส้นสาย Optical ในรุ่นปัจจุบัน  

– ไฟเลี้ยวด้านข้างใหม่ ระบบไฟเลี้ยวบนกระจกมองข้างแบบ LED จำนวน 2 ดวง
เพื่อให้แสงสว่างที่กว้างขึ้นและทัศนวิสัยที่ดีจากด้านหน้า

รูปลักษณ์ภายในที่มีการเปลี่ยนแปลง

งานออกแบบรอบคอนโซลกลาง ถูกปรับปรุงให้ความรู้สึกโอ่อ่ากว้างขวางของห้องโดยสารมากยิ่งขึ้น

ระบบเบาะหลังแบบ Rear Seat Relaxation System เพิ่มความสะดวกสบายอย่างสูงสุดด้วย
– ชุดเครื่องเสียง Mark Levinson Reference Surround Sound System: ลำโพง 19 ตัว, แอมปลิฟายเออร์ 450 วัตต์
เครื่องเล่น DVD ระบบ 5.1 home entertainment พร้อมกับสามารถเล่น CD, DVD, MP3 และ WMA
– เบาะนั่งหลังแบบผ่อนคลายใหม่ พร้อมเพิ่มระบบนวดแผ่นหลัง ในรุ่นช่วงล้อสั้น จากเดิมที่มีแต่รุ่น LS460L

อีกทั้งยังปรับเอนได้ตั้งแต่ 28-45 องศา มีระบบปรับเอนของบริเวณที่รองรับแผ่นหลังด้านบนปรับเอนลงได้
17 องศา พัฒนาขึ้นโดย เลกซัส พร้อมที่รองต้นขา และที่วางเท้าพับเก็บได้ เบาะนั่งหลังยังสามารถเลื่อนจาก
หน้าไปหลังได้ประมาณ 3 นิ้ว รวมถึง ระบบนวดมัลติฟังก์ชั่น พร้อม ระบบนวดแบบ “Shiatsu” ฟังก์ชั่น
สำหรับการยืดลำตัว และระบบสั่นเพื่อความสบาย และผ่อนคลายของผู้โดยสารในแบบลีมูซีน ที่สามารถ
ปรับระดับความแรงของการนวดได้ตามต้องการ

รายละเอียดเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลัง ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยังคงเป็นเครื่องยนต์
V8 4.6 ลิตร 380 แรงม้า (PS) และเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ เช่นเดิม

ระบบกันสะเทือน มีการปรับปรุงในรุ่น LS460L โดยเปลี่ยนมาใช้ สปริงแบบถุงลมรุ่นใหม่
ที่สามารถรองรับแรงกระแทกอย่างนุ่มนวลจากถนนเวลารถแล่นและปรับระดับความสูง
ของตัวรถให้คงที่ได้เอง ไม่ว่าจะมีผู้โดยสารกี่คนหรือบรรจุสัมภาระมากแค่ไหน

นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ Advance Driving Assist มากมาย อาทิ
–  ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติด้วยเรดาร์ (Radar Cruise Control)
โดยการนำข้อมูลของรถยนต์คันหน้าที่ตรวจจับได้โดยมิลลิเวฟเรดาร์ มาทำการประมวลผล
เพื่อทำการควบคุมทั้งควมเร็วและระยะห่างจากคันหน้าให้เหมาะสมที่สุด เพื่อความปลอดภัย
สูงสุดของผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร.

– ระบบควบคุมเสถียรภาพรวม VDIM (Vehicle Dynamic Integrated Management)
– ระบบพวงมาลัยแบบอัตราทดแปรผัน (VGRS)

ในขณะออกตัว เบรก หรือเข้าโค้งอย่างกะทันหันบนพื้นถนนที่มีการลื่นไถลของล้อซ้ายและขวาไม่เท่ากัน
แรงหมุนของล้อหรือแรงเบรกของล้อซ้ายและขวาที่แตกต่างกันทำให้เกิดการปัดและลื่นไถล ระบบจัดการ
อากัปกิริยารวมของตัวรถ (VDIM) และ ระบบพวงมาลัยอัตราทดแปรผัน (VGRS) จะช่วยควบคุมกำลังเครื่องยนต์  
และปรับอัตราทดของพวงมาลัย ให้เหมาะสม เพื่อให้การขับขี่มีเสถียรภาพมากขึ้น และยังช่วยให้การควบคุม
พวงมาลัยเป็นไปได้ง่ายดายอีกด้วย ทำให้ผู้ขับขี่สามารถบังคับรถอย่างมีเสถียรภาพสูงสุด

– ระบบเรดาร์ป้องกันความปลอดภัยก่อนการชน
มิลลิเวฟเรดาร์ของระบบป้องกันความปลอดภัยก่อนการชน สามารถกำหนดได้ว่าจะมีความเสี่ยง
ของการชนเกิดขึ้นกับรถคันหน้า และเตือนมายังผู้ขับขี่ได้อีกด้วย หากผู้ขับขี่ทำการเบรกก่อนที่จะ
เข้าสู่ระยะการชน ระบบป้องกันความปลอดภัยก่อนการชนจะเพิ่มแรงเบรกเพื่อช่วยในการหยุดรถ

ถึงแม้ว่าผู้ขับขี่ไม่ได้เบรก ระบบป้องกันความปลอดภัยก่อนการชนจะช่วยเบรกให้ความเร็วลดลง
ก่อนเกิดการชน ในขณะที่ระบบเข็มขัดนิรภัยก่อนการชนจะดึงกลับอัตโนมัติก่อนการชนเกิดขึ้น
เพื่อลดอาการบาดเจ็บของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
 
– ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Intelligent Parking Assist) <with ultrasonic sensors>
ระบบนี้ช่วยให้การหมุนพวงมาลัยเวลาจอดรถง่ายขึ้น โดยมีเซนเซอร์ด้านข้าง เซนเซอร์บริเวณ
กันชนหน้าทั้งด้านซ้าย-ขวา และบริเวณกันชนหลังมีกล้องเพื่อให้มองเห็นด้านหลังซึ่งภาพ
จะแสดงที่หน้าจอทัชสกรีน

สีภายนอก มีให้เลือกมากถึง 10 สี
– Frosty Pearl Mica
– Black
– Sleek Ecru Metallic
– Lapis Lazuli Mica
– Dark Grey Mica
– Premium Silver
– Deep Peridot Mica
– White Pearl Crystal Shine
– Red Mica Crystal Shine
– Sable Mica Metallic

สีภายในห้องโดยสาร       
– Ivory
– Black
– Light Grey

สีลายไม้
– Medium Brown (Walnut)
– Grey (Bird’s-eye maple)

LS460 และ LS460L ใหม่ มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ติดป้ายราคาไว้ดังนี้

– LS 460  (Short Wheel Base 5 ที่นั่ง)        ราคา    9,240,000 บาท
– LS 460L (Long Wheel Base 5 ที่นั่ง)        ราคา  11,040,000 บาท
– LS 460L (Long Wheel Base 4 ที่นั่ง)        ราคา  11,140,000 บาท

 

และในเมื่อ ขุมพลัง ยังคงเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ รายละเอียดทางวิศวกรรม ก็ยังเหมือนเดิม
ดังนั้น ตัวเลขอัตราเร่ง ต่างๆ และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง จึงถูกรวบรวมไว้แล้ว ในรีวิว ของ ผม ที่นี่
www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=468:-lexus-ls460-l-10-&catid=68:luxury&Itemid=87

ถ้าอยากจะแสดงความคิดเห็น เชิญได้ที่นี่
www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=1254.0.

————————————–///————————————-