บุคลิกของรถยนต์ก็เปรียบเสมือนบุคลิกของคนเราที่จะต้องแสดงความเป็นตัวของตัวเองและชัดเจน แล้วเสน่ห์ของคุณก็จะถูกเปิดเผยออกมาเอง แต่บังเอิญว่ารถยนต์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต การกำหนดชะตาชีวิตก็จะต้องถูกควบคุมผ่านมนุษย์อย่างเรา ๆ ท่าน ๆ นี่ล่ะครับ
แต่มีรถรุ่นหนึ่งที่ถูกเปลี่ยนแปลงบุคลิคอย่างสม่ำเสมอ มิใช่เพื่อความสดใหม่แต่ผู้ควบคุมกลับมีการเปลี่ยนแปลงจนต้องทำให้รถรุ่นนั้นต้องเปลี่ยนบุคลิคไปเรื่อย ๆ 1 ในรุ่นนั้นก็คือ Kia Sportage
ความเป็นมาของ Kia Sportage ตั้งแต่ตั้งไข่จนถึงปัจจุบันเชื่อว่าคนไทยที่รักรถส่วนใหญ่ยังตราตรึงกับภาพลักษณ์ทรหดอดทนของ Sportage เจเรชั่นแรกในสมัยที่นำเข้าโดยพรีเมียร์ เกีย (เป็นบริษัทในเครือพรีเมียร์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทเทรดดิ้งสารพัดอย่าง โดยมีสินค้าที่โด่งดังสุด ๆ คือปลาสวรรค์ตราทาโร่)
Kia Sportage รุ่นแรกถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 1993 ถูกสร้างและพัฒนาโดยใช้งานวิศวกรรมบางส่วนของ Ford-Mazda
ศักดิ์ศรีของ Kia Sportage โฉมแรกแทบจะกลายเป็นเทพแห่ง SUV พันธุ์ทรหดเพราะเป็นรถที่ถูกสร้างบนพื้นฐานแชสซีส์คล้าย ๆ รถกระบะ (สมัยนั้นคำว่ายังไม่นิยมรถประเภทนี้ว่า SUV กันเท่าไรนัก เพราะรถ SUV สมัยนั้นมักจะใช้เรียกกับรถที่ถูกสร้างบนพื้นฐานรถเก๋ง) แต่มาในรูปลักษณ์ที่สวยสดงดงามและดูโค้งมนตามยุคสมัยซึ่งคู่แข่งสมัยนั้นมีเพียงแค่ Suzuki Vitara และรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อทั้งหลาย อีกทั้งยังมีราคาที่ถูกและคุ้มค่าที่สุดในตลาดแถมยังได้เครื่อง 2.0 ลิตรอีกด้วยอีกทั้งกระแส SUV ที่เป็นพายุพัดโหมกระหน่ำ ทำให้นำพายอดขาย Kia Sportage ติดลมบน
แต่แล้ววิกฤตบริษัทแม่ในเกาหลีใต้และวิกฤตเศรษฐกิจทั่วเอเชีย ประกอบกับรถยนต์นั่ง Kia Sephia (เป็นรถขนาดคอมแพคท์ก่อนที่จะมาเป็น Cerato/Forte ในปัจจุบัน) ก็ไม่ประสบความสำเร็จเอาเสียเลย ในเมื่อบริษัทแม่ไม่สนับสนุน Kia ในไทยจึงเป็นเหตุให้บริษัทพรีเมียร์เกียต้องสาบสูญจากเมืองไทยตลอดกาล
โชคดีที่ยนตรกิจมีดำริจะนำเข้ารถยนต์ตระกูล Kia ทั้งหลายในช่วงปลายยุค 90 และเข้ามาในจังหวะที่เหมาะสมเพราะยนตรกิจเข้ามาในช่วงที่คนยังไม่ลืม Kia มากนัก จึงทำให้ Kia ประเทศไทยแจ้งเกิดกับมินิแวนรุ่น Canival ได้สำเร็จ ส่วนรุ่น Carens และ Grand Sportage (Sportage รุ่นฐานล้อยาว) กลับไม่ประสบความสำเร็จเอาเสียเลย
ส่วน Kia Sportage รุ่นต่อไปในตลาดโลกยังดำเนินต่อไปภายใต้การดำเนินงานของ Hyundai Motor อันเป็นบริษัทแม่ของ Kia Motor ไปเสียแล้ว
Kia Sportage โฉมที่ 2 พลิกแนวการพัฒนาครั้งสำคัญเพราะถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานรถเก๋ง Hyundai Elantra อันเป็นเทรนด์รถ SUV ส่วนใหญ่ และที่สำคัญจะต้องใช้ชิ้นส่วนสำคัญหลาย ๆ ชิ้นร่วมกับ Hyundai Tucson คอมแพคท์ SUV คันใหม่ จนทำให้รู้สึกว่า Kia Sportage ไม่มีความเป็นตัวของตัวเองเท่าที่ควร และดีไซน์ของรถกลับไม่สร้างความประทับใจเท่ากับรุ่นแรกนัก
ปัจจุบัน Kia และ Hyundai สามารถค้นหาความเป็นตัวของตัวเองได้สำเร็จเฉกเช่นเดียวกับคู่แฝดข้ามโลกอย่าง PSA Group ที่สามารถแยกเอกลักษณ์ของแบรนด์ Peugeot และ Citroen ได้สำเร็จ ดังที่เราเห็นในรถ Kia และ Hyundai หลาย ๆ รุ่นนับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นไป
ดังนั้น Kia Sportage เจเนเรชั่นที่ 3 จึงพกความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าเป็นตัวของตัวเองสูงสุด และที่สำคัญยังจะพลิกโฉมใหม่ชนิดที่ต้องลืมโฉมเก่าปลิดทิ้งไปสู่ความหรูหรา ปราดเปรียวและความแข็งแกร่งไปในตัวดังที่เราพึงเห็นจากภาพหลุดในบทความนี้
ภาพหลุดชุดดังกล่าวถูกหลุดมาจาก Harmonization in the Internal Market (OHIM) จากสำนักทะเบียนเครื่องหมายการค้าและดีไซน์แห่งสหภาพยุโรปที่สำนักงาน OHIM หรือย่อมาจาก Office for Harmonization in the Internal Market (Trade Marks and Designs) ซึ่งสำนักแห่งนี้หลุดรายละเอียดรถยนต์ที่เตรียมทำตลาดในยุโรปนับครั้งไม่ถ้วน
ดีไซน์ของ Kia Sportage โฉมที่ 3 มีบุคลิคความแข็งแกร่งแต่แฝงความอ่อนช้อยเหมือนโฉมแรก แต่สิ่งที่ถูกเพิ่มขึ้นมาคือความปราดเปรียวและความหรูหราล้ำสมัย และที่สำคัญยังเพิ่มเอกลักษณ์ Face Of Kia เช่นเคย
งานนี้ต้องขอชมเชย Chief Designer คุณ Peter Schreyer ที่เคยฝากฝีมือการออกแบบรถยนต์ Audi มาแล้ว แม้ว่าดูบางมุมจะคล้าย ๆ รถยุโรปบางรุ่นก็ตาม และเสา C ที่ยังดูหนากว่าที่คิด
เครื่องยนต์สำหรับทำตลาดสหรัฐอเมริกามีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ได้แก่ เครื่องบล๊อก 4 สูบ 2.0 ลิตร และ 2.4 ลิตร เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ สำหรับตลาดยุโรปจะมีเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือก 3 เครื่องได้แก่ 1.7 ลิตร 115 แรงม้า,2.0 ลิตร 134 แรงม้า และ 184 แรงม้าให้เลือก และเครื่องเบนซิน 1.6 ลิตร 140 แรงม้า และ 2.0 ลิตร 166 แรงม้า
กำหนดการเปิดตัวครั้งแรกในโลกในงาน Geneva MotorShow 2010 มีนาคมนี้และจะปรากฏโฉมในงาน Seoul MotorShow เดือนเมษายนนี้ ส่วนประเทศไทยคงจะต้องรอกันอีกนานจนกว่า Kia Soul และ Forte ทำตลาดเมืองไทยได้เสียก่อน