Hyundai ปล่อยให้พวกเราคอยจินตนาการและวาดฝันถึง Hyundai Veloster คันจริงว่าจะเป็นอย่างไร? สวยไหม? ดีไหม? จนรอแล้วรอเล่าถึง 3 ปีเต็มหลังจาก Hyundai เผยรถต้นแบบในปี 2007 อีกทั้ง Hyundai Thailand ก็เคยสั่งนำเข้ารถต้นแบบคันนี้มาอวดโฉมในงาน Bangkok Motorshow 2011 ในบ้านเราอีกด้วย
และแล้ววันนี้ที่รอคอยก็มาถึง ทันทีที่พวกเราเห็น Hyundai Veloster เวอร์ชันขึ้นสายการผลิตจริงอวดโฉมในงาน Detroit Autoshow 2011 พลันใดนั้นพี่ J!MMY หนึ่งในผู้กุมบังเหียนเว็บไซต์ถึงกับให้นิยามรถคันนี้ว่า “รถสปอร์ต ประตูแปลก แหวกชิมิ”
อย่าหาว่าพวกเรากำลังสนับสนุนการใช้ภาษา “วิบัติ” กันเลยนะครับ ถ้าเรากำลังคิดหาคำเปรียบเปรยกับความแปลกใหม่ของ Hyundai Veloster อยู่ขณะนี้ คงจะไม่มีคำใดที่อธิบายอารมณ์และความรู้สึกได้ดีไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ถึงแม้ว่าเราต้องขอหยิบยืมชื่อหนัง “หอแต๋วแตก 3 แหวกชิมิ” จากคุณพจน์ อานนท์ที่กำลังฉายในโรงภาพยนต์งเรียกเสียงฮาอยู่ขณะนี้หรือเพลงลูกทุ่งชื่อดัง “ชิมิ” ของวงบลูเบอร์รี่จากค่ายอาร์สยามซึ่งคำว่า “ชิมิ” แผลงจากคำว่า “ใช่ไหม” (ส่วนคำว่า “ชิมิ” ตามชื่อหนังของคุณพจน์จะเป็นความหมายส่อทะลึ่งนิด)
แต่พวกเราก็ขอยืนยันว่าเว็บไซต์ Headlightmag.com ไม่สนับสนุนการใช้ภาษาวิบัติจนติดเป็นนิสัย คำเหล่านี้จัดอยู่ในหมวดภาษาแสลงซึ่งก็มีกันทุกยุคทุกสมัยจนผู้หลักผู้ใหญ่บางวงการในยุคนั้นต้องออกมารณรงค์ใช้คำดั้งเดิมให้ถูกหลักเสียก่อน
ส่วน Hyundai Veloster แปลกอย่างไร? คุณลองคิดดูสิครับ เราเคยเห็นรถสปอร์ตคูเป้ที่มีประตูเข้า-ออกห้องโดยสาร 3 บานด้วยกันทั้ง ๆ ที่ทั่วไปรถประเภทนี้มักจะติดตั้งประตูไว้แค่ 2 บานหรืออย่างเก่งก็จะเป็น 4 บานแบบตู้กับข้าวเหมือนกับ Mazda RX-8 จุดที่สร้างความแปลกประหลาดให้กับเราก็คือชุดประตูทั้ง 3 บาน ไม่มีบานไหนดีไซน์เหมือนกันเลย !! เรียกได้ว่ามันมีครบทุกอารมณ์กันจริง ๆ
ประตูฝั่งตัวรถด้านซ้ายหรือฝั่งคนขับพวงมาลัยซ้ายเป็นประตูที่มีขนาดยาวเหมือนกับรถสปอร์ตคูเป้ทั่วไป ส่วนประตูฝั่งด้านขวาหรือฝั่งผู้โดยสารกลับติดตั้งประตูถึง 2 บานซึ่งออกแบบให้เปิดแบบตู้กับข้าวยอดนิยมเหมือนในรถกระบะและรถสปอร์ตบางรุ่น
ความคิดเห็นส่วนตัวความแปลกใหม่นี้ ก็น่าจะเป็นจุดขายที่โดดเด่นสำหรับ Hyundai Veloster ไม่น้อยเลยทีเดียว
ดีไซน์ภายนอกได้รับอิทธิพลจาก Hyundai Veloster Concept ปี 2007 ราว 80% ผสมผสานแนวคิดการออกแบบ Hyundai ยุคใหม่ “Fluidic Sculpture” ลงไปจนเปลี่ยนเส้นสายสันเหลี่ยมตรงบางจุดจากรถต้นแบบให้กลายเป็นความโค้งมนกลมกลึงมากขึ้น
เมื่อมีการผสมผสานกันก็ทำให้รูปลักษณ์ของ Hyundai Veloster เวอร์ชันขึ้นสายการผลิตจริงมีปราดเปรียว น่าสนใจต่อผู้พบเห็นพอสมควร โดยเฉพาะด้านหน้าแทบจะถอดแบบจาก Hyundai Elantra ราวกับแพะชนแกะ
Hyundai เคลมว่าดีไซน์โดยรวมได้แรงบันดาลใจรถจักรยานยนต์ อาทิ การทาเสา A สีดำเพื่อให้ดูคล้ายกระจกบังลมหมวกกันน๊อค เป็นต้น และเพิ่มจุดเด่นด้วยฐานล้อที่ยาวกว่าปกติสร้างความสมดุลตัวถัง (Cab Forward Design) ส่งผลดีต่อขนาดห้องโดยสารโดยรวมแน่นอน
สื่อมวลชนชาวอเมริกันจากเว็บไซต์ Autoblog.com ได้ทดลองนั่งด้านหลังก็รู้สึกถึงความโอ่โถงของห้องโดยสารมากกว่าที่คิด อีกทั้งประตูบานที่สามก็ช่วยทำให้การเข้าออกห้องโดยสารตอนหลังสะดวกมากยิ่งขึ้นเหมือน Mini Clubman แต่รถสปอร์ตคูเป้ก็คือรถสปอร์ตวันยังค่ำเมื่อพบว่าพื้นที่วางขาตอนหลังยังเล็กไปสักนิด น่าจะเป็นรถที่พกพาเพื่อนฝูงไปช้อปปิ้งใกล้ ๆ บ้านดีที่สุด
ภายในห้องโดยสารก็ได้รับแรงบันดาลใจจากรถจักรยานยนต์เช่นกัน อาทิ แผงคอนโซลกลางดูคล้ายถังเก็บน้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์, ช่องแอร์ก็ดูคล้ายท่อไอเสีย เป็นต้น
จุดเด่นภายในรถคงไม่ใช่ดีไซน์แน่นอนแต่กลับเป็นเทคโนโลยี Blue Link system ระบบมาตรฐานสำหรับ Hyundai Veloster ทุกรุ่นที่ถูกออกแบบมาเพื่อรวมความบันเทิง, การตรวจสอบระยะเวลาที่ต้องนำรถเข้าบำรุงรักษา, ระบบนำทาง GPS ที่มีความสามารถค้นหาร้านอาหารได้ อีกทั้งยังสามารถควบคุมการโจรกรรมได้อีกด้วย และหากผู้ใช้ต้องการบริการพิเศษเพิ่มเติมก็ต้องเสียเงินเพิ่มอีกเช่นกัน
ระบบ Blue Link System มาควบคู่กับจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วมาตรฐาน หากคุณยังไม่พอใจกับระบบนำทางจาก Blue Link System ก็สามารถสั่งติดตั้งระบบนำทางสมบูรณ์เพิ่มได้ด้วย
ไฮไลต์สำคัญของ Hyundai Veloster จะต้องแง้มฝากระโปรงขึ้นมาดูหน้าตาขุมพลัง GAMMAเบนซิน 1.6 ลิตร GDI ฉีดเชื้อเพลิงตรง พร้อมวาล์วแปรผันคู่ DCVVT 138 แรงม้าที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 16.97 กิโลกรัมเมตรที่ 4,850 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะและเกียร์คลัทช์คู่ 6 จังหวะครั้งแรกของ Hyundai
Hyundai กล้าเคลมเลยว่าเครื่องยนต์บล๊อกนี้มีอัตราสิ้นเปลืองที่ดีกว่า Honda CR-Z ทั้ง ๆ ที่เป็นรถ Hybridเสียอีก!! เพราะมันมีอัตราสิ้นเปลืองนอกเมืองมากถึง 40 MPG หรือ 17 กิโลเมตรต่อลิตร
ระบบกันสะเทือนต้องยอมรับว่ายังอยู่ในรถคอมแพคท์ทั่ว ๆ ไป ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอสันสตรัท คอยล์สปริง โช๊คอัพแก๊ส พร้อมเหล็กกันโคลง 24 มม. ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชันบีม พร้อมเหล็กกันโคลง 23 มม.
ขณะนี้ราคาสำหรับ Hyundai Veloster ยังไม่ออกมาเป็นที่แน่ชัด แต่ Hyundai คาดการณ์ว่าราคาน่าจะเริ่มต้นที่ 17,000 ดอลลาร์ซึ่งมีคู่แข่งที่สำคัญอย่าง Scion tC, Mini Cooper และ Honda CR-Z จ่อคอหอยร่วมวงกันอยู่