หลังจากปล่อยให้ Honda Odyssey เจเนเรชั่นที่ 4 เวอร์ชันญี่ปุ่นทำตลาดโลดแล่น
มาตั้งแต่ปี 2008 จนต้องปล่อยลูกค้าชาวอเมริกันชะเง้อรอคอย Odyssey เวอร์ชัน
อเมริกาอยู่นานสองนานแล้ว
แม้ Honda จะปล่อยรถต้นแบบ Odyssey Concept ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์
ในงาน Chicago Autoshow 2010 แต่ก็มิได้มีคำมั่นสัญญาใด ๆ เลยว่ามันจะเตรียม
เปิดตัวให้รู้ซึ้งถึงคันจริงช่วงไหนกันแน่
วันนี้ Honda ภูมิภาคอเมริกาเหนือก็จัดการเผยโฉม Odyssey เวอร์ชัน US
เจเนเรชั่นที่ 4 ให้สมใจอยากนำเสนอนวตกรรมการออกแบบและฟีเจอร์ภายในรถ
บางประการสำหรับครอบครัวอเมริกันยุคใหม่
การแข่งขันตลาดมินิแวนในสหรัฐอเมริกาอยูในระดับปานกลางไม่ถึงกับตบตี
แย่งชิงกันเหมือนตลาดรถยนต์นั่งระดับคอมแพคท์และซีดานขนาดใหญ่ที่มียอดขาย
เกิน 2 หมื่นคัน/เดือน
ขณะเดียวกันก็ต้องออกแบบรถให้เอาใจผู้ใช้ประเภท Soccer Mum ที่มักขนลูก
ไปลุยทุ่งทำกิจกรรมตามที่ต่าง ๆ ให้ได้ ถ้าออกมาโดนใจลูกค้าแล้วล่ะก็รถรุ่นนั้นก็จะมี
ยอดขายที่ทรงตัวเรื่อย ๆ แม้มันจะไม่หวือหวามากนักก็ตาม
Honda เองก็เน้นพัฒนา Odyssey เอาใจลูกค้าชาวอเมริกาตั้งแต่เจเนเรชั่นที่ 1 แล้ว
เพียงแต่จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Honda เลือกพัฒนา Odyssey 2 เวอร์ชั่นระหว่าง
เวอร์ชันตลาดญี่ปุ่นที่เน้นความปราดเปรียวเพรียวบาง และเวอร์ชันอเมริกาเอาใจคนรักครอบครัว
เน้นรูปทรงบึกบึนเพื่อให้มีเนื้อที่ห้องโดยสารมากที่สุด
ยอดขาย Odyssey เจเนเรชั่นปัจจุบันก็ถือเป็นรถมินิแวนที่ขายดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา
และสามารถทำยอดขายได้คงวัดคงวาจนคู่แข่งต้องอิจฉาตาร้อนทั้ง ๆ ที่พยายามพัฒนาเอาใจตลาด
อเมริกันเต็มที่เหมือนกัน
แต่ใช่ว่า Honda จะมัวแต่ขายของเก่ากินไปเรื่อย ๆ คู่แข่งก็ต้องอัพสปีดพัฒนามินิแวนรุ่นใหม่ของตน
ให้กับเข้ากับรสนิยมชาวอเมริกันมากและต้องเหนือกว่า Odyssey ด้วยเช่นกัน
Honda Odyssey เวอร์ชันอเมริกันเจเนเรชั่นที่ 4 คือพัฒนาการใหม่ของมินิแวนยุคปัจจุบัน
เท่าที่ Honda พยายามจะสร้างสรรค์ได้ และดูเหมือนว่ามุขใหม่ ๆ ในการพัฒนารถมินิแวน
สำหรับตลาดอเมริกันเริ่มจะตัน ๆ กันแล้ว
Honda เองคงอยากฉีกแนวมินิแวนขายดีของตนแต่ก็ไม่กล้าฉีกจนแหกกระเจิงเสียจนลูกค้า
ชาวอเมริกันรับไม่ได้
Honda เริ่มใช้มุขการออกแบบใหม่ด้วยการทำเส้นขอบกระจกหน้าต่างแบบยึกยือไปมาที่เขา
เรียกว่า “เส้นสายฟ้าฟาด” ที่มีจุดแยกบริเวณเสา C ไม่เพียงแค่ดูแปลกตาเท่านั้น
แต่ยังช่วยเพิ่มทัศนวิสัยกระจกตอนหลังได้ด้วย อย่างน้อย ๆ ทำให้บรรยากาศ
ห้องโดยสารตอนหลังรู้สึกปลอดโปร่งขึ้น
การออกแบบรูปทรงตัวถัง Odyssey เวอร์ชันอเมริกันเจเนเรชั่นที่ 4
ดูเหมือนจะได้แรงบันดาลใจจาก Odyssey เวอร์ชันญี่ปุ่นแน่ ๆ เลย
เพราะมิติตัวรถจะเน้นความกว้างเพิ่มขึ้น 1.4 นิ้ว สวนทางความสูงกลับลดลง
1.6 นิ้ว แต่อย่าเพิ่งไปหวังว่ามันจะเพรียวสวยเหมือนกันเวอร์ชันญี่ปุ่นนะครับ
ส่วนรายละเอียดการออกแบบอื่น ๆ Honda ก็ไม่ค่อยพรรณนาสักเท่าไรนักแต่
เราก็สังเกตได้ว่ามีแนวการออกแบบด้านหน้าที่ดูเหมือน
Accord Crosstour ด้วยกระจังหน้าบานเกล็ด 3 ชั้นที่หักเหลี่ยมหักมุมได้แรง
ส่วนบั้นท้ายชวนนึกถึงรถ Honda ที่เคยจำหน่ายหลาย ๆ รุ่น
ภายในห้องโดยสารก็ถูกปรับปรุงให้มีความน่าใช้ขึ้นเยอะ จากแต่เดิมดีไซน์
ที่ดูจะล้าหลังนึกว่ารถในยุคปลาย 90 กลายเป็นมาแนว Honda ยุคใหม่มากขึ้น
มองในภาพรวมก็น่าจะนำเส้นสายการออกแบบภายในมาจาก Honda Accord
, Crv และ Pilot มาจับรวมกัน
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก Honda Odyssey รุ่นใหม่จัดอยู่ในระดับเทพ
ให้สมกับเป็นผู้นำตลาดมินิแวนตัวจริงในตลาดสหรัฐอเมริกา ได้แก่
-ติดตั้งชุดเครื่องเสียง AM/FM/XM/CD พร้อมลำโพง 12 ชิ้น
-ระบบนำทางผ่านดาวเทียมพร้อมคำสั่งเสียง
-จอ LCD เพื่อความบันเทิงสามารถแสดงผลแยกซ้ายและขวาได้
-ติดตั้งพอร์ต HDMI สำหรับการเชื่อมต่อกล้องถ่ายภาพ/กล้องวิดีโอเพื่อดูผ่านจอ LCD
รอบคันได้ครั้งแรกในรถมินิแวน
-สามารถจ่ายกำลังไฟกระแสสลับ 150 วัตต์
-กล่องทำความเย็นที่สามารถแช่น้ำกระป๋องได้ขณะรถวิ่ง
-จุดยึดที่นั่งเด็ก 5 ตำแหน่ง, ส่วนแบบ 3 ตำแหน่งจะติดตั้งบริเวณตอน 2
-ที่วางแก้วน้ำรอบคัน 15 จุด (จะเยอะไปไหน)
เครื่องยนต์ที่ติดตั้งใน Odyssey เวอร์ชันอเมริกา Honda ยกเครื่องยนต์
V6 3.5 ลิตร ที่สามารถทำงานในโหมด VCM ให้เครื่อทำงาน 3, 4 และ 6สูบ
ตามสภาวะการณ์ มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยในเมือง 19 MPG หรือ 8 กิโลเมตรต่อลิตร
นอกเมืองเฉลี่ย 11.9 กิโลเมตรต่อลิตร
นี่แค่น้ำจิ้มเท่านั้น รายละเอียดต่าง ๆ คาดว่า Honda จะส่งข้อมูลได้ในเร็ว ๆ นี้ครับ
รวมไปถึงกำหนดการวางจำหน่ายด้วย