หากลองมองไปย้อนกลับช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2009 Honda ก็เคยได้รับบทเรียนครั้งสำคัญกับการเปิดตัว Honda
Freed มินิแวน 7 ที่นั่งที่แทบจะเคาะสเปคตรงกับญี่ปุ่น แต่ด้วยราคาระดับ 9 แสนปลายถึง 1 ล้านบาทกับเครื่องยนต์ 1.5
ลิตรก็ทำให้หลายคนรับไม่ได้จนทำให้ยอดขายในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาลุ่ม ๆ ดอน ๆ แต่ด้วยการปรับตัวของทีมงานก็ทำให้
Honda Freed มีช่วงกว้างรุ่นและราคาเป็นที่น่าพอใจสำหรับครอบครัว ประกอบกับตัวเลือกของมินิแวนในเมืองไทยมีไม่
เยอะมากก็ทำให้ Honda Freed กลับมามียอดขายเป็นเบอร์ 1 ในหลาย ๆ เดือนได้

แต่ Honda ก็เชื่อว่าหลายครอบครัวยังมองว่า Honda Freed มีราคาสูงโด่งเกินจริงไปหน่อย เพราะเครื่องแค่ 1.5 ลิตร
แล้วยังมีราคา 8 แสนบวกแบบนี้ถือว่าแพงเกินไป ดังนั้น Honda จึงต้องเร่งออกมินิแวนรุ่นใหม่ที่มาจับกลุ่มครอบครัวที่
ต้องการความคุ้มค่าเป็นหลัก นั่นก็คือ Honda Mobilio ที่ลงทุนถึงขั้นขึ้นสายการผลิตในโรงงานโรจนะ จังหวัดอยุธยากัน
เลยทีเดียว

วันนี้ ( 12 กันยายน 2557 ) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว Honda Mobilio ใหม่ มินิแวนระดับ
Sub-Compact ที่ชูจุดเด่นด้านดีไซน์สปอต์ตทันสมัย ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ด้วยเบาะนั่งปรับพับได้
แบบพับตลบจังหวะเดียว (One Motion) เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน และพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ รองรับการใช้
งานที่หลากหลาย ราคาตั้งแต่ 597,000 – 739,000 บาท ตั้งเป้าจำหน่าย 10,000 คัน ภายในหนึ่งปี

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
“ปัจจุบันฮอนด้านำเสนอยนตรกรรมในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ ถึง 3 รุ่น ได้แก่ โอดิสซีย์ สเตปแวกอน สปาด้า และฟรีด
เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายและการใช้งานในหลายรูปแบบ ซึ่งทั้งสามรุ่นได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวไทยเป็น
อย่างดี สำหรับฮอนด้า โมบิลิโอ ใหม่ นี้ นับเป็นรถยนต์รุ่นที่ 4 ของกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ ที่มาเติมเต็มความต้องการ
ของตลาดในระดับต้นให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ในระดับราคาที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ และนับเป็นรถอเนกประสงค์รุ่นแรก
ของฮอนด้าที่ผลิตในประเทศไทย”

Honda Mobilio ใหม่ เป็นผลจากการทำงานร่วมกันระหว่างทีมพัฒนาชาวญี่ปุ่นและชาวไทย ณ ศูนย์วิจัย
และพัฒนารถยนต์ฮอนด้าประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ
ของลูกค้าทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย โดยได้รับการพัฒนาตามหลักการออกแบบตามปรัชญา Man Maximum
Machine Minimum ที่เน้นให้ความสำคัญสูงสูดต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ให้ความคล่องตัวในการขับขี่เหมือนรถซีดาน
นอกจากนี้ ยังมีความสูงจากพื้นถนนถึงใต้ท้องรถ 189 มิลลิเมตร เพื่อความสะดวกในการขนถ่ายสัมภาระ
และขับขี่ได้ทุกสภาพถนน ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ทั้งผู้โดยสารในแถวที่ 2 และแถวที่ 3 และ
ยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายขนาดใหญ่

Honda Mobilio ติดตั้งเครื่องยนต์ SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ให้
กำลังสูงสุด 120 แรงม้าที่ 6,600 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,600 รอบต่อนาที หรือยก
เครื่องยนต์มาจาก City/Jazz รุ่นที่แล้วซึ่งเติม E85 ไม่ได้

ถึงจะเป็นรถครอบครัวแต่ Honda ยังใส่ใจระบบความปลอดภัย อาทิ โครงสร้างตัวถังแบบ G-Force Control (G-CON)
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) และไฟเบรกดวงที่ 3
แบบ LED

ออพชั่นย่อยของ Honda Mobilio มีให้เลือก 4 รุ่นได้แก่

• รุ่น RS AT มาพร้อมกระจังหน้าแบบโครเมียมดีไซน์สปอร์ต ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟหรี่แบบ LED ไฟตัดหมอกคู่
หน้า กันชนหน้าและหลังแบบสปอร์ต พร้อมสเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ภายในสีดำ และ
มีเบาะนั่งเป็นแบบ 3 แถว โดยแถวที่ 2 พับแยกแบบ 60:40 พร้อมพับตลบแบบจังหวะเดียว (One Motion) และมีระบบ
ปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced
Touch มาพร้อมการเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่านช่องเชื่อมต่อ HDMI สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ลำโพง 4 ตัว
ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) ราคา 739,000 บาท
• รุ่น V AT ภายในสีเบจ และมีเบาะนั่งเป็นแบบ 3 แถว พร้อมระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ราคา
682,000 บาท
• รุ่น S มีทั้งแบบเกียร์อัตโนมัติ (AT) และเกียร์ธรรมดา (MT) ภายในสีดำ และมีเบาะนั่งเป็นแบบ 2 แถว
ซึ่งมีพื้นที่ด้านหลังเพื่อบรรทุกสัมภาระได้จำนวนมาก พร้อมถาดรองสัมภาระท้ายรถ เพื่อความสะดวก
ในการบรรทุกของต่าง ๆ รุ่น S AT ราคา 642,000 บาท และรุ่น S MT ราคา 597,000 บาท

Honda Mobilio มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำคริสตัล (มุก) และสีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) ในทุกรุ่น และเพิ่มสีขาวออร์
คิด (มุก) เฉพาะในรุ่น RS AT และรุ่น V AT และเพิ่มสีขาวทาฟเฟต้า เฉพาะในรุ่น S

ผู้อ่านที่สนใจ Honda Mobilio สามารถทดลองขับได้ที่โชว์รูมทั่วไทยหรือเข้าเว็บไซต์ www.honda.co.th/mobilio