ในเมื่อโดน Nissan Teana และเจ้าตลาดอย่าง Toyota Camry ถล่มเปิดตัวโฉมใหม่ และรุ่น Hybrid
ตลอดปี 2009 – 2010 อย่างหนัก Honda เอง ได้แต่เฝ้ารอเวลา ให้ถึงช่วงปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ เพื่อที่จะ
แย่งลูกค้าคืนมาจาก Teana กันได้บ้าง และวันนี้ (10 พฤศจิกายน 2010) Honda Automoblie (Thailand)
ก็พร้อมเปิดตัวรถยนต์ Honda Accord Minorchange รุ่นปี 2011 ออกสู่ตลาดเมืองไทยแล้ว ในที่สุด
ตามหลังการเผยโฉม ของเวอร์ชันสหรัฐอเมริกา และเวอร์ชันญี่ปุ่น (ในชื่อ Inspire) เพียงไม่กี่เดือน

ตลอดช่วง 10 เดือนแรกของปี 2553 ยอดจำหน่ายรถยนต์ Honda ในเมืองไทย อยู่ที่ 91,948 คัน
โดย Accord ยังคงเป็น 1 ใน 3 ของรถยนต์นั่งขนาดกลาง พิกัด D-Segment ที่ขายดีที่สุด มียอดขาย
ตั้งแต่เดือน มกราคม-ตุลาคม ปีนี้ รวม 4,842 คัน เพิ่มขึ้น 15% จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน

การปรับโฉมหลักๆ อยู่ที่ ชุดเปลือกกันชนหน้า พร้อมกระจังหน้าแบบใหม่ และแผงทับทิมไฟท้าย
บริเวณ ฝากระโปรงหลัง แบบใหม่ ที่ถอดยกมาจาก Honda Inspire เวอร์ชันญี่ปุ่น แบบไม่มีผิดเพี้ยน
และไม่มีการเปลี่ยนแปลง รายละเอียดขุมพลัง ระบบส่งกำลัง หรือพื้นฐานระบบกันสะเทือน
แต่อย่างใด ซึ่งก็เป็นไปตามการคาดการณ์ของผู้คนในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์บ้านเรา ก่อนหน้านี้

Honda Accord Minorchange เวอร์ชันไทย สำหรับ ปี 2011 จะมีให้เลือก 6 รุ่น และใช้เครื่องยนต์
i-VTEC 3 ขนาด ได้แก่ รุ่น 3.5 V6 เครื่องยนต์ บล็อก V6 DOHC 24 วาล์ว 3.5 ลิตร 275 แรงม้า (PS)
พร้อมระบบแปรผันการทำงานของกระบอกสูบอัตโนมัติ (VCM : Variable Cylinder Management)
พร้อมระบบ Active Control Engine Mount (ACM) เทคโนโลยีควบคุมเสียงรบกวน ANC (Active
Noise Control) ตามด้วย รุ่น 2.4 EL NAVI และรุ่น 2.4 EL เครื่องยนต์ บล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว  
2.4 ลิตร 180 แรงม้า (PS) ในขณะที่รุ่น 2.0 E รุ่น 2.0 EL และรุ่น 2.0 EL NAVI วางเครื่องยนต์ 4 สูบ
DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 156 แรงม้า (PS) ทุกรุ่นมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด ระบบควบคุม
แบบ Drive-By-Wire มีค่าไอเสียเทียบเท่ามาตรฐานไอเสียระดับ Euro 4 และสามารถใช้ได้กับน้ำมัน
เบนซิน ได้ถึงระดับ แก๊สโซฮอล์ E20

มาดูรายละเอียดหลักๆของ แต่ละรุ่นย่อยกันดีกว่า

– รุ่น 3.5 V6  ราคา 2,940,000 บาท มาพร้อมกับซันรูฟ ระบบ One-Touch ระบบนำทาง Navigator  
เครื่องเล่น DVD พร้อมกล้องส่องภาพด้านหลังซึ่งช่วยให้การถอยหลังและจอดง่ายขึ้น และฮาร์ดดิสก์
สำหรับบันทึกไฟล์เพลง (HDD Audio) กระจกมองหลังปรับลดแสงแบบอัตโนมัติ ระบบไฟหน้าแบบ
HID พร้อมระบบปรับไฟหน้าสูง-ต่ำแบบอัตโนมัติ ล้ออัลลอย 17 นิ้ว ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ม่านบังแดดกระจกหลังปรับไฟฟ้า เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า
8 ทิศทางพร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะ ระบบเชื่อมต่อแฮนด์ฟรีแบบไร้สาย Bluetooth ระบบ
เครื่องเสียงแบบ Premium sound system สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงติดตั้งที่พนักเท้าแขนของ
เบาะหลัง ถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ ถุงลมคู่หน้าด้านข้างอัจฉริยะพร้อมระบบเซ็นเซอร์แบบ OPDS
ม่านถุงลมด้านข้าง และระบบควบคุมการทรงตัว VSA พร้อมระบบเสริมแรงเบรก BA และกุญแจ
รีโมทแบบพับเก็บได้ พร้อมสัญญาณกันขโมย

– รุ่น 2.4 EL ราคา 1,547,000 บาท และรุ่น 2.4 EL NAVI ราคา 1,687,000 บาท มาพร้อมกับ
ไฟหน้าแบบ HID ระบบปรับไฟหน้าสูง-ต่ำแบบอัตโนมัติ ล้ออัลลอย 17 นิ้ว ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ 
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบเชื่อมต่อแฮนด์ฟรีแบบไร้สาย Bluetooth ระบบเครื่องเสียงแบบ 
Premium sound system สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ ถุงลมด้านข้าง
อัจฉริยะพร้อมระบบเซ็นเซอร์แบบ OPDS ม่านถุงลมด้านข้าง ระบบควบคุมการทรงตัว VSA พร้อมระบบ
เสริมแรงเบรก BA กุญแจรีโมทแบบพับเก็บได้ พร้อมสัญญาณกันขโมย กระจกมองหลังปรับลดแสงแบบ
อัตโนมัติและเบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะ ส่วนรุ่น 2.4 EL NAVI
เพิ่มระบบนำทางเนวิเกเตอร์ ที่มาพร้อมกับเครื่องเล่น DVD และกล้องส่องภาพด้านหลัง ช่วยให้การถอยหลัง
เข้าจอดง่ายขึ้น และฮาร์ดดิสก์สำหรับบันทึกไฟล์เพลง (HDD Audio) ส่วนรุ่น 2.4 EL เป็นเครื่องเล่นCD/MP3
แบบ 6 แผ่น

– รุ่น 2.0 E ราคา 1,265,000 บาท มาพร้อมกับ ล้ออัลลอย 16 นิ้ว เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง 
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เครื่องเล่นCD/MP3 แบบ 6 แผ่น สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
ถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ ถุงลมคู่หน้าด้านข้างอัจฉริยะพร้อมระบบเซ็นเซอร์แบบ OPDS กุญแจรีโมทแบบพับเก็บได้
พร้อมสัญญาณกันขโมย

– ส่วน 2 รุ่นย่อยใหม่ที่เพิ่มเข้ามา คือ รุ่น 2.0 EL 1,280,000 บาท และ 2.0 EL NAVI 1,420,000 บาท
มาพร้อมกับ  ล้ออัลลอย 17 นิ้ว เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ถุงลม
คู่หน้าอัจฉริยะ ถุงลมคู่หน้าด้านข้างอัจฉริยะพร้อมระบบเซ็นเซอร์แบบ OPDS  สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียง
บนพวงมาลัย กุญแจรีโมทแบบพับเก็บได้ พร้อมสัญญาณกันขโมย ทั้งนี้ในรุ่น 2.0 EL เป็นเครื่องเล่น CD/MP3
แบบ 6 แผ่น ส่วนรุ่น 2.0 EL NAVI เป็นระบบนำทางเนวิเกเตอร์ ที่มาพร้อมกับเครื่องเล่น DVD และกล้องส่องภาพ
ด้านหลังและฮาร์ดดิสก์สำหรับบันทึกไฟล์เพลง (HDD Audio) และระบบเครื่องเสียงแบบ Premium sound system

ทุกรุ่น มีสีตัวถังให้เลือก 5 สี คือ ขาวบริลเลียนท์ เงินอลาบาสเตอร์ เทาโพลิชเมทัล  ดำคริสตัล และ น้ำตาลเออร์เบิน
ไทเทเนียม (สำหรับสีพิเศษสีขาว เพิ่มอีก 10,000 บาท)

Honda Accord Minorchange รุ่นปี 2011 เปิดให้ลูกค้าจองแล้วตั้งแต่วันนี้ ณ โชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ Honda
ทั่วประเทศ และในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 27 (1-12 ธันวาคม) ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี    

———————————————–///———————————————-