นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วิกฤตเศรษฐกิจปลายปี 2008 ที่เรียกกันว่า Hamburger Crisis ก็ทำให้ทิศทางยุทธศาสตร์ของ Honda เริ่มเปลี่ยนทิศทางไปมาหลายครั้งจนน่าประหลาดใจอยู่ไม่น้อย นั่นก็เพราะว่า Honda ไม่อยากดำเนินกลยุทธ์ด้วยความสุ่มเสี่ยงอันก่อให้เกิดวิกฤตบริษัทล้มละลายเป็นอันขาดซึ่ง Honda ตั้งมั่นในนโยบายว่าจะต้องเป็นบริษัทรถยนต์ที่เป็นของคนญี่ปุ่นโดยแท้จริงเท่านั้น ถ้าเรียกคำทับศัพท์สำหรับพฤติกรรมอย่างนี้ควรเรียกว่า PlaySafe น่าจเหมาะบุคลิกของ Honda มาก

ย้อนกลับไปปีที่แล้ว Honda ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะไม่สานต่อโครงการพัฒนารถสปอร์ตตัวต่อไปของ NSX ที่ยกระดับจาก SuperCar ให้กลายเป็น Exotic Car เหนือชั้นกว่า NSX รุ่นดั้งเดิมขึ้นไปอีกขั้น พร้อมทั้งยกเลิกการพัฒนารถซีดานขนาดยักษ์ขับเคลื่อนล้อหลังวางขุมพลัง V8 เพราะเทรนด์ซีดานใหญ่เริ่มค่อย ๆ แผ่วปลายลงสวนทางกับรถยนต์ขนาดเล็กที่ค่อย ๆ เติบโตขึ้น ว่ากันว่ารถซีดานขนาดใหญ่ขับหลังคันนี้มันคือ Honda Legend ตัวต่อไปนั่นเอง

ล่าสุด Honda ก็กำลังจะเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งด้วยการยุติแผนการผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดมินิ (K-car)และแผนการผลิตรถเครื่องยนต์ดีเซลไอเสียสะอาดในโรงงานแห่งใหม่เขต Yorii ตอนเหนือกรุงโตเกียว และจะเตรียมผลิตรถยนต์ Hybrid แทนที่

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ Honda ต้องเปลี่ยนแผนกะทันหันเนื่องจากโรงงาน Yorii ต้องมีกำหนดแล้วเสร็จพร้อมประกอบรถยนต์คันแรกได้ในปี 2010 แต่เมื่อเหตุการณ์วิกฤติเศรษฐกิจปลายปี 2008 ก็ทำให้การสร้างโรงงานแห่งนี้ต้องเลื่อนออกไปไกลถึงปี 2013

Honda ก็ไตร่ตรองแผนการผลิตรถใหม่ทั้งหมดจากเดิมที่โรงงาน Yorii จะต้องประกอบรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลไอเสียสะอาดและรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดน้ำมัน แต่เมื่อมันมาผิดจังหวะไปไกลและ Honda เองก็ไม่สามารถลงทรัพยากรทุ่มทุนกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลไอเสียสะอาดตามค่ายรถยุโรปได้ทันแล้ว

อีกทั้ง Honda ก็มองเห็นว่าตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดมินิมันถูกจำกัดขายเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น ไม่สามารถส่งออกเพื่อทำรายได้ให้บริษัทแต่อันใด ดังนั้น Honda จึงต้องเบนเข็มไปยังตลาดรถยนต์ Hybrid ที่มีอัตราการเติบโตทั่วโลกน่าจะดีกว่า

บทสรุปของแผนยุทธศาสตร์ระดับโลกระยะกลางของ Honda จะถูกเปิดเผยต่อสื่อมวลชนภายในวันอังคารที่จะถึงนี้ เราก็จะทราบแล้วว่า Honda กำลังเตรียมพร้อมทำอะไรในอนาคตบ้าง