การลงสื่อโฆษณาใน Facebook ส่วนใหญ่มักจะประสบความสำเร็จในการต่อยอดธุรกิจส่วนตัวและผลิตภัณฑ์ที่มีขนาด
เล็กราคาพอเหมาะ แต่หากจะลงโฆษณาสินค้าที่มีขนาดใหญ่ราคาสูงมักจะประสบความสำเร็จในการสร้างการรับรู้
มากกว่าการสร้างยอดขาย นั่นเป็นเพราะว่าสินค้าขนาดใหญ่ลูกค้าจะต้องเห็นตัวจริงแล้วถึงตัดสินใจซื้อรวมถึงปัจจัยการ
ซื้อก็มีมากกว่ามาก

alt

จึงไม่น่าแปลกใจนักที่ GM เพิ่งตัดสินใจตัดงบโฆษณาบน Facebook เมื่อวันอังคารที่ 16 พฤษภาคม 2012 เพราะพวก
เขาได้วิเคราะห์ถึงประสิทธิภาพว่ามันต่ำกว่าสื่อออนไลน์อย่าง Google Adsense ที่สำคัญมีแนวโน้มค่าโฆษณา
Facebook อาจจะขึ้นเมื่อได้เปิดให้ประชาชนซื้อขายหุ้นอย่างเป็นทางการอาจจะวิเคราะห์ราคาตามกลุ่มเป้าหมาย

อย่างไรก็ตาม GM ยังไม่ได้ทอดทิ้งโอกาสทางการตลาดบนแฟนเพจแต่อย่างใด เพราะมันไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับการทำ
ตลาด และยังมีโอกาสที่ GM จะซื้อโฆษณาบน Facebook อีกครั้งหากวิเคราะห์ว่ามันมีประสิทธิภาพในการทำตลาด

นักวิเคราะห์ด้านวงการไอทีได้ลงความเห็นไว้ว่าโฆษณาบน Facebook เป็นโฆษณาที่ก่อให้เกิดพฤติกรรมการคลิกทำให้ผู้
ลงโฆษณาต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในอัตราส่วน 500 คลิกต่อการแสดงป้ายโฆษณา 1,000 ครั้งขณะที่ Google Adsense จะมี
อัตราส่วนเพียงแค่ 4 คลิกต่อการแสดงป้ายโฆษณา 1,000 ครั้ง

Google Adsense มีประสิทธิภาพในการทำตลาดตรงกลุ่มเป้าหมายมากกว่า สามารถดักหากลุ่มเป้าหมายอื่นบนเว็บไซต์
อื่นได้ ส่วนโฆษณาบน Facebook จะมีพฤติกรรมการด Like ที่เป็นเสียงสะท้อนเท่านั้น แต่ไม่ถึงกลุ่มเป้าหมายและเวลา
อย่างแท้จริง