สภาวะแบรนด์ Opel เมื่อดูจากภายนอกก็คงดูสบาย ๆ ไม่เดือดร้อนอะไรนัก รถก็สวยดูดีได้รับรางวี่รางวัลก็มาก ยอดขายในยุโรปก็ไม่ขี้เหร่เลย แต่มันก็กลับประสบปัญหาขาดทุนสม่ำเสมอมานานหลายปีแล้ว จนมีทั้งข่าวจริงในช่วงปี 2009 ว่า GM จะขายหุ้นกิจการทิ้ง ท้ายสุดก็เปลี่ยนใจเก็บมันไว้ต่อ และข่าวลือล่าสุดที่ไม่เป็นความจริงก็หวนกลับมาให้ได้ยินอีกครั้งหนึ่งว่า GM คิดจะขาย Opel อีกครั้งหนึ่ง

 

 

ภาระกิจหนักของ GM จะต้องฟื้นฟูกำไรกิจการ Opel อย่างด่วนที่สุด เพราะ Opel มีต้นทุนการผลิตและการพัฒนาสูงมาก ยิ่งในประเทศที่มียอดขายต่ำก็ยิ่งหากำไรได้ยาก และความท้าทายของ GM ก็คือต้องคิดวิธีใหม่ ๆ ในการฟื้นฟูหนักกว่าช่วงปีก่อน ๆ

แต่ผู้เชี่ยวชาญในวงการรถยนต์ก็แย้ง ๆ มาว่าการเปลี่ยนแปลง Opel ในยุโรปเป็นเรื่องยากมากเพราะ อุปสรรคของ Opel มันขึ้นอยู่กับโครงสร้างที่เกี่ยวข้องโดยรวม เช่น วัฒนธรรม, สื่อ, นโยบายการเมือง หากคิดจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะต้องกระทำหลายครั้งเพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด

GM เคยคิดจะปิดโรงงานและเลิกจ้างพนักงาน Opel หลายครั้งแต่ก็โดนรัฐบาลสอบสวนและสั่งห้ามนโยบายเหล่านั้น และปัญหาสำคัญของ Opel คือมันไม่ใช่แบรนด์ระดับโลก จนผู้ถือหุ้นส่วนสำคัญถกกันในที่ประชุมว่า Opel ยืนอยู่จุดใดกันแน่ เพราะ มันทับกับ Chevrolet อันเป็นแบรนด์รถยนต์ตลาดระดับโลก

ขณะเดียวกันผู้บริหาร Fiat ผู้เคยสนใจแบรนด์ Opel ในปี 2009 กล่าวว่าเขาไม่ได้สนใจรถแบรนด์นี้อีกแล้วเพราะตอนนี้ไปจับคู่กับ Chrysler เรียบร้อยแล้ว แต่ค่ายรถจีนน่าจะสนใจ Opel อย่างมากเพราะถือเป็นโอกาสขยายแบรนด์เข้าสู่ตลาดเอเชียได้

และข่าวล่าสุดปิดท้ายจากนิตยสาร Auto Motor und Sport ว่า Opel กำลังรีเทิร์นเข้าสู่ตลาดอเมริกาอีกครั้งด้วยการส่งรถยนต์นั่งขนาด A-Segment ที่มีชื่อเล่นว่า Opel Junior เพราะเชื่อมั่นว่าชื่อ Opel ที่นั่งยังไม่ได้เน่าเสียมากนัก