พักนี้เราน่าจะเห็นผู้ผลิตรถรายใหญ่หันมายุบรถยนต์ในสายการผลิตที่ซ้ำซ้อนต่างภูมิภาคให้เป็นรถยนต์เพียง 1 รุ่นเท่านั้น สาเหตุหลัก ๆ คงหนีไม่พ้นหลักการด้านการจัดการต้นทุน สาเหตุรองลงมาคือผลวิจัยความต้องการลูกค้าส่วนใหญ่คล้อยไปในแนวเดียวกันจึงไม่จำเป็นต้องพัฒนารถ 2 รุ่น 2 ตัวถังแยกออกมาต่างหากและที่สำคัญคือการรักษาความเป็นเอกภาพของแบรนด์ทั่วโลก
ทุกข้อที่กล่าวมาข้างบนนั้นล้วนแต่เป็นสาเหตุของการจับรถเอสยูวีและครอสโอเวอร์ 2 รุ่นดังจากซีกโลกทั้ง Ford Escape และ Ford Kuga ให้เป็นรถรุ่นเดียวกันตามนโยบาย One Ford หนึ่งรุ่นขายได้ทั่วโลก
การแสดงออกของ Ford ถึงความจริงจังในบุกตลาดรถประเภทคอมแพคท์เอสยูวีทั่วโลกอย่างแท้จริง วิธีการที่ง่ายที่สุดคือการเปิดเผยโฉมรถต้นแบบให้โลกรู้ว่าข้าเอาจริง นี่จึงเป็นที่มาการเปิดเผยโฉม Ford Vertrek Concept
Ford Vertrek Concept ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐาน Global C-Platform อันเป็นแพลทฟอร์มยุทธศาสตร์ระดับโลกที่หมายมั่นปั้นมือให้ตอบสนองทุกความต้องการลูกค้าด้วยการส่งรถยนต์รุ่นใหม่บนแพลทฟอร์มนี้ถึง 10 รุ่นจนตั้งเป้าหมายยอดจำหน่ายมากถึง 2 ล้านคันภายในปี 2012
ความคาดหวังของ Ford Vertrek ก็คือการตอบสนองกระแสการเติบโตตลาดเอสยูวีทั่วโลก ยกตัวอย่างตลาดอเมริกาก็มีส่วนแบ่งการตลาดรถเอสยูวีขึ้นมากกว่าเท่าตัวนับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา รวมไปถึงตลาดอื่นก็เริ่มมีความต้องการรถเอสยูวีเพิ่มขึ้นเช่น ยุโรปและประเทศจีน เป็นต้น
ดีไซน์ของ Ford Vertrek Concept ถูกออกแบบเพื่อตอบโจทย์คนใช้รถทั่วโลกอย่างแท้จริงจน Mr. Derrick Kuzak รองประธานดูแลฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลกกล่าวออกมาว่ารถคันนี้ถือเป็นการปฏิวัติรถกลุ่มนี้ในตลาดอเมริกาเหนือไปเลย (เพราะส่วนใหญ่รถครอสโอเวอร์มักจะมาแนวบึกบึน) ส่วนตลาดนอกอเมริกาเหนือส่วนใหญ่จะมองรถคันนี้เป็นรถที่สวยงาม
ภาพรวมงานออกแบบของรถคันนี้มีความสปอร์ตโฉบเฉี่ยว เพรียวบางขึ้นมากตามแนวคิด Kinetic Design จาก Ford ภาคพื้นยุโรป ประหยัดน้ำมัน สามารถบรรจุผู้โดยสารและบรรทุกสัมภาระได้ตามต้องการ ที่สำคัญยังมีความสามารถการลุยป่าฝ่าดงแบบออฟโรดตามความต้องการของลูกค้าชาวอเมริกันได้
เครื่องยนต์กลไกของ Ford Vertrek Concept ก็ใช้ร่วมกับรถร่วมแพลทฟอร์มอย่าง Ford Focus และ Ford C Max ด้วยเครื่องเบนซิน 1.6 ลิตร Ecoboost ให้ทั้งความประหยัดน้ำมันและลดมลภาวะ ซึ่งภายในปี 2013 Ford จะใช้เครื่องยนต์ชนิดนี้กว่า 80% ของรถยนต์ Ford ทั่วโลกและ อีก 90% จะพบเห็นเครื่องเหล่านี้ในรถยนต์ Ford ตลาดอเมริกาเหนือด้วย
เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Duratorq รุ่นใหม่ที่ปรับปรุงอัตราสิ้นเปลืองให้ดีขึ้น รวมไปถึงสามารถลดค่าไอเสีย CO2 ได้ถึง 7% เมื่อเทียบกับเครื่องดีเซลบล๊อกปัจจุบัน ที่สำคัญเครื่องยนต์ทุกรุ่นยังติดตั้งระบบ Idle Stop ที่ Ford เรียกว่า Auto Start-Stop ที่สามารถติดเครื่องได้ภายใน 0.3 วินาที พร้อมพ่วงระบบแบตเตอรี่สำรองไฟที่ชาร์จประจุด้วยการแปลงพลังงานจลน์จากการเบรคให้เป็นไฟฟ้าได้
แม้ใน Press Release จะยังไม่ระบุถึงการเปิดตัวเวอร์ชันคันขายจริงของ Ford Vertrek Concept แต่ก็คงคาดการณ์ได้ไม่ยากนักว่าน่าจะได้เห็นในช่วงปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้าครับ